ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 470 คุณชายสามเย่ลงมือเอง ใครจะชนะได้ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 470 คุณชายสามเย่ลงมือเอง ใครจะชนะได้ (1)
บทที่ 470 คุณชายสามเย่ลงมือเอง ใครจะชนะได้ (1)
“ในช่วงนี้อารองของหลานก็ได้ไปซื้อหุ้นส่วนเล็กๆน้อยๆที่กระจายมาหมดแล้ว ” คุณปู่เวินก็พูดไปอีกประโยคนึงด้วยเสียงต่ำ
ดูจากสถานการณ์ของตระกูลเวินในตอนนี้ จะซื้อหุ้นส่วนที่เหลือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก และเป็นเรื่องที่ถูกมาก ดังนั้นเวินจีหยันก็เลยไปซื้อหุ้นส่วนที่กระจายอยู่ด้านนอกกลับมาทั้งหมด
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของคุณปู่ถึงเข้าใจว่า ที่วันนี้มีการจัดงานเลี้ยงในบ้านก็เพราะแบบนี้นี่เอง
เวินจีหยันวางแผนได้ดีมาก เชิญผู้บริหารระดับสูงมาร่วมงานเลี้ยงที่บ้าน เหมือนสนิทสนมกัน แสดงท่าทีเหมือนตอนนี้ตระกูลเวินเป็นของเขา เขาใหญ่ที่สุด
แต่ว่าก่อนหน้านี้เวินจีหยันก็ได้ขายหุ้นส่วนของพวกเขาให้กับไป๋ยี่รุ่ยแล้ว ถึงจะไปซื้อหุ้นส่วนเล็กๆที่กระจายอยู่ก็มีไม่มาก เขาจะเอาอะไรมาแย่งตำแหน่งประธานของตระกูลเวิน ?
น่าตลกจริงๆ !!
เย่ซือเฉินขับรถอยู่ตลอด ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร
“ยังดีที่ไป๋ยี่รุ่ยตอบตกลงว่าจะช่วยหลาน ใบเซ็นสัญญาที่หนูเซ็นกับไป๋ยี่รุ่ยยังอยู่ในมือไหม ?” คุณปู่เวินก็รีบถามต่ออีกประโยคนึง
จู่ๆเย่ซือเฉินที่ตอนแรกไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็หันมามอง มองไปที่เวินลั่วฉิง สายตาที่เย็นชาและเฉียบคม คมเหมือนดาบเหมือนมีด เหมือนจะฆ่าเธอทั้งเป็น
เธอแน่จริงๆ เขาบอกจะช่วยตระกูลเวิน เธอไม่ยอม ปฏิเสธเขา สุดท้ายล่ะ หันกลับมาก็รับการช่วยเหลือของไป๋ยี่รุ่ย และยังเซ็นสัญญากับไป๋ยี่รุ่ยอีก
ตระกูลเวินถูกไป๋ยี่รุ่ยทำลายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับรับความช่วยเหลือของไป๋ยี่รุ่ย แต่ไม่รับการช่วยเหลือของเขา?
ไอ้ผู้หญิงบ้า เขาไม่ชอบอะไรก็มาแบบนั้นจริงๆ
“อยู่ค่ะ”ในเวลานี้เวินลั่วฉิงเอ็นศีรษะหันหน้าไปมองคุณปู่เวินเล็กน้อย ดังนั้นจู่ๆเย่ซือเฉินก็หันไปมองด้วย เธอก็เลยบังเอิญไปสบตากับเย่ซือเฉินพอดี
ในขณะที่สบตากับเขา เวินลั่วฉิงตกใจจนตัวสั่น แต่ก็รู้สึกงงไม่เข้าใจอย่างแรง
ทำไมอยู่ดีๆเขาถึงอารมณ์เสีย เธอไปทำอะไรที่เขาไม่ชอบอีก?
