ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 504 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 504 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (4)
บทที่ 504 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (4)
ต้องบอกว่าคุณเหลยเห้ออายุอานามก็ปาเข้าไปตั้งห้าสิบกว่าปีแล้ว แต่คุณชายสามเย่ยังหึงได้อีก คงไม่มีใครเหมือนเขาแล้วล่ะ
“อืม”เวินลั่วฉิงพยักหน้าพร้อมกับแย้มยิ้ม
“นึกถึงสมัยก่อน ผมเป็นคนมอบใบรับรองให้คุณกับมือเลย ด้วยความสามารถของคุณ คาดว่าคงไม่ทำให้ผมเสียใจกับการคาดหวังที่ผมมีต่อคุณนะครับ”ดูคล้ายกับว่าคุณเหลยเห้อพูดประโยคเกรงอกเกรงใจมาอีกประโยค แต่กลับคลี่คลายปัญหาก่อนนี้ได้สำเร็จ
ใบรับรองของเวินลั่วฉิงไม่เพียงแต่เป็นของจริงเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนมอบให้กับมือ
ประโยคนี้เป็นการตบหน้ากงซืออย่างหนัก และตบหน้ากู้เจิ้งฉุนแรงๆอีกด้วย
แน่นอน คนที่เย่ซือเฉินเชิญมามีประโยชน์เหลือหลาย
“ถ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าใบรับรองของนังหนูนี้เป็นของจริงสินะ?เมื่อสักครู่ยังมีใครบางคนบอกว่าเป็นของปลอมอยู่เลย”ท่านปู่หลี่จงใจพูดหนึ่งประโยค เวลานั้น สีหน้าของหัวหน้ากงกับคนบ้านตระกูลกู้ดูแย่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม
“ผมเป็นคนมอบใบรับรองให้คุณถังกับมือ ไม่ปลอมอยู่แล้ว หากใครยังสงสัยก็โทรศัพท์ไปถามเพื่อยืนยันกับองค์กรของพวกเราได้เลยครับ องค์กรของพวกเราจะส่งคนมาพิสูจน์ครับ มันเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วครับ”เหลยเห้อยิ้มดูคล้ายอธิบายให้ท่านปู่หลี่ฟัง
แต่ยิ่งเป็นการพูดให้ใครบางคนฟังเสียมากกว่า
“ผู้ที่ได้รับใบรับรองจากเรามีไม่มากนัก เพราะผู้รับต้องโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งก่อนที่พวกเราจะมอบใบรับรองให้ก็จะตรวจสอบอย่างพิถีพิถัน โดยจะตรวจสอบทั้งคุณธรรมและคุณภาพไปพร้อมกัน กลุ่มคนที่เอาใบรับรองจากทางเราก็หมายถึงเป็นสมาชิกขององค์กรเราด้วย จำเป็นต้องอุทิศตนเพื่อสันติภาพของโลก ผมรู้ดีว่าคุณถังทำได้ดีมาโดยตลอด ช่วยไขคดีใหญ่ให้กับองค์กรของเรามาหลายคดีแล้ว ผมจะรายงานให้องค์กรของพวกเราทราบถึงเรื่องนี้ด้วยครับ”คำพูดของเหลยเห้อไม่เพียงแต่ยืนยันสถานะของเวินลั่วฉิงเท่านั้น ยังบอกกล่าวด้วยว่าเวินลั่วฉิงมีสิทธิพิเศษบางอย่างอีกด้วย
สีหน้าหัวหน้ากงยิ่งย่ำแย่ขึ้นมาอีกมากมาย ตระกูลกู้ก็เช่นกัน
แน่นอน สีหน้าคุณชายสามเย่ก็แย่ไม่แพ้กัน เหตุเพราะคุณเหลยเห้อจับมือเวินลั่วฉิงไม่ปล่อยเสียที
แค่จับมือทักทายจำเป็นต้องนานขนาดนี้ไหม?บัดนี้สายตาคุณชายสามเย่จับจ้องอยู่ที่มือของคุณเหลยเห้อข้างที่จับมือกับเวินลั่วฉิงไว้ ราวกับจะจ้องให้มือของคุณเหลยเห้อเกิดเพลิงไหม้จนเป็นหลุมเสียอย่างนั้น หรืออาจจะบอกว่าคุณชายสามเย่อยากจะสับมือของใครบางคนให้ละเอียดไปเลย
