ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 476 คุณชายสามเย่เอาแต่ใจขนาดนี้จะดีเหรอคะ(4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 476 คุณชายสามเย่เอาแต่ใจขนาดนี้จะดีเหรอคะ(4)
บทที่ 476 คุณชายสามเย่เอาแต่ใจขนาดนี้จะดีเหรอคะ (4)
คนที่เธอแต่งงานด้วยมีแต่เขา สามีของเธอก็คือเขา ดังนั้นคนที่เคยแตะต้องตัวเธอก็มีแต่เขา เขาคือผู้ชายคนเดียวของเธอ
ที่จริงเขารู้ดีว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รักงวนสงวนตัว หกปีก่อน เธอกับไป๋ยี่รุ่ยรักกันมากขนาดนั้น ทั้งสองคนคบกันมานานสองปีเต็มๆ ในตอนนั้นเธออายุเพียงยี่สิบปี ตอนนั้นเธอก็แน่ใจว่าต้องแต่งกับไป๋ยี่รุ่ยอยู่แล้ว
แต่ว่า ในตอนนั้นเธอไม่เคยมีอะไรกับไป๋ยี่รุ่ยเลย
เพราะว่า ครั้งนั้นที่โรงแรมเมื่อห้าปีก่อน เป็นครั้งแรกของเธอ
ส่วนตอนนี้ตามที่เธอพูดออกมานั้น ถ้าเธอไม่ได้แต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ย ก็จะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น
แต่ว่า เย่ซือเฉินนึกถึงอะไรได้อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ถ้าเขาไม่จดทะเบียนสมรสกับเธออีกครั้ง เขาก็จะแตะต้องเธอไม่ได้เหมือนกัน?
ดังนั้น เขาต้องรีบคิดหาวิธีจดทะเบียนสมรสให้ได้!!
เย่ซือเฉินแอบหายใจลึกๆ อยากกดร่างลงไปแรงๆ แต่เห็นเธอที่นอนอยู่ด้านล่างตัวของเขาแล้ว ความรู้สึกที่เกิดความต้องการแบบนั้นก็แรงขึ้นมากทันที เขาก้มหน้าลงอีกครั้งและคิดอยากจะจูบเธอ
แต่ว่าเวินลั่วฉิงกลับรีบหันหน้าไปด้านข้าง หลบหน้าออกจากจูบของเขา
เย่ซือเฉินหยุดชะงักอยู่อย่างนั้น แววตาหมองลง ตอนนี้แม้แต่จูบของเขาเธอก็ยังรังเกียจกันแล้วหรือ?
“เย่ซือเฉิน คุณดื่มเหล้าแล้วก็มาจูบฉัน คุณจะจูบให้ฉันมึนเมาไปด้วยหรือไง?” แต่ ข้างหูของเขามีเสียงพูดของเวินลั่วฉิงดังขึ้นมาทันที น้ำเสียงนั้นเห็นได้ชัดว่าโกรธมาก
เย่ซือเฉินตะลึง จากนั้นยิ้มในใจเบาๆ ที่แท้เธอกังวลเรื่องนี้ ไม่ใช่รังเกียจจูบของเขา
งั้นเขาไม่จูบปากเธอ เขาจูบที่อื่นก็ได้
เย่ซือเฉินรีบเปลี่ยนไปที่อื่น ค่อยๆขับไปจูบที่คอของเธอและจูบเธอแรงๆ จากนั้นกัดเบาๆทีหนึ่ง
ทันใดนั้นปากของเขาก็ย้ายไปที่ข้างหูของเธอ และกัดติ่งหูของเธอเบาๆแล้วบ่นออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่: “ฉิงฉิง ทำยังไงดี? ผมอยากเอาคุณ อยากเอาคุณให้สุดแรงจังเลย……”
เขาอยากควบคุมอารมณ์ตัวเอง แต่กลับสังเกตได้ว่ายิ่งควบคุมเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เขามีความต้องการมากขึ้นเท่านั้น
ทุกๆครั้ง แค่แตะต้องตัวเธอ เขาก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาอยากเอาเธออย่างบ้าคลั่ง
เขาคิดว่า เขาต้องมนต์เสน่ห์ของเธอแน่ๆ ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมเขาจึงอยากได้แต่เธอคนเดียว กับผู้หญิงคนอื่นเขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เลยสักครั้ง
เวินลั่วฉิงแข็งกระด้างไปทั้งตัวในตอนนี้ ในตอนที่เขากัดติ่งหูของเธอนั้น ทั้งตัวของเธอก็แข็งไปหมดแล้ว ตอนนี้ได้ยินเขาพูดแบบนั้น ยิ่งทำให้เธอ…..