“เนื้อหาในเอกสารสัญญาเขียนว่าอะไรบ้าง ?หนูดูหรือยังล่ะ?”คิ้วของคุณปู่เวินขมวดขึ้นเล็กน้อย ในตอนที่ไป๋ยี่รุ่ยโทรหาเขา ก็ไม่ได้พูดอะไรชัดเจนมาก ดังนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นยังไงกันแน่
ตอนนี้เขาต้องการที่จะเข้าใจสถานการณ์ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจากนั้นจะทำอะไรต่อ
มุมริมฝีปากของเวินลั่วฉิงค่อยๆเม้มเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็เคยดูใบเซ็นสัญญาแล้ว ใบเซ็นสัญญาของไป๋ยี่รุ่ยเขียนไว้ว่าจะเอาหุ้นส่วนทั้งหมดคืนให้กับคุณปู่เวิน แต่ดูจากสถานการณ์ของตระกูลเวินตอนนี้แล้ว หุ้นส่วนของตระกูลเวินไม่มีค่าอะไรเลย
“ทำไม? สถานการณ์ของใบเซ็นสัญญาไม่ค่อยดีใช่ไหม ?”คุณปู่เวินเห็นเวินลั่วฉิงไม่พูดอะไร สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เย่ซือเฉินก็รีบหันไปมองที่เวินลั่วฉิงอีกครั้งนึง เขาก็อยากรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยกับเธอเซ็นสัญญาอะไรกันบ้าง
“คุณปู่คะ ที่จริงก่อนหน้านี้อารองก็เอาหุ้นส่วนของพวกเขาขายให้ไป๋ยี่รุ่ยมาทั้งหมดแล้วค่ะ แต่ว่าใบเซ็นสัญญาครั้งนี้ไป๋ยี่รุ่ยได้นำหุ้นส่วนทั้งหมดมาคืนให้ท่านแล้วค่ะ ”เวินลั่วฉิงไม่อยากให้คุณปู่เวินรู้เรื่องนี้มา แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วน่าจะปิดบังไม่ได้อีกแล้ว
แน่นอน เวินลั่วฉิงพยายามพูดให้ดูง่ายและดีที่สุด ไม่ว่ายังไง ตอนนี้หุ้นส่วนก็กลับมาหมดแล้ว ตอนจบน่าจะดีกว่าตอนแรกเยอะเลย
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เวินลั่วฉิงก็เป็นห่วงมาก เธอมองคุณปู่เวินด้วยความตื่นตระหนก กลัวว่าคุณปู่เวินจะได้รับการกระตุ้นอะไรอีก
มือของเย่ซือเฉินที่จับพวงมาลัยรถยนต์จับแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไป๋ยี่รุ่ยเอาหุ้นส่วนทั้งหมดของตระกูลเวินคืนมาหมดแล้ว?
และพูดตามหลักความเป็นจริงแล้วก็คือ ไป๋ยี่รุ่ยน่าจะให้เธอไปหมดแล้วมากกว่า?
“ไป๋ยี่รุ่ยช่างใจกว้างกับเธอจริงๆ ”ในดวงตาของเย่ซือเฉินประกายเต็มไปด้วยความเย็นชา ไป๋ยี่รุ่ยทำเพื่อจะคืนดีกับเธอ ช่างพยายามจริงๆ
คุณปู่เวินได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว ก็ตกใจในตอนนั้นเลย สีหน้าก็เปลี่ยนไปเลย จู่ๆก็รู้สึกปวดตรงหน้าอกมาก เขาคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าลูกชายของเขาจะปิดบังเขาแล้วแอบเอาหุ้นส่วนของบริษัทไปขาย และยังไปขายให้ไป๋ยี่รุ่ยอีก
ในเวลานี้คุณปู่เวินโกรธมากสุดๆ แต่คำพูดคำนึงของเย่ซือเฉินกลับขัดอารมณ์ความรู้สึกนั้นของคุณปู่เวินไปเลย
คำพูดของเย่ซือเฉินฟังแล้วทำไมมันแปลกขนาดนี้ ทำไมรู้สึกมีกลิ่นของความหึงหวง ?
“ตอนนี้ตระกูลเวินเกือบล้มละลายแล้ว หุ้นส่วนของตระกูลเวินในตอนนี้ไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ”เวินลั่วฉิงหันไป แล้วมองไปที่เย่ซือเฉิน คำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนเถียงเย่ซือเฉินเลย แต่ก็เหมือนคำอธิบายของเธอ
เย่ซือเฉินสะดุ้ง ดวงตาเป็นประกายหนึ่งครั้ง แล้วยกมุมริมฝีปากขึ้น ดังนั้นการทำดีของไป๋ยี่รุ่ยครั้งนี้ก็ไร้ค่าไปเลย !!
