ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 509 กลยุทธ์ชายงามของใครบางคน (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 509 กลยุทธ์ชายงามของใครบางคน (3)
บทที่ 509 กลยุทธ์ชายงามของใครบางคน (3)
เฟิ่งเหมียวเหมียวเห็นเขาสองคนไม่ได้กลับมา หลังรู้เรื่องก็รีบเอาข้าวไปส่งให้พวกเขา
ถังหยุนเฉิงผลักประตูห้องเอกสาร เห็นเวินลั่วฉิงจดบันทึกอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีท่าทีที่ตั้งใจมาก
แต่ว่าเขาเดินเข้าไปกลับพบว่าเขาดูสิ่งที่เธอจดไม่รู้เรื่องเลยสักนิดเดียว
“กินข้าวก่อนเถอะ?”หลายวันก่อน เธอเอาแต่กินๆนอนๆ ถังหยุนเฉิงดูแล้วขัดลูกหูลูกตามาก ตอนนี้เธอทุ่มเทขนาดนี้ ถังหยุนเฉิงรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย
“อืม”เวินลั่วฉิงตอบรับเสียงเบา แต่ไม่ได้เงยหน้า แค่ยื่นมือออกมารับข้าวกล่องจากมือของถังหยุนเฉิง จากนั้นใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ขจัดอาหารจนเรียบ
คืนนี้เธอคิดจะสู้ทั้งคืน ฉะนั้นจึงต้องเติมพลังกายให้พร้อมเสียก่อน
ถังหยุนเฉิงตกตะลึงตาค้าง ปกติเขากินข้าวนับว่าเร็วมากแล้ว แต่นังหนูคนนี้เร็วกว่าเขาอีก อีกทั้งนังหนูยังกวาดข้าวที่เฟิ่งหมียวเหมียวส่งมาสำหรับสองคนจนเกลี้ยง
เห็นเธอผอมๆอย่างนี้ แต่กินเยอะไม่เบาเลยนะ
“หนูอย่างเร่งรีบเลย ต้องรักษาสุขภาพดีๆ ต้องพักผ่อนถึงจะถูกนะ”
“อืม”เวินลั่วฉิงตอบเสียงเบา แต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด
เห็นเธอทำเช่นนี้ ถังหยุนเฉิงก็ไม่ได้รบกวนเธออีก เขาเก็บกล่องข้าวเสร็จก็ออกไปด้านนอก
เวินลั่วฉิงอยู่ในห้องเอกสารตลอดทั้งคืน ถังหยุนเฉินก็เฝ้าอยู่ด้านนอกไม่ห่าง ซึ่งระหว่างนี้เขาได้ไล่ให้เธอไปพักผ่อนหลายครั้งแล้ว
และเธอก็แค่รับปาก แต่ไม่ได้ทำตามเสียเลย สุดท้ายถังหยุนเฉิงจึงไม่ได้ไปรบกวนเธออีก
แน่นอน ฝั่งบ้านตระกูลกู้ก็ไม่ได้หยุดนิ่ง
“พี่ใหญ่ เมื่อวานไอ้ผู้ชายบอกว่าผู้หญิงคนนั้นใช้เวลาดูเอกสารไม่ถึงสี่สิบนาที ดูท่าเธอมีความสามารถจริงแท้ หากให้เธอคลี่คลายคดีได้ หากถังหยุนเฉิงเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปได้สำเร็จ ตระกูลกู้ของพวกเราก็ฉิบหายแล้ว”เช้าตรู่ ผู้ชายบ้านตระกูลกู้หลายคนนั่งล้อมวงเพื่อหารือวิธีรับมืออยู่
“คลี่คลายคดี?นายคิดว่ามันง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ คดีนั้นผ่านไปตั้งสามปีแล้ว ทุกครั้งที่ไล่ตามก็จับไม่ได้แม้แต่ขนของคนร้าย สามปีมานี้ก็เคยจ้างคนมีฝีมือไม่น้อย ทุกหน่วยงานต่างวิเคราะห์เหตุการณ์จนรายงานล้นเป็นภูเขาแล้ว แต่ก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลย แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะคลี่คลายคดี เป็นไปได้เหรอ?”เห็นได้ชัดว่ากู้เจิ้งฉุนไม่ได้กังวลเท่าใดนัก เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีความสามารถเช่นนั้น
