ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 446 ความจริงในห้าปีก่อนกระจ่างเสียที (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 446 ความจริงในห้าปีก่อนกระจ่างเสียที (1)
บทที่ 446 ความจริงในห้าปีก่อนกระจ่างเสียที (1)
เธอรู้ว่าต้องเป็นแผนการของเย่ซือเฉินเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นเลขาหลิวคงไม่กล้าทำเช่นนั้นหรอก
เธอจำได้ว่าตอนหลังเธอคิดจะเดินออกมา แต่ก็พบเย่ซือเฉินเข้า
เธอยังจำได้ดีว่าได้ด่าเย่ซือเฉินก่อนที่เธอจะสลบไสลไป
ในใจลึกๆของเวินลั่วฉิงนั้นตื่นตระหนกตกใจ มองสำรวจเสื้อผ้าในตัวเธอด้วยสัญชาตญาณ ซึ่งเธอยังคงสวมใส่เสื้อผ้าเมื่อวานอยู่ ร่างกายของเธอก็ไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ฉะนั้น เมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น
สามารถพูดได้ว่าเมื่อคืนเย่ซือเฉินนั้นสุภาพบุรุษอยู่ในขอบเขตมาก แม้กระทั่งเสื้อผ้าของเธอก็ไม่ได้แตะต้อง ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายเธอก็ไม่มีร่องรอยของคู่สวาทแต่อย่างใด
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไม่เหมือนนิสัยของเย่ซือเฉินเลย แต่เธอก็ยังแอบถอนหายใจหนึ่งครั้ง ถ้าหากเมื่อคืนเย่ซือเฉินฉวยโอกาสตอนเธอมึนเมามาล่วงเกินเธอ เธอจะต้องฆ่าเขาแน่ๆ
ไม่ เธอจะหั่นน้องชายเขาทิ้งเลย
ฉะนั้น คุณชายสามเย่จึงรับรู้อนาคตได้โดยที่ไม่ต้องทำนายเลย ซึ่งคาดเดาได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
แน่นอน ถึงแม้เมื่อคืนเขาไม่ได้แตะต้องตัวเธอ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่จบ เวินลั่วฉิงยังคงจำเรื่องสัญญาที่แปลกประหลาดฉบับนั้นได้ดี และยังจำเรื่องที่เย่ซือเฉินผสมเหล้าในน้ำดื่มของเธอได้ดี
เวินลั่วฉิงพลิกตัวมานั่งมองเย่ซือเฉิน พบว่าเย่ซือเฉินนอนอยู่ด้านข้างเธอกำลังลืมตาจ้องมองเธอ
“เย่ซือเฉินคุณหมายความว่ายังไง?”เวินลั่วฉิงเห็นหน้าเขาก็อดโมโหไม่ได้ บัดนี้เธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย
“อะไรหมายความว่าไง?”เย่ซือเฉินมองหน้าเขา พลางยกคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
เขาในตอนนี้ไม่ได้ขยับเขยื้อน นอนหงายอยู่อย่างนั้น มองเธอด้วยรอยยิ้มดุจดวงตาที่เปล่งประกายและปากที่คล้ายกับหยกที่ผ่านการแต่งแต้มเติมสีมาแล้ว มันช่างเซ็กซี่เย้ายวนใจยิ่งนัก
เวินลั่วฉิงหยุดชะงักเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงพูดของเขาหรือเป็นเพราะ ‘รูปโฉมที่ดึงดูดใจ’กันแน่
เวินลั่วฉิงรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นถี่เร็วขึ้นเล็กน้อยของตัวเองกะทันหัน
“สัญญาที่พูดถึงเมื่อวานคืออะไร?”นาทีต่อมาเวินลั่วฉิงก็ได้สติกลับคืนมา รับรู้ได้ถึงความบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับของเขา ในเมื่อเขาไม่ยอมรับก็ถามตรงไปตรงมาเลยล่ะกัน
“สัญญาอะไร”แต่ทว่าเย่ซือเฉินยังคงทำหน้าไร้เดียงสา หางคิ้วยังจงใจยกขึ้นเล็กน้อยราวกับไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น
“……”เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก คนนี้กำลังความหมายว่ายังไงกันแน่?เห็นได้ชัดว่าเมื่อวานเป็นความคิดของเขา และที่สำคัญเขาเซ็นสัญญาฉบับนั้นตอนเธอสมองสะลึมสะลืออยู่ ต้องเป็นฝีมือชั่วๆของเขาแน่ ตอนนี้เขากลับทำเป็นไม่รู้อิโหน่อิเหน่ซะงั้น?
