ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 469 คุณชายสามเย่ไปพบญาติผู้ใหญ่ โดยวิธีแบบนี้ คงไม่มีใครแล้วล่ะ(3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 469 คุณชายสามเย่ไปพบญาติผู้ใหญ่ โดยวิธีแบบนี้ คงไม่มีใครแล้วล่ะ(3)
บทที่ 469 คุณชายสามเย่ไปพบญาติผู้ใหญ่ โดยวิธีแบบนี้ คงไม่มีใครแล้วล่ะ(3)
“คุณปู่ หนูไม่เป็นไรค่ะ คุณปู่คะ ประธานเย่เขาเป็นคนที่ยุ่งมาก คงมีเรื่องสำคัญต้องไปทำแล้ว เราอย่าไปรบกวนประทานเย่เลยนะคะ”เวินลั่วฉิงรีบอธิบาย ระหว่างที่พูดก็ดึงคุณปู่ไปด้วย อยากจะรรีบออกไปจากที่นี่
“ผมไม่ยุ่งหรอก เขาไม่มีธุระอะไรนิ”แต่ จู่ๆเย่ซือเฉินก็พูดคำนี้ออกมา เวลานี้ เขากำลังยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขา ไม่มีท่าทีจะถอยให้เลยสักนิด
ยังไงคุณปู่เวินก็ผ่านประสบการณ์อะไรๆมาเยอะ เพียงแป๊บเดียวก็ฟังออกแล้วว่ามันไม่ปกติ คนอย่างเย่ซือเฉินไม่มีทางบอกว่าตนเองไม่ยุ่งไม่มีธุระโดยไม่มีเหตุผล
“เมื่อกี้นี้ได้ยินว่าคุณปู่เวินจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทางบ้านจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้คุณท่าน งั้นผมขอยินดีด้วยนะครับที่คุณท่านสุขภาพร่างกายกลับมาแข็งแรงดีแล้ว”เย่ซือเฉินมองไปทิศทางคุณปู่เวิน คำพูดนั้นดูธรรมชาติมาก
“ฮะ?ใช่ ถ้าประธานเย่ไม่รังเกียจ ก็เชิญมาร่วมงานด้วย…..”ตอนที่คุณปู่เวินพูดประโยคนี้ มันเป็นเพียงคำพูดทางการตามมารยาท เขาไม่คิดว่าเย่ซือเฉินจะตอบตกลง
เพราะยังไงแล้วเขากับเย่ซือเฉินก็ไม่เคยมีการคุยหรือติดต่ออะไรกันเลยเย่ซือเฉินเป็นถึงบุตรล่องที่รักจากสวรรค์(ผู้ที่ได้รับความรักใคร่จากทุกคนและโชคดีมาแต่กำเนิด) บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปเป็นที่หนึ่งในเมืองA เป็นอะไรที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปไม่สามารถเทียบเคียงได้เลยสักนิด
ขนาดเมื่อก่อนยังเทียบไม่ได้ ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
เวินลั่วฉิงนึกไม่ถึงว่าคุณปู่เวินจะเชิญเย่ซือเฉินในสถานการณ์แบบนี้ ก็เลยส่ายศีรษะใหเย่ซือเฉินเบาๆ เป็นสัญญาณบอกให้ว่าอย่าตอบตกลง
แต่ เย่ซือเฉินมองเธอทีนึง จากนั้นก็มองไปทิศทางอื่น เห็นได้ชัดว่าเขากำลังแกล้งทำเหมือนมองไม่เห็น
“ดีเลยครับ งั้นก็ขอบคุณคุณปู่เวินมากเลยนะครับ”เย่ซือเฉินรอคำพูดนี้ของคุณปู่เวินมานานแล้ว เขาก็เลยตอบตกลงได้อย่างรวดเร็วและธรรมชาติบ้าง
คุณปู่เวิน:“……”
พูดจริงนะคุณปู่เวินในเวลานี้ตกตะลึงมาก ยังไงเขาก็ไม่คิดว่า เขาแค่พูดลอยๆแบบนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นการเชื้อเชิญแบบจริงใจเท่าไหร เย่ซือเฉินกลับตอบตกลง
ความจริงแล้ว สถานการณ์อย่างวันนี้ พูดได้น่าฟังคืองานเลี้ยงฉลอง แต่ความจริงมันเป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่คนอื่นเตรียมให้เขา ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่จะมีคนนอกไปด้วย ยิ่งคนมีฐานะอย่างเย่ซือเฉินนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย
เวินลั่วฉิงกลับเกลียดจนแอบกัดฟัน เย่ซือเฉินจงใจแกล้งชัดๆ
แต่ว่าตอนนี้มีคุณปู่เวินอยู่ด้วย เวินลั่วฉิงพูดอะไรไม่ได้ และทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
“คุณท่านครับ เดี๋ยวผมไปเรียกรถมาคันนึงนะครับ”ผู้ดูแลบ้านเห็นสถานการณ์นี้แล้ว ก็คิดว่าจะไปเรียกรถมาก่อน
เวินลั่วฉิงแววตาจมลง ตอนเช้าตอนที่เธออยากไปขับรถ ในโรงรถก็ไม่มีรถจอดอยู่สักคัน แล้วตอนนี้ผู้ดูแลบ้านจะมารับคนปู่ออกจากโรงพยาบาล ครับไม่มีรถยนต์
เวินจีหยันทำเกินไปแล้วจริงๆ
เวินลั่วฉิงคิดถึงคำพูดคุณท่านที่พูดเมื่อกี้นี้คืองานเลี้ยง? งานเลี้ยง? งานเลี้ยงในครอบครัว?