“พี่ใหญ่ ไม่กลัวหนึ่งหมื่น แต่กลัวเศษหนึ่งส่วนหมื่น ต้องไม่ประมาทนะ ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสองวัน พวกเราจะรอเฉยๆอย่างนี้ไม่ได้ ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อขวางผู้หญิงคนนี้”กู้เจิ้งหลุนก็ไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะคลี่คลายคดีได้ แต่เขารู้สึกว่าไม่ควรไปเสี่ยงถึงจะดีกว่า
“พี่ใหญ่ให้ผมไปสืบประวัติของผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ไม่พบข้อมูลอะไรเลย ฉะนั้นพวกเรายิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนะ”
“ตอนนี้แม้กระทั่งหัวหน้ากงยังขวางเธอไม่ได้ พวกเรายังมีวิธีอะไรขวางเธอได้อีก สถานะเธอวางอยู่ตรงหน้าขนาดนี้แล้ว”ขณะที่กู้เจิ้งฉุนพูดคำนี้ออกมานั้น แววตาฉายความเลวทรามขึ้นมาหลายส่วน“หรือต้องฆ่าผู้หญิงคนนี้ทิ้ง”
“ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้อยู่ข้างกายถังหยุนเฉิง คิดจะฆ่าเธอนั้นไม่ง่ายเลย”กู้เจิ้งหลุนรู้จักถังหยุนเฉิงดี และรู้ความสามารถของถังหยุนเฉิงที่สุด
“พี่ใหญ่ผมมีวิธีเด็ด” เจ้าสี่กู้เจิ้งหมิงยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มเต็มไปด้วยความสยดสยอง
“เจ้าสี่มีวิธีอะไร?เล่ามาฟังสิ?”กู้เจิ้งฉุนมองเขาพลางยกคิ้วขึ้น
“เมื่อกี้พี่สามสืบประวัติเธอไม่เจอ ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็หาสถานะอะไรให้เธอก็ได้ ตอนนี้เธอมีใบรับรองจากองค์กรสันติภาพโลก
พี่ว่าหากเธอมีความเกี่ยวพันกับองค์กรหงหูจะเกิดอะไรขึ้น?”ดวงตาของเจ้าสี่ที่มืดครึ้มนั้นชวนให้ขนลุกมาก
“เจ้าสี่หมายความว่ายังไง?”คิ้วของกู้เจิ้งฉุนยกขึ้นเล็กน้อย
“หลายวันก่อน น้องห้าจับคนขององค์กรหงหูได้คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?ให้เขามาชี้ตัวยัยคนแซ่ถังนั้น แล้วให้ชิ่งหยุนจัดทำรูปถ่ายเธออยู่กับองค์กรหงหู ถึงตอนนั้นก็จะคึกคักแล้ว” เจ้าสี่หัวเราะอย่างโหดเหี้ยม
“แต่ว่าผู้หญิงคนนี้สวมแว่นกันแดดและสวมแมสไว้ตลอด พวกเราไม่ได้เห็นใบหน้าของเธอเลย แล้วจะทำรูปถ่ายได้ยังไง?”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ใช้รูปถ่ายที่เจ้าล่ายจื่อถ่ายไว้ก่อนหน้านี้ไปปรับแก้อีกนิดก็พอ ง่ายมาก”
“แต่รูปพวกนี้ตรวจสอบได้ง่าย ถึงแม้จับเธอได้ ด้วยความสามารถของถังหยุนเฉิงกับถังหลิน พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็ตรวจค้นความจริงเจอแล้ว”ดวงตากู้เจิ้งหลุนมีความใคร่ครวญหลายส่วน