ดังนั้น เธอรู้สึกว่าหุ้นส่วนของตระกูลเวินในตอนนี้ไม่มีค่าอะไร ก็เลยยอมเซ็นใบเซ็นสัญญากับป๋านี่รุ่นงั้นเหรอ?
ต้องบอกว่า ความคิดนี้ของเธอทั้งง่ายแล้วก็ตรงมาตรงมา ดูแล้ว เธอไม่รู้เรื่องในวงการธุรกิจเลยจริงๆ
ทำไมผู้หญิงของเขาถึงน่ารักขนาดนี้ ?
เมื่อคุณปู่เวินได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงก็รู้สึกตะลึง ในเวลานั้นสีหน้า ของเขาเปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาด
“เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เรื่องนี้ก็ค่อยง่ายขึ้นหน่อย” แต่สำหรับเรื่องของบริษัทแล้วคุณปู่เวินค่อยสบายใจขึ้นหน่อย
ตอนถึงคฤหาสน์ของตระกูลเวิน นอกบ้านว่างเปล่ามากไม่มีสักคนที่ออกมาต้อนรับคุณปู่เลย แต่ว่า ภายในบ้านมีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะออกมาเรื่อยๆ สนุกสนานมากอย่างเห็นได้ชัด
เย่ซือเฉินไปจอดรถ เวินลั่วฉิงพยุงคุณปู่เข้าไปในห้องโถงก่อน
“เฮ้ย คุณหนูใหญ่ตระกูลเวินกลับมาแล้ว?แต่ว่า คุณกลับมาตอนนี้ก็สายไปแล้ว ”เวินจื้อหลงเมื่อเห็นเวินลั่วฉิงแล้วก็หัวเราะแบบมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
หลี่หยุนและเวินหรวนหรวน ก็มีสีหน้าที่ได้ใจอย่างเห็นได้ชัด ดูจากสีหน้าของพวกเขาแล้วสามารถดูออกได้ว่า เรื่องของบริษัท พวกเขาทำได้ราบรื่นมาก น่าจะควบคุมอำนาจทั้งหมดได้แล้ว
เมื่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเห็นคุณปู่แล้วก็รีบลุกขึ้นมาด้วยความเคารพ และมีการหลบสายตาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเหมือนได้เซ็นสัญญาอะไรสักอย่างกับเวินจีหยัน เหมือนจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสำหรับคุณปู่เวินกับเวินลั่วฉิง
เมื่อคุณปู่เวินเห็นสีหน้าของพวกเขาแล้ว ก็รู้สึกหนักอกหนักใจ ฝีมือการบริหารของเวินจีหยันนั้นไม่ได้เรื่อง แต่ฝีมือสกปรกพวกนี้กลับชำนาญจริงๆเลย
“ คุณพ่อครับ ผมกับผู้บริหารระดับสูงหลายคนกำลังคุยเรื่องที่เกี่ยวกับบริษัทอยู่ครับ พ่อกลับมาได้พอดีเลย ”เวินจีหยันยืนขึ้น เข้ามาต้อนรับ ดูจากทัศนคติแล้วถือว่ามีความสุภาพให้ความเคารพมาก
แต่ว่า เวินจีหยันทำหลายเรื่องมากในตอนที่คุณปู่เวินกำลังพักอยู่ที่โรงพยาบาล อย่าพูดถึงเรื่องการเคารพเลย แม้แต่ความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันก็ไม่เหลือเลยสักนิด
บ้านคนรวยเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ต่อหน้าผลประโยชน์แล้ว ความสัมพันธ์ในครอบครัวจืดจางไปเลย
คุณปู่เวินมองไปที่เขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร กลับเดินตรงไปที่ห้องโถง ไปนั่งเก้าอี้ตัวแรก
ในใจผู้บริหารระดับสูงหลายคนยังคงรู้สึกเกรงขามเมื่อตอนที่เห็นคุณปู่ ในเวลานั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย ถึงแม้คุณปู่จะป่วยอยู่ แต่ความใหญ่โตและความสง่ายังอยู่ !
“คุณพ่อครับ พวกเขารู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมถ้าจะเอาบริษัทให้เวินลั่วฉิง ”เวินจีหยันเห็นทุกคนต่างก็ไม่พูด ก็เลยต้องพูดเอง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องกลัวอีกแล้ว