เย่ซือเฉินเงิบเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขานึกไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้
“รถของผมจอดอยู่ด้านนอก ถ้าคุณปู่เวินไม่รังเกียจ ก็เชิญนั่งรถของผมไปนะครับ”คุณชายสามเย่รู้จักคว้าโอกาสได้ดีมาก
คุณปู่เวินตะลึงอีกครั้ง คนนอกเขาว่ากันว่าเย่ซือเฉินเป็นคนเย็นชา เย่อหยิ่งมาก ก่อนหน้านี้ เขาก็คิดแบบนี้มาโดยตลอด
แต่พอได้เห็นวันนี้ ไอ้หนุ่มคนนี้ต้องเป็นคนดีที่มีน้ำใจมากเลย
ไม่เหมือนคุณปู่เย่เลยสักนิด
“นี่จะเป็นการรบกวนเวลาประธานเย่เกินไปหรือเปล่าครับเนี่ย?”คุณปู่เวินยังคงไม่สบายใจ เพราะก่อนหน้านี้ สำหรับเขาแล้ว เย่ซือเฉินก็คือคนมีตัวตนที่อยู่เบื้องสูงแต่เอื้อมไม่ถึง
“ไม่หรอกครับ พอดีวันนี้ผมก็ไม่มีธุระอะไร และเวลาของผมในวันนี้มีเพื่อที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับ…..”บนใบหน้าของเย่ซือเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สีหน้าท่าทางดูสุภาพมากจนคุณปู่เวินตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาเอาใจใส่อย่างคาดไม่ถึง
“ก็ได้ๆ ไปได้แล้ว”เวินลั่วฉิงเมื่อได้ยินที่เขาพูดก็แอบระแวง จึงรีบพูดแทรกเขา พยุงคุณปู่เวินเดินออกไปทางด้านนอก
เย่ซือเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่ดูด้านหลังของเธอที่จะไปยังรีบร้อน บำรุงริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย เขาพบว่า เธอเป็นห่วงคุณท่านมากจริงๆ
เพราะฉะนั้น ขอเพียงแค่ผ่านด่านคุณท่าน ถึงเวลานั้นเรื่องราวมันอาจจะง่ายขึ้นเยอะเลย
เมื่อกี้นี้รถของเย่ซือเฉินจอดอยู่ไม่ไกลจากหน้าประตู เวินลั่วฉิงก็เลยพยุงคุณปู่เวินไปทางนั้น
“นี่ ฉิงฉิง หนูรู้ได้ยังไงว่ารถของประธานเย่จอดอยู่ที่นี่?”คุณปู่เวินมองเวินลั่วฉิง จู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นมา
ร่างกายเวินลั่วฉิงแข็งทื่อ เมื่อกี้ใจเธอยังหงุดหงิดอยู่เลย ก็เลยไม่ทันได้คิดอะไรมาก ก็พาคนท่านออกมาโดยตรง กลับลืมเรื่องนี้สนิทเลย
“ใช่ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าคุณรู้ได้ยังไง?” เย่ซือเฉินที่จงใจเดินตามอยู่ด้านหลังมองไปที่เธอ สีหน้ามีรอยยิ้มเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเวินลั่วฉิงเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ในใจก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีก เขาจงใจแกล้งชัดๆ
