ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 441 คุณชายสามเย่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 441 คุณชายสามเย่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว (2)
บทที่ 441 คุณชายสามเย่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว (2)
“อันนี้ก็พูดยากนะ เพราะยังไงเสียเธอกับไป๋ยี่รุ่ยก็……”เวินจื้อหลงได้ทีก็ยุให้รำ ตำให้รั่ว
“คุณปู่ต้องการพักผ่อน หากพวกคุณมีธุระอะไรก็ออกไปคุยกันข้างนอกได้”ดวงตาของเวินลั่วฉิงลุ่มลึก ตอนนี้ร่างกายคุณปู่เพิ่งจะดีขึ้นมาบ้าง พวกเขาก็มาสร้างความโกลาหลที่นี่ มันเกินไปหน่อยแล้ว
“เวินลั่วฉิง อย่างมาเสแสร้งหน่อยเลย กล้าพูดไหมว่าเมื่อกี้ไม่ได้ไปหาไป๋ยี่รุ่ยมา?กล้าพูดไหมว่าเมื่อก่อนไม่รู้เรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยกระทำ?”เวินจื้อหลงยิ้มหยัน เห็นได้ชัดว่าสืบเรื่องได้อย่างละเอียดรอบคอบมาก
“ฉิงฉิง ทำไมหนูถึงทำเช่นนี้ หนูถูกตระกูลเวินชุบเลี้ยงมา ตระกูลเวินมีบุญคุณต่อหนูไม่น้อยเลยนะ และคุณปู่ก็เอ็นดูหนูด้วย ทำไมถึงได้ทำร้ายตระกูลเวินได้ลงคอล่ะ”หลี่หยุนพูดจาใส่พริกใส่ขิงให้มากความเพิ่มขึ้นตามเวินจื้อหลงด้วย
“เธอกับไป๋ยี่รุ่ยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาเหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยก ไม่แน่ว่าตอนที่เธอเพิ่งจะกลับเข้ามาบ้านตระกูลเวินก็สมคบคิดกับไป๋ยี่รุ่ยเรียบร้อยแล้ว……”บัดนี้เวินจื้อหลงยิ่งพูดยิ่งเลยเถอะไปไกลใหญ่
เหอซิ่วผิงถูกบ้านพวกเขาบีบจนต้องหลบอยู่อีกมุมหนึ่ง บัดนี้ได้ฟังพวกเขาทั้งบ้านใส่ความเสียดสีใส่เวินลั่วฉิง เหอซิ่วผิงก็อดที่จะร้อนใจไม่ได้ แต่ทว่าเธอก็รู้ว่าออกความคิดเห็นในสถานการณ์เช่นนี้ มันไม่เหมาะสมนัก
“พอแล้ว พวกนายอย่ามาจงใจพูดอย่างนี้ตรงหน้าฉันเลย ฉันรู้ทุกอย่างดีกว่าพวกนายเสียอีก”ทันใดนั้นคุณปู่เวินก็ตวาดเสียงตัดบทพูดของเวินจื้อหลงทิ้ง
“คุณปู่ครับ ท่านอย่าโดนเธอหลอกเอานะครับ เธอเพิ่งไปหาไป๋ยี่รุ่ยมาจริงๆ”เวินจื้อหลงเห็นคุณปู่คอยปกป้องเวินลั่วฉิง จึงรู้สึกร้อนรนขึ้นไปอีก
“ฉันให้เธอไปหาไป๋ยี่รุ่ยเอง”คำพูดประโยคเดียวของคุณปู่เวินก็สามารถหุบปากทุกคนให้เงียบสงบลงได้
“ฉันให้ทนายเขียนพินัยกรรมไว้แล้ว ทุกอย่างของตระกูลเวินจะตกเป็นของฉิงฉิงแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งรวมไปถึงบริษัทของตระกูลเวิน โฉนดที่ดินของตระกูลเวิน และรวมทรัพย์สินทุกอย่างของตระกูลเวินด้วย”คำพูดของคุณปู่เวินหยุดไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อสาร
ถึงแม้ตอนนี้ทุกย่างก้าวของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปจะเต็มไปด้วยขวากหนาม แต่ทว่ายังไงเสียก็ยังไม่ได้ล้มละลาย หากสามารถหาเงินสดมาหมุนเวียนก็จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก แน่นอน หากไม่อยากจะบริหารอีกก็สามารถขายบริษัทเวินซื่อกรุ้ปทิ้ง ซึ่งยังคงได้รับเงินจำนวนไม่น้อยทีเดียว ลำพังตึกของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปที่ตั้งอยู่ในทำเลทองก็มีมูลค่ามากมายแล้ว
เหอซิ่วผิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก สีหน้าเผยความโล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ?พ่อให้ทุกอย่างกับเธอ แล้วพวกเราจะทำยังไงดีล่ะ?”เวินจีหยันฟังจนเอ๋อไปเลย พลางจ้องมองคุณปู่เวินอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนคนอื่นต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ไม่ว่าจะยังไงก็คาดไม่ถึงว่าคุณปู่จะทำกันได้ลงคอถึงเพียงนี้ ซึ่งมอบทุกอย่างให้แก่เวินลั่วฉิง แต่กลับไม่เหลืออะไรให้พวกเขาเลย?