เธอรู้มาตลอด เย่ซือเฉินหลงใหลในตัวของเธอ เพราะเย่ซือเฉินไม่เคยเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นได้เลย
ตอนที่พวกเขายังเป็นสามีภรรยากันนั้น ในทุกๆคืนเขาจะทรมานเธออย่างไม่หยุดไม่หย่อน
และเธอก็รู้ ถ้าเย่ซือเฉินอยากจะได้กับเธอจริงๆ เรี่ยวแรงของเธอไม่มีทางต่อต้านเย่ซือเฉินได้แน่นอน
เธอรู้ดีว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่ซือเฉินเลย รู้สึกถึงเย่ซือเฉินจูบบนตัวของเธออย่างไม่หยุด มือของเวินลั่วฉิงค่อยๆกำแน่นขึ้น
ทันใดนั้น เสียงมือถือของเธอดังขึ้นมาพอดี
“มือถือของฉัน” เวินลั่วฉิงตะลึงไปสักพัก พอตั้งสติกลับมาได้แล้วก็รีบยื่นมือไปจับมือถือ
เวินลั่วฉิงนึกว่าเย่ซือเฉินจะไม่ปล่อยตัวเธอ แต่ว่า เย่ซือเฉินรีบลุกขึ้นแล้วหลีกไปอีกข้าง
เวินลั่วฉิงรีบหยิบมือถือมา พอเห็นเบอร์โทรแล้ว สายตากระพริบๆอย่างเร็ว มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่เธอรู้สึกใจเต้นเร็วขึ้นอย่างชัดเจน
นี่เป็นเบอร์โทรของถึงจื่อซี วันแรกที่เธอกลับมาที่เมืองAในครั้งนี้ มือถือก็ถูกเย่ซือเฉินขว้างจนเสียไปแล้ว เบอร์มือถือก็เพิ่งไปซื้อมาใหม่ในตอนที่กลับมาเมืองAครั้งนี้
ดังนั้น ในมือถือไม่มีรายชื่อของถังจื่อซี แค่แสดงตัวเลขออกมาเป็นแถว
นึกถึงเย่ซือเฉินก็คือพ่อของลูกรักทั้งสองคน ในขณะนี้ ถ้าเธอรับโทรศัพท์ต่อหน้าเย่ซือเฉิน จะทำให้ความจริงเผลอหลุดออกมาไหม?
“ฉันกลับไปก่อนนะ” เวินลั่วฉิงแอบหายใจลึกๆ ไม่รับโทรศัพท์ แต่ลุกขึ้นมาจะลงจากรถ
เย่ซือเฉินตาดี เมื่อกี้เขาเห็นเบอร์โทรนั้นแล้ว เห็นเบอร์โทรเป็นของประเทศM
เบอร์โทรของประเทศM? เบอร์ของถังไป๋เซียน?
เบอร์ของถังไป๋เซียน? เธอจำเป็นต้องรับลับหลังเขาหรือ
มีอะไรที่จำเป็นต้องพูดลับหลังของเขา?
เย่ซือเฉินยื่นมือไปดึงตัวเธออีกครั้ง สองตาเต็มไปด้วยความต้องการที่กำลังพัดโชยมาดั่งพายุฝนที่อันตราย
หลังจากที่เสียงโทรศัพท์ดังไปสี่ครั้ง ทางโน้นก็วางสายลง
เวินลั่วฉิงแอบหายใจลึกๆทีหนึ่ง เธอเคยสัญญากับลูกรักทั้งสองคน ตอนที่โทรหาเธอไม่ต้องโทรติดๆกันตลอด ตอนที่เธอไม่รับสายต้องเป็นเวลาที่เธอไม่สะดวกรับสายแน่นอน
เย่ซือเฉินมองดูเธอวางสาย เห็นท่าทางเธอแอบโล่งใจไปที สายตาเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น
ในขณะนี้ โทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงดังขึ้นอีกครั้ง
สองตาของเวินลั่วฉิงตกใจจนกระพริบๆ มือของเธอกำโทรศัพท์ไว้แน่นๆ คงไม่ใช่ลูกรักทั้งสองโทรมาอีกนะ?
ถึงแม้เธอจะเคยสัญญากับลูกรักทั้งสองไว้ แต่ยังไงจื่อซีก็ยังเด็ก บางครั้งจื่อซีไม่คิดมากขนาดนั้น
ในขณะนี้เย่ซือเฉินใกล้เธอมากเกินไป ต้องเห็นกิริยาท่าทางของเธอแน่นอน มุมปากของเธอยักขึ้นเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆเคลื่อนมือที่กำโทรศัพท์ไว้มาตรงหน้าของตัวเธอเอง มุมปากขยับนิดๆ แล้วค่อยๆพูดทีละคำทีละคำ: “โทรศัพท์ดังแล้ว ทำไมไม่รับสาย?”
ในตอนนี้ ดวงตาของเขากำลังมองหมายเลขโทรศัพท์บนมือถือของเวินลั่วฉิงอยู่ สองตาหรี่ลงเล็กๆอย่างน่ากลัว……
ก็ยังเป็นเบอร์โทรของประเทศMโทรมา
เมื่อกี้ ตอนที่เวินลั่วฉิงหยิบโทรศัพท์รวดเร็วมาก ดังนั้น เย่ซือเฉินเห็นแค่หมายเลขที่อยู่ด้านหน้า รู้ว่าเป็นเบอร์ที่โทรมาจากประเทศM ไม่ได้เห็นชัดทั้งหมด
เวินลั่วฉิงเห็นเบอร์โทรที่แสดงขึ้นบนหน้าจอ กลับตะลึงไปสักพัก เบอร์นี้เป็นของรุ่นพี่
เวินลั่วฉิงยื่นนิ้วมือออกมา กดปุ่มรับสาย
เห็นเธอรับสาย สายตาของเย่ซือเฉินกระพริบเบาๆหนึ่งครั้ง
“ฉิงฉิง เมื่อกี้ทำไมไม่รับสายล่ะครับ?” พอรับสายแล้ว เสียงที่อ่อนโยนของถังไป๋เซียนนั้นดังขึ้น
ตอนนี้เย่ซือเฉินอยู่ใกล้กับเวินลั่วฉิงมาก ดังนั้นได้ยินเสียงที่ดังในสายโทรศัพท์อย่างชัดเจน และยังฟังชัดว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของถังไป๋เซียน
ให้ตายสิ ถูกเขาทายถูกจริงๆ!
“ไม่สะดวกรับ” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วนิดๆ เห็นได้ชัดว่ารุ่นพี่อยู่ด้วยกันกับจื่อซี สายของจื่อซีเขาไม่รับ ต้องไม่สะดวกรับแน่นอน ต้องไม่สะดวกรับจริงๆ
รุ่นพี่คงจะรู้และเข้าใจจุดนี้ที่สุด แต่ว่ารุ่นพี่กลับโทรมาอีกครั้ง? ยังถามเธอว่าทำไมไม่รับสาย?
เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเธอแล้ว ยิ่งโมโหจนเจ็บตับไตใส้พุงไปหมด ไม่สะดวกรับ? เพราะอยู่กับเขา ดังนั้นไม่สะดวกรับสายของถังไป๋เซียน?
ขอถามเธอหน่อยว่ามีอะไรที่ไม่สะดวกรับเหรอ? เขาไม่ให้เธอรับสายหรือไง? เขาไม่ให้เธอพูดเหรอ?
ผู้หญิงคนนี้นี่สมควรตายจริงๆเลย ยิ่งโมโหอยู่ก็ยิ่งทำให้โมโหอีก
“มีเรื่องอะไรหรือคะ? สายฝั่งโน้น เสียงของถังไป๋เซียนเหมือนจะหมองลงเล็กน้อย อาจะเป็นเพราะว่าเป็นห่วง หรืออานเป็นเพราะเรื่องอื่น