ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 447 ความจริงในห้าปีก่อนกระจ่างเสียที (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 447 ความจริงในห้าปีก่อนกระจ่างเสียที (2)
บทที่ 447 ความจริงในห้าปีก่อนกระจ่างเสียที (2)
เวินลั่วฉิงไม่รู้ความคิดของเขาในตอนนี้ บัดนี้เธออารมณ์ดี แสดงรอยยิ้มบนมุมปากอย่างอดกลั้นไม่อยู่
เย่ซือเฉินมองบนหน้าที่ยิ้มชื่นของเธอ หัวใจก็พลิ้วไหวพองโต เธอรอยแล้วสวยงามมาก ถึงตอนนี้เธอจะอำพรางรูปโฉมที่แท้จริงอยู่ก็ตาม
เย่ซือเฉินนึกถึงใบหน้าที่แท้จริงของเธอตอนเจอกันที่ประเทศM ดวงของเขาก็กะพริบ พลางเอื้อมมือไปยังใบหน้าของเธอด้วยสัญชาตญาณ
เวินลั่วฉิงคิดว่าเขาจะตีเธอเพื่อแก้แค้น เธอจึงสะดุ้งตกใจรีบพลิกตัวหลบไปด้านข้าง
เย่ซือเฉินตกตะลึง รู้สึกโมโหและขบขัน ในสมองของเธอมัวแต่คิดเรื่องอะไรอยู่ทั้งวันนะ
เธอคิดว่าเขาจะตีเธอเหรอ?เขาจะไปตีเธอได้อย่างไร?เขาจะตีเธอได้ลงคอเหรอ?
หากเขาตีเธอได้ลงคอ เมื่อคืนก็คงไม่ปล่อยให้เธอทำตามอำเภอใจจนเขาต้องเป็นแบบนี้หรอก
เห็นเย่ซือเฉินไม่คิดจะตีเธอ เวินลั่วฉิงก็รู้ว่าตนเข้าใจผิดเสียแล้ว บัดนี้เธอได้พลิกตัวไปอยู่อีกมุมหนึ่งของเตียง เมื่อหันหน้าไปมองก็ยังคงเห็นรอยแผลได้อย่างชัดเจน
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตนทนดูไม่ได้ จึงก้มหน้านอนคว่ำอยู่บนเตียง
ชั่วขณะที่เธอนอนคว่ำอยู่บนเตียงนั้น มุมปากก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
ก็ได้ เธอยอมรับว่าที่นอนคว่ำอยู่อย่างนี้ก็เพราะปกปิดรอยยิ้มของตนเอง เธอเห็นรอยแผลที่‘น่าเวทนาจนทนดูไม่ได้’ก็อยากหัวเราะออกมา
ถึงแม้เย่ซือเฉินจะมองรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไม่เห็น แต่ก็พอจะคาดเดาได้อยู่ ปล่อยให้เธอยิ้มไปสักพัก เวลาต่อจากนี้เขาจะดูสิว่าเธอจะยังคงยิ้มได้อีกไหม?
“ที่นี่ที่ไหน?”บัดนี้เวินลั่วฉิงได้หายโกรธแล้ว และได้ยิ้มแล้ว จึงได้สติสัมปชัญญะกลับคืนมา
ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่ยอมรับเรื่องสัญญาของเมื่อวาน จึงแสดงว่าสัญญาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เย่ซือเฉินแค่ใช้สัญญาล่อเธอออกมาเท่านั้น
เย่คิดหาวิธีสุดความสามารถเพื่อล่อเธอออกมา และมอมเหล้าเธอ สุดท้ายก็พาเธอมาที่นี่อีกเป็นเพราะอะไรกันนะ?