“ความหมายของฉันนั้นชัดเจนดีอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันจะให้ทนายความไปร่างออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ฉันอยากพักแล้ว พวกนายออกไปเถอะ ฉิงฉิงอยู่ดูแลฉันก็พอแล้ว”
“คุณพ่อ ทำไมถึงทำยังไงนี้ได้?ทำไมถึงเอาทุกอย่างของตระกูลเวินให้เธอ?ทั้งๆที่เธอร่วมมือกับไป๋ยี่รุ่ยมาทำร้ายตระกูลเวินของพวกเราแท้ๆ……”บัดนี้เวินจีหยันร้อนใจมากเสมือนมดที่ถูกต้มอยู่ในหม้อน้ำเดือด
“ไป๋ยี่รุ่ยคือภัยที่นายรนหามาเอง ไม่เกี่ยวข้องกับฉิงฉิงแม้แต่น้อย”คุณปู่เวินมองเวินจีหยันแวบหนึ่ง สีหน้าแฝงความเหน็บหนาวจากการท้อแท้ใจเล็กน้อย
“คุณพ่อพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?ผมไม่รู้จักไป๋ยี่รุ่ยสักหน่อย จะเกี่ยวข้องกับผมได้ยังไง?”เวินจียหยันตะลึงงัน แน่นอนการโต้ตอบจึงเป็นการตอบสนองแรกของเขา
“พ่อของไป๋ยี่รุ่ยคือไป่จิ้งเย่ เมื่อก่อนนายทำลายบริษัทของตระกูลไป๋จนย่อยยับ ส่งผลให้ไป่จิ้งเย่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ไป๋ยี่รุ่ยจึงมาแก้แค้นแทนพ่อเขา”เดิมทีคุณปู่เวินนั้นไม่อยากจะพูด แต่ทว่าตอนนี้เวินจีหยันยังบ่ายเบี่ยงความผิดให้กับเวินลั่วฉิง คุณปู่เวินจึงไม่อยากข่มอารมณ์ไว้อีกต่อไป
“ไป่จิ้งเย่?เหมือนจะมีคนคนนี้อยู่จริง แต่ตอนนั้นพวกเราแค่แข่งขันกันทางธุรกิจเท่านั้น เป็นเพราะเขาไม่มีปัญญาถึงได้พ่ายแพ้
อย่างราบคาบ เขายอมรับไม่ได้ก็ไปกระโดดตึกตายเอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมด้วยล่ะ?”เห็นได้ชัดว่าเวินจีหยันไม่ได้รู้สึกว่า
ตัวเองเป็นฝ่ายผิดแต่อย่างใด ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะใช้เส้นสายและวิธีการสกปรกก็ตาม แต่ทว่าการแข่งขันก็ต้องโหดร้ายอยู่แล้ว การที่
ไป่จิ้งเย่พ่ายแพ้นั่นก็เพราะว่าเขามีความสามารถไม่เพียงพอต่างหาก
แต่ทว่าเขาคาดไม่ถึงเลยว่าไป่จิ้งเย่จะยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ จนถึงขั้นกระโดดตึกฆ่าตัวตาย
เวินลั่วฉิงได้ฟังคำพูดของเวินจีหยัน ดวงตาทั้งคู่ก็ลุ่มลึกขึ้นมาอีกครั้ง เธอเคยสืบเรื่องนี้ก็พบว่า ตอนนั้นเวินจีหยันอยากจะสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคุณปู่ จึงได้เล่นงานบริษัทของตระกูลไป๋ ซึ่งการกระทำของเวินจีหยันในตอนนั้น มันไม่ต่างอะไรจากการแย่งชิงด้วยกำลังเสียเลย
“เหอะ”คุณปู่เวินเอ่ยด้วยความเบื่อหน่าย ไม่อยากจะโต้เถียงกับเขาให้มากความ เพียงแต่เสริมด้วยประโยคเรียบเฉยว่า “ฉะนั้นสิ่งที่ไป๋ยี่รุ่ยทำในวันนี้ก็เป็นเพียงการแข่งขันทางธุรกิจเท่านั้น”
