ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 505 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 505 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (5)
บทที่ 505 คุณชายสามเย่มา เรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้นแล้ว (5)
“ใช่ ผมบ้าไปแล้ว ผมคิดถึงคุณ คิดถึงอย่างบ้าคลั่งเลย……”ริมฝีปากของเย่ซือเฉินทับลงบนใบหน้าของเธอ และบริเวณคอ รวมไปถึงผิวที่เผยออกมาด้านนอกทั้งหมด แต่เขายังรู้สึกไม่พอ มือข้างหนึ่งเริ่มลูบไล้ผิวกายของเธอ
“เย่ซือเฉิน คุณคิดอย่างอื่นได้ไหม?”น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงตอนนี้คือโกรธเคือง คนนี้คิดแต่เรื่องนี้ทั้งวันหรือไง?คิดอย่างอื่นเป็นบ้างไหม?
“ไม่ได้ ผมคิดถึงแต่คุณ อยากได้แต่คุณ”คุณชายสามเย่ตอบทันควัน ตอบตรงไปตรงมาจนไม่อาจจะตรงกว่านี้ได้แล้ว
ตอนนี้เขาไม่อาจไปคิดเรื่องอื่นได้ สมองของเขาเต็มไปด้วยภาพของเธอ เขาคิดถึงเธออย่างบ้าคลั่ง เขาอยากได้เธออย่างบ้าคลั่ง
ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบรัวๆ เขาตามหาเธอทั่วโลกอย่างบ้าบิ่นก็เพื่อสาเหตุนี้หรือ?
มีคนบอกว่าผู้ชายสามารถแยกเพศสัมพันธ์กับความรักออกจากกันได้ หมายถึงไม่มีความรักก็มีเพศสัมพันธ์ได้ คาดว่าคุณชายสามเย่ก็คงจะเป็นผู้ชายประเภทดังกล่าว
เขาหลงใหลในเรือนร่างของเธอเสมอมา เขาอยากได้เธอ อยากได้ร่างกายของเธอ และไม่เคยปกปิดเลย
แล้วอย่างอื่นล่ะ?
เวินลั่วฉิงนึกมาถึงจุดนี้ มุมปากก็ยกขึ้น ไม่รู้เพราะเหตุใดจู่ๆก็รู้สึกหดหู่ใจและหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
เย่ซือเฉินจูบแบบไม่จบไม่สิ้น ผิวส่วนที่เผยออกมาทั้งหมดถูกเขาจูบจนทั่วหมดแล้ว
เขาอุ้มเธอขึ้นมาใช้แรงกดแนบผนังไว้ ริมฝีปากของเขานัวเนียอยู่ที่คอของเธอ จูบแรงๆเสร็จ ต่อด้วยใช้แรงกัดหนึ่งคำ
ร่างกายเวินลั่วฉิงถูกกดทับไว้เช่นนี้ ไม่อาจกระดุกกระดิกแม้แต่น้อย เขาจูบและกัดเบาๆเช่นนี้ ทำให้ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย บ้างก็รู้สึกทรมาน บ้างก็เกิดความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ริมฝีปากเย่ซือเฉินเข้ามาใกล้หูของเธอ จากนั้นก็กัดเบาๆหนึ่งครั้ง
เขารู้ว่าบริเวณหูเป็นจุดเล้าโลมของเธอ ปกติเวลาเขาอยากได้เธอขึ้นมา เขาก็จะกัดเบาๆที่หูของเธอทุกครั้ง ร่างกายของเธอก็ทนไม่ไหวจนต้องสั่นเล็กน้อย
ดังนั้น ตอนนี้เขาจงใจทำเช่นนี้
รับรู้ได้ถึงการสั่นของเวินลั่วฉิง มุมปากคุณชายสามเย่ก็ยกขึ้นยิ้มอย่างพึงพอใจ ผู้หญิงของเขามีความรู้สึกต่อเขาอยู่
“ฉิงฉิง คิดถึงผมไหม?”ลมหายใจของเขาพ่นใส่ด้านในหูของเธอ มีความอบอุ่นและเปียกชุ่มเล็กน้อย ทำให้คำพูดของเขามีความเบาและอ่อนโยนแบบคลุมเครือ
เวินลั่วฉิงเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร
คิดถึงเขาไหม?