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นประเด็นหลัก
“ที่นี่คือห้องวีไอพีหมายเลข2201ที่โรงแรมหวนหยู” เย่ซือเฉินมองแผ่นหลังของเธอแล้วค่อยๆเอ่ยปากพูด เขาจงใจหยุดพูด ดวงตาทั้งสองดวงจ้องมองเธออยู่ แต่เธอไม่ได้มีท่าทีการตอบสนองแต่อย่างใด
บัดนี้เธอนอนคว่ำอยู่บนเตียง เย่ซือเฉินมองไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอ อันที่จริงเย่ซือเฉินก็ไม่ได้คาดหวังจะเห็นสีหน้าที่ต่างออกไปของเธอเลย เพราะเขารู้ว่าเธอถนัดปกปิดมาก
เขารู้สึกว่าถ้าเป็นอย่างนี้ เขาอาจจะเห็นการตอบสนองจากร่างกายของเธอก็เป็นได้
ฉะนั้นเขาก็ปล่อยให้เธอทำท่าเช่นนี้ต่อไป
เวินลั่วฉิงนอนคว่ำอยู่บนเตียง ได้ยินเขาพูดก็รู้สึกตกใจ ห้องวีไอพีหมายเลข 2201ที่โรงแรมหวนหยู?
มิน่าล่ะเธอถึงได้รู้สึกคุ้นตา ห้าปีก่อนในห้องนั้นมืดสลัว เธอจึงเห็นอะไรไม่ชัด แต่ทว่าครั้งก่อนหลังจากที่เธอเมาเหล้าเย่ซือเฉินก็พาเธอมาที่นี่ ซึ่งครั้งนั้นเธอเห็นอย่างชัดเจน
ทำไมเป็นที่นี่อีก?ครั้งก่อนก็ที่นี่ ครั้งนี้ก็ที่นี่อีก ครั้งก่อนเย่ซือเฉินบอกว่าใกล้ที่นี่พอดี เลยพาเธอมาที่นี่ แล้วครั้งนี้ล่ะ?
เป็นเพราะบังเอิญเหรอ?
แต่ทว่าเวินลั่วฉิงก็ยังคงไม่ได้ขยับ ไม่มีการตอบสนองใดๆ“ทำไมเป็นโรงแรมอีกแล้ว?คุณชอบพาผู้หญิงมาที่โรงแรมทุกครั้งเลยเหรอ?”
“ห้องนี้เป็นห้องที่ผมเก็บไว้เป็นพิเศษ ไม่ได้เปิดให้คนอื่นเข้ามาใช้ คนที่พักห้องนี้ได้มีเพียงผมเท่านั้น”เย่ซือเฉินมองแผ่นหลังของเธอก็ยกมุมปากขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ามีเจตนารมณ์อย่างชัดเจน
เขาหยุดพูดแล้วพูดช้าๆอีกครั้งว่า“เป็นอย่างนี้มาเสมอตั้งแต่ที่เปิดกิจการโรงแรมแห่งนี้ ห้องนี้นอกจากผมแล้วก็ไม่เคยมีใครเข้ามาพักเลย”
เย่ซือเฉินค่อยๆเน้นย้ำอีกหนึ่งประโยค“ไม่เคยมีผู้ชายคนอื่นเข้ามาพักเลย”
คำพูดของเขานั้นชัดเจนมากพอแล้ว ด้วยความฉลาดของเธอต้องเข้าใจแน่ๆ
เขาจะดูว่าเธอจะเสแสร้งได้ถึงเมื่อไหร่?
เวินลั่วฉิงที่อยู่บนเตียง จู่ๆเปลือกตาก็กระตุก และหัวใจก็เริ่มสั่นตามขึ้นมาด้วย
เขาพูดว่าห้องวีไอพีนี้ เขาเก็บไว้เป็นพิเศษ มีเพียงเขาที่เข้าพักได้?
เป็นอย่างนี้มาตลอด ไม่เคยมีใครมาพักเลย
แล้วห้าปีก่อน?!!
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นเร็วขึ้น ไม่ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นเขา เย่อหยู่เฟิงบอกเธอว่าคนคนนั้นคือ โม่เหยียน แท้ๆ
แต่ทว่าเขาบอกว่าห้องนี้มีเพียงเขาพักได้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นมีแต่เขาเคยพักมาก่อน และไม่เคยมีผู้ชายคนอื่นเข้ามาพักเลย เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจพูดให้เธอฟัง
หรือผู้ชายในห้าปีก่อนจะเป็นเขา?ใช่เหรอ?เป็นอย่างนี้ไปได้เหรอ?