ไม่ เขาไม่อยากยอมรับต่างหาก
“เมื่อวานคุณใช้เลขาหลิวเอาสัญญามาพบฉัน แถมยังบอกว่าจะฟ้องร้องฉันอีก ทำไม?ผ่านไปแค่คืนเดียวก็จำไม่ได้แล้วเหรอ?”บัดนี้ในใจเวินลั่วฉิงโมโหมาก ทำไมคนนี้ถึงได้ตอแหลขนาดนี้นะ?เขากลายเป็นคนอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดไม่มีสัญญาอะไรทั้งนั้น และยังมีอีก ผมจะฟ้องคุณได้ยังไงกัน?ผมจะทำลงคอได้ไง?”บัดนี้เย่ซือเฉินคิดจะตอแหลให้ถึงที่สุด
เขาสร้างสัญญาขึ้นมาเพียงเพื่อให้เธอออกมาหา เพื่อจะพาเธอมาที่นี่ ตอนนี้ก็ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว เขาจึงไม่มีทางยอมรับเรื่องสัญญาเด็ดขาด
เมื่อคืน เขาได้ทำลายหลักฐานทั้งหมดด้วยตัวเองแล้ว
เขาไม่ได้โง่เขลาจนทิ้งร่องรอยให้เธอมาคิดบัญชีกับเขาหรอก?
เวินลั่วฉิงจ้องมองเขาอย่างโมโหที่สุด จนมือของเธอกำหมัดไว้แน่น เธออยากจะกระทืบเขาแรงๆสักครั้งหนึ่งจังเลย
เมื่อวานเขาหลอกล่อเธอออกมาจนทำให้เธอเมา ตอนนี้กลับไม่ยอมรับหน้าตาเฉย?
เมื่อวานเธอเห็นสัญญาฉบับนั้นกับตา เป็นเพราะเห็นเนื้อหาในสัญญา ฉะนั้นเธอจึงตกลงออกมาพบเจอเลขาหลิว
ฉะนั้น จะให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยไม่รู้สาเหตุไม่ได้ เธออาจไม่ถือสาเขาในเรื่องอื่นๆ แต่เธอต้องทำความเข้าใจกับเรื่องสัญญาฉบับนั้นให้ได้
“สัญญาฉบับนั้นมันเป็นยังไงกันแน่?”เวินลั่วฉิงข่มอารมณ์ความโกรธเคืองเอาไว้ ถามขึ้นมาอีกหนึ่งรอบ บัดนี้เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของเธอนั้นเริ่มเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย เพราะในใจเธอกำลังเกิดเพลิงแห่งความโกรธอยู่จึงมีน้ำเสียงบุ่มบ่ามไว้ด้วย
“ผมรับรองได้ไม่มีสัญญาอะไรทั้งสิ้น อย่าคิดไปเรื่อย”บัดนี้ถึงจะตีเย่ซือเฉินให้ตายก็ไม่ยอมรับเรื่องสัญญาอย่างแน่นอน
“เย่ซือเฉิน คุณ คุณ……”เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตนเองโมโหจนจะระเบิดอยู่แล้ว เอ่ยแต่คำว่า คุณตั้งนมนานก็ยังพูดประโยคที่สมบูรณ์ออกมาไม่ได้เสียที
“ที่รัก อย่าโกรธเลย”เย่ซือเฉินราวกับทนดูไม่ลง ลุกขึ้นเพื่อไปปลอบประโลมเธอ
เขาได้ห่มผ้านวมไว้ตอนที่เขานอนอยู่ บัดนี้จู่ๆเขาก็ลุกขึ้น ผ้านวมบนร่างกายของเขาจึงลื่นไหลลงไป ท่อนบนที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าของเขาจึงเปิดเผยออกมาจบหมดเปลือง
จากนั้นเวินลั่วฉิงก็เห็นร่องรอยพวก‘น่าเวทนาเกินกว่าจะทนดูได้’