เวินลั่วฉิงเห็นคุณท่านมองเธอด้วยสีหน้าสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้ว่ารถของประธานเย่จอดอยู่ตรงนี้ เพราะทีแรกฉันแค่คิดว่าจะพยุงคุณปู่มารอทางนี้เฉยๆ”เวินลั่วฉิงมองเย่ซือเฉินทีนึง การอธิบายแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ แต่จากสถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่มีคำพูดอื่นที่สามารถกลบเกลื่อนความผิดพลาดของเธอได้
“มารอตรงนี้?คุณคิดว่ารอตรงนี้มันเหมาะสมเหรอ?”แต่เย่ซือเฉินกับแกล้งมองรอบๆ แล้วแกล้งพูดเสริมอีกครั้งนึง
“ก็ฉันอยากรอตรงนี้ ไม่ได้หรือไง?”เวินลั่วฉิงหงุดหงิดจนหัวร้อนนิดหน่อย ในขณะนั้นสมองสับสนไปนิดนึง ก็เลยตอบไปตรงๆ
พอตอบเสร็จเธอก็คิดในใจว่าไม่น่าเลย ยิ่งเห็นสีหน้าของคุณปู่เวินที่มองเธออย่างประหลาดใจ ถ้ายิ่งรู้สึกว่าไม่น่าพูดแบบนั้นเลย
ที่ผ่านมาเธอเป็นคนใจเย็นอารมณ์สงบมาโดยตลอด วันนี้เป็นอะไรไป? ทำไมถึงทำผิดพลาดตลอด?
“ได้ คุณยอมรับที่ไหนก็ได้”เย่ซือเฉินมองเธอ ยิ้มอย่างได้ใจสุดๆ ท่าที่แบบนั้น เหมือนสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ทำแผนการอะไรบางอย่างได้สำเร็จแล้วเลย
คุณปู่เวินมองเธอทีนึง ก็มองเย่ซือเฉินทีนึง เลิกคิ้วขึ้นได้ไหม เขารู้สึกว่าทั้งสองคนนี้ดูแปลกๆอย่างเห็นได้ชัด แต่ฐานะของเย่ซือเฉินมันพิเศษกันไป เป็นอะไรที่เอื้อมไม่ถึง เพราะฉะนั้น คุณปู่เวินไม่ได้คิดไปในทางอื่น พูดตรงๆก็คือไม่กล้าที่จะคิดเลย
พอขึ้นรถ คุณปู่เวินรับสายโทรศัพท์ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“ฉิงฉิง มีอยู่เรื่องนึงคนโตจะต้องพูดกับร้านซ่อมหน่อยแล้ว”คุณปู่เวินคิดอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็เอ่ยปากฟังพูด
ตอนที่คุณปู่เวินพูดคำนี้ก็มองไปทิศทางเย่ซือเฉินทีนึง เรื่องที่เขาจะพูดเกี่ยวกับเรื่องในบริษัท ที่จริงเย่ซือเฉินอยู่ มีคำพูดบางอย่างที่ไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะไม่ว่ายังไงเย่ซือเฉินก็เป็นคนนอก
แต่ตอนนี้คุณปู่เวินนึกถึงสถานการณ์ของตระกูลเวิน แทบจะทุกคนที่รู้กันหมดแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องปิดบังต่ออีกแล้ว
สำหรับฐานะของเย่ซือเฉิน เขาไม่ต้องไประวังว่าความลับจะรั่วไหล
สำหรับเย่ซือเฉินแล้วตระกูลเวินในตอนนี้แค่ขนเส้นเดียวยังนับไม่ได้เลย
“เรื่องอะไร ?”เมื่อกี้ตอนที่ขึ้นรถ คนดูแลบ้านนั่งเบาะหลังกับคุณปู่เวิน เวินลั่วฉิงก็เลยต้องนั่งข้างหน้า ตอนนี้ได้ยินคำพูดของคุณปู่เวินเธอหันหน้าไปมองเล็กน้อย
“ คุณอารองของหนูได้ไปซื้อตัวผู้บริหารระดับสูงในช่วงที่ปู่อยู่โรงพยาบาล อยากจะยึดตำแหน่งประธานของหนู อารองของหลานอยากเป็นประธานเอง ……” ในเวลานี้น้ำเสียงของคุณปู่เวินมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ในเวลาที่เขาพูดก็หันไปมองเย่ซือเฉินโดยไม่รู้ตัว