“ไม่กลัวพวกเขาจะตรวจเจอ พวกเราแค่ถ่วงเวลาผู้หญิงคนนี้ก็พอ ตอนนี้เหลืออีกสองวัน ขอแค่ถ่วงเวลาได้สองวัน พวกเราก็ชนะแล้ว”
“อืม วิธีที่เจ้าสี่พูดมาดีมากเลย รีบไปทำตามแผนของน้องสี่เร็วๆ พยายามเพิ่มความยากและถ่วงเวลาเธอเข้าไว้ หลังจากสองวันผ่านไป พวกเราก็เป็นฝ่ายชนะแล้ว ขอเพียงกดหัวถังหยุนเฉิงลงไปได้ พวกเราก็ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรแล้ว”กู้เจิ้งฉุนสั่งการทันที
“ได้ ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ พี่ใหญ่บอกทางหัวหน้ากงด้วย ให้เขาเตรียมตัวจับคนให้พร้อม จับผู้หญิงคนนั้นไปขังสักสองวันเรื่องนี้ก็สิ้นสุดแล้ว”
“ฮ่าๆๆ เป็นแผนที่ดีเยี่ยมมาก”ทุกคนวางแผนเสร็จสรรพ จากนั้นก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
และเวลานี้ อีกฝั่งหนึ่ง เวินลั่วฉิงหยุดการอ่านเอกสารในที่สุด เธอลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสาย จากนั้นก็เปิดประตูห้องเอกสารออกมา
เธอเปิดประตูออกมาก็เห็นถังหยุนเฉิงกำลังยืนอยู่ที่ประตู เห็นได้ชัดว่าไม่ได้นอนมาทั้งคืนเช่นกัน
“เหนื่อยแล้วใช่ไหม?ไปพักผ่อนก่อนเถอะ”ถังหยุนเฉิงเห็นเธอ ไม่ได้รีบร้อนถามเรื่องคดีความ และอยากให้เธอไปพักผ่อนก่อน
“ตอนนี้ไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว ฉันวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดแล้ว พบว่าเป็นเรื่องที่ยากน่าดู”ตอนนี้สีหน้าเวินลั่วฉิงไม่ได้มีความเหนื่อยล้าแต่อย่างใด เพียงแต่แววตามีความเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
ได้ยินสิ่งที่เธอพูด ถังหยุนเฉิงก็รู้สึกหดหู่ใจ หากแม้กระทั่งเธอก็พูดเช่นนี้ เกรงว่า……
“กลับไปกินข้าวก่อน แล้วพักผ่อนสักพักค่อยว่ากันอีกที”ถังหยุนเฉิงทำใจไว้แล้ว เพียงแต่หลังจากที่รู้สถานะของเธอก็กลับมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่อาจให้เธอฝืนลำบากลำบนมากนัก
“ค่ะ”ครั้งนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้ปฏิเสธ ตามถังหยุนเฉิงกลับบ้านไป
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เวินลั่วฉิงก็เอาบันทึกที่จดเมื่อคืนออกมาวางไว้ที่โต๊ะ
เฟิ่งเหมียวเหมียวกำลังทำกับข้าวให้พวกเขาอยู่ที่ห้องครัว พอได้ยินเสียงก็วิ่งเข้ามาหา เห็นสีหน้าเวินลั่วฉิงจริงจัง คำพูดที่ถึงปลายลิ้นจึงได้เก็บกลับเข้าไป พลางกลับไปทำกับข้าวต่อ
“เหตุร้ายครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 21 เมษายน ค.ศ.2015 สถานที่เกิดเหตุคือศูนย์ฝึกซ้อมของหยุนเฉิงแห่งตระกูลเมิ่ง ศัตรูฉวยโอกาสแฝงตัวเข้าไปฆ่าแปดหอพัก ซึ่งในแปดหอพักนี้มีคนถูกทำร้ายทั้งหมด 32 คน และต่างตายด้วยวิธีเดียวกัน นั่นก็คือการฆ่าเชือดคอ”เวินลั่วฉิงเริ่มอธิบายข้อมูลที่เธอรวบรวมมา