“ถ้าตามที่คุณเหลยเห้อบอกมา ตอนนี้คุณถังกำลังสืบสวนคดีองค์กรก่อการร้ายอยู่ ซึ่งระหว่างการสืบสวนสามารถไปได้ทุกแผนกทุกที่เลยใช่ไหมครับ?”ท่านปู่หลี่จงใจเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค ถึงแม้ท่านปู่หลี่จะเป็นคนใจร้อน แต่บางครั้งก็รอบคอบอยู่บ้าง เพราะเขากังวลว่าใครบางคนจะขัดขวางคุณถังตรวจสอบข้อมูล
หัวหน้ากงฟังออกว่าท่านปู่หลี่จงใจพูดจู่โจมตน เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจโต้ตอบได้
“ใช่ครับ และที่สำคัญเมื่อมีความจำเป็นไม่เพียงแต่ใช้กับประเทศของเราเท่านั้น ยังรวมถึงประเทศทั่วโลกอีกด้วย อันนี้เป็นสิทธิพิเศษขององค์กรสันติภาพของพวกเราครับ”คำพูดของคุณเหลยเห้อเป็นการเปิดไฟเขียวให้เวินลั่วฉิงสืบคดีความได้อย่างราบรื่นนั่นเอง
“อืม เช่นนี้ก็ดี เช่นนี้ก็ดี ในเมื่อเป็นอย่างนี้ นังหนูถังก็วางใจสืบคดีได้เลย อยากจะตรวจสอบข้อมูลอะไรก็ให้ตรวจสอบได้เลย ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้”ท่านปู่หลี่จงใจเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค
ในเมื่อสามารถตรวจสอบได้ทั้งโลก แปดตระกูลใหญ่อย่างพวกเขายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
คำพูดของเขาหยุดชั่วครู่ ทันใดนั้นก็หันหน้าไปมองหัวหน้ากง“ครั้งนี้หัวหน้ากงไม่มีข้อแย้งแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ ขอเพียงสถานะของเธอเป็นจริง ผมก็ไม่มีทางขัดขวางอย่างแน่นอน”บัดนี้หัวหน้ากงโกรธจัดจนจะอ้วกอยู่แล้ว แต่กลับพูดโต้แย้งไม่ได้เพียงคำเดียว และยังได้แต่พยักหน้ารับอีกด้วย
“หากใครขัดขวางคุณถังตรวจสอบคดีความ ถ้าเช่นนั้นก็ถือว่าปกป้ององค์กรก่อการร้าย ต่อต้านสันติภาพโลกครับ”คุณเหลยเห้อเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยคอย่างเหมาะสม
“คุณถัง ได้ยินชื่อเสียงมานาน เป็นเกียรติมากที่วันนี้มีโอกาสได้พบหน้าคุณ”ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็อดกลั้นไม่ไหว พูดคำที่เสแสร้งจนไม่อาจจะเสแสร้งกว่านี้แล้ว เขาเกือบจะลากมือของเวินลั่วฉิงออกจากมือของคุณเหลยเห้อ แล้วตัวเองมาจับแทน
เขารู้ว่าตอนนี้ไม่อาจเปิดเผยสถานะที่แท้จริงของเวินลั่วฉิงได้ ฉะนั้นเขาก็ไม่กล้าแสดงให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขารู้จักกัน
หลังจากคุณชายสามเย่ได้จับมือของเวินลั่วฉิง เขาก็จับไว้เสียแน่นมาก ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลย
มุมปากของเวินลั่วฉิงกระตุก คนนี้นี่จริงๆเลย!!เขาทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่
เขาไม่กลัวคนอื่นจะรู้หรือไง?