บัดนี้เวินลั่วฉิงตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก แต่เธอบอกตัวเองว่าจะอย่าตกใจ อย่าวู่วาม อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้
หรืออาจจะเป็นเพราะเธอคิดมากไป เมื่อกี้เขาไม่ได้พูดตรงอะไรสักหน่อย!
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเธอควรจะล่อถามอีกสักหน่อย
“ใช้นัดเจอกับคู่รักโดยเฉพาะใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงยังคงนอนคว่ำไม่ขยับและไม่เปลี่ยนท่าเลย เพียงแต่เอ่ยพูดด้วยเสียงหัวเราะออกมา
ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น ยื่นมือไปจับบนไหล่ของเธอ แล้วค่อยๆเคลื่อนไปด้านบน เขาพบว่าอยากจะล่อถามให้ผู้หญิงคนนี้พูดความจริงออกมานั้นยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน
ร่างกายของเวินลั่วฉิงสั่นระริก เพราะเขามาแตะตัวเธอจากด้านหลังและบวกกับรู้สึกตื่นตระหนกอยู่แล้วด้วย
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่ามือของเขาจะยิ่งเลยเถอะขึ้นมาทุกที ร่างกายของเธอรับไม่ไหวจนต้องหดตัว
ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวที่โดนจับอย่างนี้ มันทรมานและเป็นกังวลใจมาก เธอจึงเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ซึ่งดวงตาประดับรอยยิ้มเอาไว้ และจงใจถามว่า “บอกมาสิ คุณเคยนัดเจอกับคนรักคนไหนบ้าง?คุณเมิ่งต้องเคยมาแน่ๆเลย?”
“ไม่มี คุณเป็นเพียงหนึ่งเดียว แต่ว่าห้าปีก่อนเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งบุกเข้ามาทางหน้าต่างแล้วข่มขืนผม จากนั้นก็หนีไป”ดวงตาทั้งคู่ของเขาจับจ้องมองเธออยู่ พูดมาจนถึงขนาดนี้แล้ว
แสดงความหมายออกมาได้ชัดเจนมากแล้ว
เวินลั่วฉิงรู้สึกตกใจสั่น ยังดีที่เตรียมใจไว้แล้ว จึงไม่ได้เผยสีหน้าผิดปกติออกมามากนัก
ดูท่าผู้ชายในห้าปีก่อนก็เป็นเขาจริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย เขาพูดได้ชัดเจนมากแล้ว
และฟังจากคำพูดนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าเธอคือผู้หญิงห้าปีก่อนที่บุกเข้ามาในห้องนอนของเขา
แต่ทว่าเขารู้ว่าเป็นเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
บัดนี้สมองของเวินลั่วฉิงหมุนอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนเขาไม่รู้ ไม่เช่นนั้นคงมาคิดบัญชีกับเธอตั้งนานแล้ว ซึ่งคงไม่รีรอจนถึงป่านี้หรอก
ตอนเจอหน้าเขาที่โรงพยาบาลครั้งก่อน เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นตอนนั้นเขาน่าจะยังไม่รู้
แต่ทว่าทำไมจู่ๆก็รู้ได้ล่ะ?
เวินลั่วฉิงนึกถึงภาพที่หลังจากตัวเองมัดเขาไว้บนรถเรียบร้อยแล้ว ตัวเองก็หันหลังทำท่าทางจากไป
แต่ตอนนั้นเธอกำลังได้ใจอยู่ ฉะนั้น……
ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่า ห้าปีก่อนตอนที่เธอออกไปจากห้องนอนแห่งนี้ เธอก็เคยทำท่าเดียวกับผู้ชายคนนั้นด้วย
ฉะนั้นนี่คือการขุดหลุมผังตัวเองใช่ไหม?