“ซึ่งครั้งนี้ตระกูลเวินเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไป๋ยี่รุ่ยก็แค่ใช้วิธีเดิมย้อนกลับมาหาเราเฉยๆ ดังนั้นจุดจบที่ตระกูลเวินพบเจออยู่ในขณะนี้ก็เพราะนายเป็นคนก่อ ฉิงฉิงก็พลอยรับเคราะห์ไปด้วย ตอนนี้พวกนายไปได้แล้ว”คุณปู่เวินเริ่มขับไล่ผู้คนแล้ว
ในใจคุณปู่เวินทราบดีว่าที่ไป๋ยี่รุ่ยยั้งมือในขั้นสุดท้ายก็เพราะเวินลั่วฉิงเพียงคนเดียว ฉะนั้นทุกสิ่งของตระกูลเวินควรตกเป็นของฉิงฉิง
“คุณพ่อ ถึงแม้จะเป็นความผิดของจีหยัน แต่จื้อหลงกับหรวนหรวนก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านควรจะคิดเผื่ออนาคตของเด็กสองคนนี้บ้างนะคะ”หลี่หยุนอยากใช้เด็กสองคนนี้ เพื่อให้คุณปู่ใจอ่อน
“พวกเขามีมือมีเท้า ทำไมจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้”เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าคุณปู่เวินนั้นใจแข็งมาก คำพูดประโยคเดียวก็เพียงพอแก่การสื่อความหมายของเขาแล้ว
หลี่หยุนตกตะลึงรู้ว่าพูดต่อไปในสถานการณ์เช่นนี้ก็ไร้ประโยชน์ เธอจึงจ้องเขม่นเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง ไม่สามารถโน้มน้าวใจคุณปู่ได้
ถ้าเช่นนั้นเธอก็คงต้องใช้วิธีอื่นแล้ว แต่ยังไงเธอก็จะไม่มีทางยอมให้สมบัติของตระกูลเวินตกอยู่ในมือของผู้หญิงสารเลวคนนี้เด็ดขาด
“ฉิงฉิง คุยกับไป๋ยี่รุ่ยเป็นยังไงบ้าง?พวกหนู……”พวกเวินจีหยันออกไป คุณปู่เวินก็มองมายังเวินลั่วฉิง อยากจะรู้บทสรุปที่พวกเขาคุยกัน
“คุณปู่ควรพักผ่อนแล้วนะคะ”เห็นได้ชัดว่าเวินลั่วฉิงไม่อยากพูดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ปู่รู้ว่าหลายปีมานี้เขายังไม่ได้แต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้นแม้กระทั่งแฟนสาวก็ไม่มี เพราะเขารอคอยหนูเสมอมา โธ่ เด็กคนนี้ก็ลำบากแท้ๆ ที่จริงเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของเขาเลย หลายปีมานี้ถึงเขาจะโจมตีตระกูลเวิน แต่เขาไม่เคยใช้วิธีสกปรกเลย เพราะความสามารถของปู่เทียบเท่าเขาไม่ได้เอง ดังนั้นจึงต้องแพ้ เขาเป็นคนที่มีหัวการค้าดีมาก มีความสามารถที่โดดเด่น ฉะนั้นปู่ก็ถือว่าแพ้อย่างสมศักดิ์ศรีอยู่ ปู่ไม่ได้โทษเขา หนูก็ไม่จำเป็นต้องถือสากับเรื่องพวกนั้น”บัดนี้คุณปู่เวินพยายามช่วยไป๋ยี่รุ่ยพูดในทางที่ดี
ใช้ชีวิตมาจนถึงปูนนี้ บวกกับการล้มป่วยหนักของครั้งก่อน จึงทำให้เขาปลงกับทุกๆเรื่องที่ผ่านมา
เขาก็รู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยเป็นเด็กที่ไม่เลวเลย และรักเดียวใจเดียวกับฉิงฉิงด้วย ขอเพียงฉิงฉิงมีความสุข ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบเบาๆ เธอไม่ได้ถือสาที่ไป๋ยี่รุ่ยโจมตีตระกูลเวิน แต่เธอถือสาที่เธอนั้นได้ทุ่มเททุกความรู้สึกดีๆให้แก่ไป๋ยี่รุ่ย แต่เขากลับมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง…