ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 502 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 502 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (2)
บทที่ 502 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (2)
“ผมว่าคุณก็แค่แกล้งสร้างภาพเท่านั้น ไม่มีความสามารถจริงๆหรอก”หยวนจวินห้าวเบะปากด้วยท่าทางไม่ค่อยจะเชื่อ เพียงแต่มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยเพิ่มรอยยิ้มจางๆขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้อยากใช้มือของหัวหน้ากงมาจู่โจมกับตระกูลกู้ ช่างเพ้อฝันซะสวยหรูเชียว
แต่สถานการณ์เช่นนี้ หัวหน้ากงไม่อาจคอยปกป้องตระกูลกู้ได้
“นายบอกมาสิว่าเรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่?”หัวหน้ากงรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ในใจเขายิ่งรู้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้เขาจำเป็นต้องแสร้งสอบปากคำอย่างเข้มงวดต่อไป
กู้หนานมองบุคคลผู้นั้นพลันแอบส่งสายตาไปให้เขา
“ผม ผมยอมรับครับ ผมยอมรับหมดเลยครับ เป็นผม เป็นผมวางแผนเองทั้งหมดครับ”เจ้าล่ายจื่อทรุดตัวลงพื้น ท่าทางเปลี่ยนไปอย่างมหันต์“เรื่องพวกนี้ผมเป็นคนวางแผนเองทั้งหมด ผมหาช่างไม้มาใส่ร้ายคุณถังเองครับ”
ดวงตาที่หรี่ขึ้นเล็กน้อยของถังหยุนเฉิงฉายแววเย็นยะเยือกออกมาหลายส่วน
มุมปากเวินลั่วฉิงเพิ่มรอยยิ้มเย้ยหยันขึ้นมาหลายส่วน ดูท่าตระกูลกู้จะให้บุคคลผู้นี้เป็นแพะรับปากแทนเสียแล้ว
แต่ว่าเป้าหมายของเธอในวันนี้ไม่ได้อยู่ที่ตระกูลกู้ แต่อยู่ที่ว่าจะหาข้อมูลให้ครบถ้วนได้อย่างไร ฉะนั้นเธอก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามาอีก
แน่นอน รอให้คดีจบก่อน โอกาสโจมตีตระกูลกู้นั้นยังมีอยู่มากมาย
กู้หนานได้ยินเจ้าล่ายจื่อยอมรับผิดทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวก็แอบโล่งใจหนึ่งเฮือก ตระกูลกู้ก็เช่นกัน มีหัวหน้ากงอยู่ที่นี่ บุคคลผู้นี้ก็ยอมรับผิดแล้วด้วย จึงไม่อาจทำให้ตระกูลกู้พลอยเดือดร้อนไปด้วย
“ทำไมนายต้องทำอย่างนี้?”อันที่จริงหัวหน้ากงก็แอบโล่งอกไปหนึ่งเฮือก แกล้งถามขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค
“ผม ผม เพราะครั้งก่อนผมถูกถังหยุนเฉิงตำหนิกลางสาธารณชน ผมจึงไม่พอใจอยากจะแก้แค้น เลยคิดวิธีนี้ขึ้นมา”เหตุผลของบุคคลนี้ก็ใช้ได้ไม่เลว จริงดังที่กล่าวมา ก่อนหน้านี้เขาทำผิดกฎระเบียบจนถูกถังหยุนเฉิงลงโทษต่อหน้าผู้คน
“พอแล้ว เรื่องนี้กระจ่างแล้ว พวกเราแยกย้ายกันได้”ท่านปู่หลิวลุกขึ้นยืนอยากจะออกไป ความหมายก็คือเรื่องนี้จบเพียงเท่านี้เถอะ
“รอเดี๋ยวค่ะ”ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็เปิดปากเอ่ยขึ้นมา
“คุณยังมีเรื่องอะไรอีก?”ร่างกายคุณปู่หลิวแข็งทื่อ พลางมองเวินลั่วฉิงด้วยแววตาดุร้าย เขาคิดว่าเวินลั่วฉิงจะคิดบัญชีเก่ากับเขา
เวินลั่วฉิงกลับไม่มองหน้าเขาแม้แต่แวบเดียว แต่เอาหลักฐานออกมาหนึ่งฉบับ จากนั้นก็พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า“ดิฉันคือคนที่ถังหลินส่งมาให้ไขคดีความ ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรม อันนี้คือใบรับรองของฉันค่ะ ได้รับมาจากหน่วยงานที่มีอำนาจมากที่สุดระดับโลกค่ะ”
ถังหยุนเฉิงตกตะลึง ที่แท้ยัยนี่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้เลย?ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรม?ผู้เชี่ยวชาญ?ยังได้รับใบอนุญาติจากองค์กรที่มีอำนาจระดับโลกอีกด้วย?!
เป็นลูกสาวบ้านใครกันนะถึงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้?
“เชอะ ปิดหน้าปิดตาไม่กล้าเปิดเผย ใครจะไปรู้ว่าหลักฐานใบนี้เป็นของคุณกัน”กู้หนานแอบตกใจ แต่เมื่อเห็นเวินลั่วฉิงปิดหน้าปิดตาจึงหัวเราะถากถางขึ้นมา
“คุณกู้ไม่ทราบอะไร หลักฐานพวกนี้ใช้ลายนิ้วมือพิสูจน์นะคะ ไม่ต้องใช้หน้า”น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงเกรงอกเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง
คำว่า‘ไม่ทราบอะไร’เท่ากับกู้หนานเป็นกบในกะลาไร้การศึกษาสิ้นดี
“คุณ?”กู้หนานโมโห แต่กลับไม่อาจสรรหาคำใดๆมาโต้ตอบได้
“นังหนู เธอคิดจะทำอะไร?”ท่านปู่หลี่ได้สติพลันมองหน้าเวินลั่วฉิง รู้สึกว่าจู่ๆเธอก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา คงต้องมีวัตถุประสงค์อย่างแน่นอน
“เพราะคดีนี้สำคัญมาก เพื่อความละเอียดรอบคอบ ฉันอยากตรวจดูข้อมูลเดิมทั้งหมด ขอให้หัวหน้ากงอนุญาติด้วยค่ะ”อันนี้คือเป้าหมายหลักของเวินลั่วฉิงในวันนี้ แน่นอนเธอไม่ได้พูดอย่างอื่น ถือเป็นการไว้หน้าหัวหน้ากง
“ข้อมูลทุกอย่างผมให้ถังหยุนเฉิงหมดแล้ว คุณอยากดูข้อมูลอะไรก็ไปหาถังหยุนเฉิงก็เพียงพอแล้ว”แต่เห็นได้ชัดว่าหัวหน้ากงไม่ตอบตกลง ปฏิเสธเวินลั่วฉิงโดยตรง
ดวงตาเวินลั่วฉิงเพิ่มความเย็นหยียบขึ้นมาหลายส่วน หากดูจากท่าทางตอนนี้ หัวหน้ากงจงใจเก็บเอกสารไว้กับตัวเองเป็นบางส่วน
หากเป็นเช่นนี้ คดีก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก
“หัวหน้ากงค่ะ ฉันมีใบรับรองจากองค์กรผู้มีอำนาจระดับโลก ฉันจึงเป็นสมาชิกขององค์กรนี้ คุณก็รู้ว่าองค์นี้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ และยังเป็นองค์กรสันติภาพที่ยิ่งใหญ่มีบารมีมากที่สุดอีกด้วย เรื่องนี้เกี่ยวพันกับองค์กรผู้ก่อการร้าย ถึงแม้ไม่ได้รับคำเชื้อเชิญจากถังหลิน แต่ฉันก็มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ดี ฉันมีอำนาจตรวจสอบข้อมูลทุกอย่าง หากหัวหน้ากงคิดจะขัดขวาง ฉันก็ต้องสงสัยเจตนาของหัวหน้ากงแล้วค่ะ ?”เวินลั่วฉิงจ้องมองกงซือพลางพูดอย่างฉาดฉานยิ่งนัก
คนที่อยู่ในเหตุกการณ์ต่างตกตะลึงที่กล้าพูดเช่นนี้กับหัวหน้ากง เกรงว่าทุกคนที่อยู่ในนี้ไม่มีใครกล้าเหมือนเธอสักคนเดียว ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าเสียจริงๆ
ถังหยุนเฉิงตกตะลึงพร้อมกับถอนหายใจหนึ่งเฮือก ยัยคนนี้เป็นเจ้าไม่รักชีวิตตัวเองจริงๆ
แต่เขาชอบมาดนี้มาก!!
“คุณ?คุณ?”หัวหน้ากงหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกับจ้องมองเวินลั่วฉิง ดวงตาฉายแววดุร้ายขึ้นมาหลายส่วน“คุณบอกว่าได้รับใบอนุญาตจากองค์กรที่มีอำนาจที่สุดระดับโลก?คุณเอาอะไรมาพิสูจน์?แค่คำพูดลอยๆอย่างนั้นหรือ?”
หัวหน้ากงคิดว่าองค์กรที่เธอพูดถึงห่างไกลจากที่นี่มาก อีกทั้งฝ่ายโน้นก็ไม่มีทางส่งคนมาเป็นพยาน ดังนั้นหัวหน้ากงจึงไม่อยากจะยอมรับ
ขอเพียงเขาไม่ยอมรับ ยัยคนนี้ก็ไม่มีทางเลือก
“ท่านกง ท่านพูดอย่างนี้เหมือนจะไม่ถูกนะ?ท่านทำอย่างนี้มันไม่มีเหตุผลนะ”ปกติท่านปู่หลี่เป็นคนใจร้อน เห็นอะไรไม่ถูกใจก็จะพูดตรงไปตรงมาแบบนี้อยู่แล้ว แต่คำพูดของเขา หากเทียบกับเวินลั่วฉิงแล้วยังสุภาพกว่ามาก
“ท่านหลี่ ผมก็พูดไปตามความจริง คนที่อยู่ที่นี่ใครยืนยันได้ว่าใบรับรองของเธอคือของจริง ท่านพิสูจน์ได้ไหม?”หัวหน้ากงตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงไม่มีทางถดถอยเด็ดขาด“ไม่มีใครพิสูจน์สถานะของเธอได้ ผมจะกล้าให้เธอเข้าห้องเอกสารได้อย่างไร
ด้านในมีแต่เอกสารสำคัญที่เชื่อมโยงกับความลับของแปดตระกูลใหญ่ของพวกเรา”
“เมื่อกี้นังหนูบอกว่า ใบรับรองใช้ลายนิ้วมือพิสูจน์ได้ ถ้างั้นก็พิสูจน์ดูก็รู้แล้วนี่”
ท่านปู่หลี่รู้เป้าหมายของหัวหน้ากงเป็นอย่างดี แต่คำพูดของหัวหน้ากงก็ทำให้ไม่อาจโต้ตอบได้
หากไม่อาจพิสูจน์สถานะของเวินลั่วฉิงได้ เธอก็ไม่อาจเข้าห้องเอกสารได้จริงๆ
“ท่านหลี่ เธอเป็นคนพูดประโยคนี้เอง พวกเราต่างไม่รู้เรื่องด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้องค์กรระดับโลกนั้นออกใบรับรองที่ใช้ลายนิ้วมือ และถึงแม้ลายนิ้วมือของเธอจะตรงกับใบรับรองใบนี้ แล้วใครพิสูจน์ได้ว่าใบรับรองฉบับนี้เธอไม่ได้เป็นคนปลอมแปลงขึ้นมาเอง พวกเราไม่มีใครเคยเห็นใบรับรองจากองค์กรนี้มาก่อน ไม่มีใครสามารถเปรียบเทียบได้ ยิ่งไม่มีใครพิสูจน์ได้เลย”หัวหน้ากงกล่าวได้มีหลักการและมีเหตุผล ทำให้ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง
“หัวหน้ากงพูดมีเหตุผลมาก ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าใบรับรองของเธอเป็นของจริง?ดังนั้นให้เธอเข้าห้องเอกสารระดับสูงของแปดตระกูลไม่ได้เด็ดขาด”กู้เจิ้งฉุนก็พูดเห็นด้วยกับหัวหน้ากงหนึ่งประโยค