เธอไม่รู้ควรตอบคำถามนี้อย่างไรในชั่วขณะนี้
“ฉิงฉิง เชื่อฟังหน่อย ตอบผมมาสิ……”มุมปากของเย่ซือเฉินอ้าขึ้นเล็กน้อย ฟันหน้าทั้งสองแถวกัดเบาๆที่หูของเธอแบบเคลื่อนย้ายที กัดที
เขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเธอแตกต่างจากหลายวันก่อน หลายวันก่อนเธอมักจะปฏิเสธไม่อนุญาติให้เขาจูบและหอมแก้มเธอแบบนี้
ครั้งก่อนเขาจูบเธอบนรถ เธอยังมัดเขาให้ติดอยู่ในรถอยู่เลย!
ตอนนี้ท่าทีของเธอเปลี่ยนไป แสดงว่าเธอก็คิดถึงเขาด้วยใช่ไหม?
เขาอยากรู้คำตอบ
เขาอยากรู้ว่าในขณะที่เขาคิดถึงเธออย่างบ้าคลั่ง เธอเคยคิดถึงเขาบ้างไหม?
“เย่ซือเฉิน คุณปล่อยฉันก่อน”บัดนี้เวินลั่วฉิงหายใจวุ่นวาย จิตใจก็ฟุ้งซ่านเช่นกัน ฟุ้งซ่านถึงขั้นทำตัวไม่ถูก เธอสังเกตพบอย่างกะทันหันว่าตั้งแต่เธอได้ฟังถังหลินเล่าเรื่องให้ฟังแล้ว เธอก็ไม่ได้เด็ดขาดและแน่วแน่ในการตีตัวออกห่างจากเย่ซือเฉินเฉกเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอถึงกลายเป็นคนลังเล มันไม่ใช่นิสัยของเธอเลย ไม่ใช่เลยจริงๆ
ไม่รู้เป็นเพราะความคิดเปลี่ยนหรือเปล่า เวลาที่เย่ซือเฉินกัด เธอถึงได้……
เย่ซือเฉินก็รับรู้ได้ว่าเธอไม่ขยับกาย ฉะนั้นท่าทางของเขาก็ยิ่ง……
เธอรับรู้ได้ว่าการกระทำของเย่ซือเฉินยิ่งเลยเถอะไปกันใหญ่แล้ว ดวงตาเวินลั่วฉิงก็ลุ่มลึก กลับมามีสติอีกครั้ง จู่ๆเธอก็ยื่นมือไปจับมือของเขาไว้“เย่ซือเฉิน คุณรู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน?คุณควบคุมตัวเองหน่อยได้ไหม……”
“สำหรับคุณแล้ว ผมควบคุมไม่ได้”เย่ซือเฉินจูบที่ริมฝีปากของเธอ ตัดบทพูดประโยคหลังของเธอทิ้งไป สำหรับเธอแล้ว เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เช่นนั้นคืนห้าปีก่อนก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนั้นหรอก
“รอคุณไขคดีนี้เสร็จ พวกเราก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน”คุณชายสามเย่ก็รู้ว่าไม่อาจทำอะไรเธอในตรงนี้ได้ อีกทั้งพวกเขายังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันเลย ยัยหัวโบราณคนนี้คงไม่ให้เขาทำอะไรเธออย่างแน่นอน
“เย่ซือเฉิน ทำไมคุณต้องแต่งงานกับฉันให้ได้ด้วย?”หากเป็นเมื่อก่อน เวินลั่วฉิงจะไม่พิจารณาก็ปฏิเสธไว้ก่อน แต่เป็นเพราะคำพูดที่ถังหลินเล่าให้เธอฟังครั้งก่อน เธอรู้สึกว่าเธอควรจะถามให้กระจ่างจะดีกว่า
ได้ยินคำพูดของเธอ การกระทำของเย่ซือเฉินก็หยุดลง ปรายสายตาขึ้นมาแล้วสบตาเข้ากับเธอโดยตรง เมื่อก่อนเขาไม่เคยพูด เป็นเพราะเขารู้ว่าพูดแล้วเธอก็ไม่เชื่ออยู่ดี
แต่ว่าในเมื่อตอนนี้เธอถามขึ้นมา ถ้าเช่นนั้นเขาก็ควรพูดให้เข้าใจ บางคำยิ่งพูดให้กระจ่างเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น!!
“เพราะผมอยาก……”เย่ซือเฉินมองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ตั้งใจ น้ำเสียงราวกับแหกแห้งเลือนราง ไม่รู้เป็นเพราะตื่นเต้นหรือเปล่า
“คุณชายสามเย่ พอหอมปากหอมคอก็พอแล้ว ด้วยพลังกายที่มากล้นของคุณคาดว่าจะไปถึงพรุ่งนี้เช้าเลย ผมคุ้มกันทางไม่ได้แล้วเพราะมีคนเดินมาทางนี้ น่าจะเป็นคนบ้านตระกูลกู้ ตอนนี้ไม่อาจเปิดเผยสถานะของภรรยาของคุณได้ ความวัวไม่ทันหายความควายจะเข้ามาแทรกไม่ได้เชียวนะ ไม่เช่นนั้นคดีจะคลี่คลายไม่ได้”เพียงแต่เวลานี้คุณเหลยเห้อที่อยู่ด้านนอกเคาะประตูดังก้องขึ้นมากะทันหัน มีเสียงของเขาส่งเข้ามา
“ผม……”คิ้วของเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ แต่เขาคิดจะพูดให้จบ โอกาสดีๆเช่นนี้ จะให้ลอยไปได้อย่างไร
“หัวหน้ากงให้ฉันเสิร์ฟน้ำชามาให้ค่ะ ฉันเข้าไปแล้วนะคะ”แต่ว่าเวลานี้ด้านนอกมีเสียงผู้หญิงส่งเข้ามา
ซึ่งไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูแต่อย่างใด แต่เป็นการผลักประตูแทน
“คือกู้หนาน”เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงของกู้หนานก็รู้สึกตกใจ เห็นได้ชัดว่ากู้หนานแอบมาส่องลาดเลา เรื่องส่งน้ำชาเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
หากให้กู้หนานเห็นภาพเช่นนี้ ไม่ หากให้กู้หนานเห็นเหลยเห้ออยู่คนเดียวด้านนอก ส่วนเธอกับเย่ซือเฉินกลับอยู่ด้านใน คงทำให้กู้หนานสงสัยอย่างแน่นอน
สถานการณ์เช่นนี้จะให้ตระกูลกู้จับพิรุธไม่ได้ ต้องไม่ให้เกิดเรื่องนอกแผนเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นได้
ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น ใบหน้าฉายความเย็นชาจางๆ กู้หนาน บ้านตระกูลกู้ ดีมาก!!
เขาจะจำบัญชีนี้ไว้
“คุณเหลย คุณชายสามเย่ พวกคุณอยู่ด้านในไหมคะ?หัวหน้ากงให้ฉันส่งน้ำชามาให้ค่ะ พวกคุณเปิดประตูหน่อยได้ไหมคะ”ประตูถูกล็อกจากด้านใน แต่เห็นได้ชัดว่ากู้หนานจะราวีให้ถึงที่สุด อีกทั้งเธออ้างหัวหน้ากงเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ด้วย
หากด้านในไม่เปิดประตู เห็นได้ชัดว่ากู้หนานจะบุกเข้าไปเลย