ตอนนี้มีสายตามากมายกำลังมองพวกเขาอยู่
เย่ซือเฉินหันหน้าไปมองคุณเหลยเห้อแวบหนึ่ง แววตาของคุณชายสามเย่ที่มองครั้งนี้มีความลึกล้ำยากจะหยั่งถึง แต่เวินลั่วฉิงไม่ได้สังเกตเห็น
“ใช่แล้วผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณถังโดยลำพัง รบกวนทุกท่านจัดเตรียมห้องส่วนตัวให้หน่อยได้ไหมครับ”ทันใดนั้นคุณเหลยเห้อก็เอ่ยข้อเรียกร้องนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าต้องพูดหลังจากที่เห็นแววตาของคุณชายสามเย่แล้ว
“ได้ อันนี้ไม่มีปัญหาครับ”ถังหยุนเฉิงไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว รับปากเสร็จก็ใช้ลูกน้องไปจัดเตรียมทันที
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก ยังมีเรื่องต้องหารือกับเธอลำพังอีกเหรอ?คุณเหลยเห้อมีเรื่องอะไรต้องหารือกับเธอด้วยนะ?
เรื่องนี้รู้สึกแปลกประหลาดชอบกล?
“คุณชายสามเย่ คุณก็ไปด้วยกันเถอะ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณด้วย”จากนั้นคุณเหลยเห้อก็หันไปทางเย่ซือเฉิน พูดหนึ่งประโยคด้วยความยิ้มแย้ม
“ได้ ไม่มีปัญหา”คุณชายสามเย่ตอบรับอย่างรวดเร็วทันใจ ซึ่งรวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบ จากนั้นก็เข้าใจจนได้ ที่แท้เป็นฝีมือของเย่ซือเฉินนั่นเอง เขานี่จริงๆเลย
คุณเหลยเห้อชี้ตัวทั้งสองคนโดยเฉพาะ แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้คิดสงสัยอะไรมาก มีเพียงตอนที่ถังหยุนเฉิงมองแผ่นหลังของเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิง ดวงตาของเขาก็กะพริบ สองคนนี้มองดูแล้วรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้?
โดยเฉพาะลูกบ้านตระกูลเย่คนนี้ ทำไมแปลกจังเลย?
นิสัยของเย่ซือเฉิน สามารถมาปรากฏตัวที่นี่ก็แปลกมากแล้ว เห็นทีพ่อหนุ่มคนนี้จะมีเจตนาไม่ธรรมดาเสียเลย
หรือคิดอยากจะจีบนังหนูบ้านเขา?
ไม่ได้ เขาต้องระวังสักหน่อย ไอ้หนุ่มบ้านตระกูลเย่เจ้าเล่ห์มาก ใบหน้าของเขาใช้หลอกคนเก่งมาก ให้นังหนูของบ้านเขาถูกหลอกไม่ได้
ครั้งนี้ถังหยุนเฉิงถือว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนบ้านตระกูลถังของพวกเขาแล้ว!
ห้องที่บอดี้การ์ดจัดเตรียมนั้นกว้างใหญ่มาก ด้านในไม่ได้มีเพียงห้องเดียว
เหลยเห้อเข้าไปที่ห้องก่อน เย่ซือเฉินจูงมือเวินลั่วฉิงเข้าไปทีหลัง จากนั้นก็ปิดประตู ลากเวินลั่วฉิงเข้าไปยังห้องที่อยู่ด้านใน
ไม่รอให้เวินลั่วฉิงตอบสนองกลับมา เขาถอดหน้ากากของเวินลั่วฉิงทิ้ง ก่อนที่จะจูบเธออย่างหนักหน่วง
เขาคิดถึงเธอ คิดถึงจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว หลายวันมานี้ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่คิดถึงเธอเลย……
เวินลั่วฉิงตกใจ ท่าทางของเขาทั้งแรงและกะทันหัน เธอไม่มีโอกาสต่อต้านเสียเลย
จนนาทีที่เขาคลายตัวเธอออก เวินลั่วฉิงจึงจ้องมองเขาแบบโมโหเล็กน้อย“เย่ซือเฉิน คุณบ้าแล้วเหรอ”
คนนี้เป็นอะไรกัน?คุณเหลยเห้อยังอยู่ด้านนอกอยู่เลย
“ใช่ ผมบ้าไปแล้ว ผมคิดถึงคุณ คิดถึงคุณอย่างบ้าคลั่งเลย……”ริมฝีปากของเย่ซือเฉินทับลงไปอยู่บนแก้มเธอ…