“ทำไมตัวคุณจึงเป็นเช่นนี้?”บัดนี้เวินลั่วฉิงกำลังโกรธอยู่ แต่เมื่อเห็นบนตัวเขาอยู่ในสภาพ ‘น่าเวทนาเกินกว่าจะทนดูได้’สมองก็ถูกกระตุ้นจนหลุดปากพูดคำนี้ออกมา
เมื่อสิ้นเสียงของเวินลั่วฉิง เธอจึงรับรู้ได้อะไรบางอย่างว่าตนไม่ควรถามเช่นนี้ ไม่น่าถามเลยจริงๆ ถามแล้วจะต้อง……
แต่เมื่อเธอได้สติก็สายเกินไปเสียแล้ว
“ก็คุณกัดไง”ตอนแรกเย่ซือเฉินก็จงใจลุกขึ้นยืนในเวลาอย่างนี้เพื่อให้เธอเห็นทันที ฉะนั้นเมื่อเธอถาม เขาก็ต้องตอบ แถมยังถามทันทีเสียด้วย
เวินลั่วฉิงตกใจ เธอกัดเหรอ เธอไปกัดตั้งแต่เมื่อไหร่?
ใช่แล้ว เมื่อคืนเธอเมาเหล้า หลังที่เธอเมาแล้วจะคลุ้มคลั่งเป็นอย่างมาก มีความเป็นไปได้ที่จะทำอะไรต่อมิอะไรขึ้นมา
ฉะนั้น นี่หมายความว่าเธอกัดตอนที่เมาอย่างนั้นเหรอ?
“พวกนี้เป็นฝีมือคุณตีล้วนๆ พวกนี้ก็เป็นรอยที่คุณกัดหมดเลย”มือของเย่ซือเฉินชี้ไปยังร่องรอยบนตัวด้วยสีหน้าที่น่าโศกเศร้า
เวินลั่วฉิงมองตามรอยบนตัวเขา ดวงตาก็กะพริบแล้วกะพริบอีก จากนั้นถุยน้ำลายกะทันหัน “เมื่อคืนฉันเมา ไม่สิ เพราะคุณมอมเหล้าฉันเอง”
ขณะที่เวินลั่วฉิงพูดคำนี้ออกมานั้น น้ำเสียงไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่แอบใจเสียด้วยซ้ำ “ฉะนั้น คุณก็สมควรโดนแล้ว”
เห็นรอยแผลบนตัวเขา เวินลั่วฉิงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง รู้สึกได้รับความยุติธรรมจึงไม่ได้โกรธมากแล้ว เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าหากมีในอาการปกติ เย่ซือเฉินทำอย่างนั้นกับเธอ อันที่จริงเธอก็ทำอะไรกลับเย่ซือเฉินไม่ได้
เธอเคยคิดอยากจะทุบตีเขานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่กล้าลงมือทำ
เพราะเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่ซือเฉิน
คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เธอเมาจะกล้าทุบแรงเขาแรงๆอย่างนี้
ความรู้สึกนี้ช่างสะใจเหลือเกิน
เย่ซือเฉินทำตาขาวใส่เธอ ด้วยความสามารถในการดื่มเหล้าของเธออย่างนั้น จำเป็นต้องมอมเหล้าด้วยเหรอ?
แต่ทว่าเมื่อคืนเขาเสียใจจริงๆที่ทำให้เธอเมา ใครจะรับรู้ได้ว่าเขาต้องได้รับผลกรรมเช่นไร?
เห็นดวงตาของเธอเกือบจะทนไม่ไหวหัวเราะออกมา เย่ซือเฉินก็รู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้โกรธแล้ว และรู้ว่าเขาสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของเธอสำเร็จแล้ว
วันนี้เขามีเรื่องสำคัญจะต้องคุย!