ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 542 คุณชายสามเย่เกือบถูกระเบิด (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 542 คุณชายสามเย่เกือบถูกระเบิด (3)
บทที่ 542 คุณชายสามเย่เกือบถูกระเบิด (3)
“จริงเหรอ?” แต่คุณชายสามเย่กลับคิดจริงจัง สีหน้ามืดมนผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
“อืม จริงสิ” เสี่ยวชีชะงักไปก่อนจะพยักหน้าแรงๆ คำพูดพวกนั้นที่เขาพึ่งพูดไป เขาเองยังไม่เชื่อ แต่พี่สามของเขากลับเชื่อ
พี่สามของเขาช่างสุดยอดจริงๆ!!
เย่ซือเฉินที่เดิมสีหน้ามืดมนก็ผ่อนคลายลงมาก แต่นัยน์ตาทั้งคู่ของเขาเอาแต่มองไปทางเวินลั่วฉิง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าคุณชายสามเย่ตกลงปลงใจกับคุณกู่แล้วเหรอ? ทำไมหลังจากที่คุณชายสามเย่มาแล้วไม่แม้แต่จะมองคุณกู่ แต่กลับเอาแต่พัวพันคุณถัง?”
“หรือว่าคุณชายสามเย่เปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแล้ว?”
“เธอคิดว่าคุณชายสามเย่ดูเหมือนเปลี่ยนใจเหรอ? ใครก็ดูออกว่าคุณชายสามเย่กับคุณถังรู้จักกัน ไม่อย่างนั้นจะมีท่าทีแบบนั้น? น้ำเสียงแบบนั้นเหรอ?”
“แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่? หรือคุณชายสามเย่จะเหยียบเรือสองแคม?”
“เหยียบเรือสองแคม? เธอคิดว่าคุณชายสามเย่เคยสนใจคุณหนูตระกูลกู่ไหม? คุณชายสามเย่ไม่เคยมองคุณกู่เต็มตาเลยสักครั้ง อีกอย่างคุณชายสามเย่ก็ไม่ใช่คนแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้นคุณกู่เทียบกับคุณถังได้เหรอ?”
“ดังนั้น ที่คุณกู่พูดก่อนหน้านี้ล้วนไม่ใช่ความจริง?”
“อืม ฉันคิดว่าเป็นไปได้มาก”
เมื่อทุกคนได้ยินถึงกู่หยิงหยิง ก็มองหาเธออีกครั้ง แต่กลับพบว่ากู่หยิงหยิงกับกู่หลิงหลิงได้หายไปแล้ว
“เด็กสาวตระกูลกู่คนนั้น ก็ช่าง……” ท่านย่าถังเป็นคนฉลาดจึงมองออกเป็นธรรมดา อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
“ใช่แล้ว กู่หยิงหยิงโกหกชัดๆ ซือเฉินมาแล้ว เธอกลัวว่าที่เธอโกหกไว้จะถูกเปิดโปง ก็เลยแอบเดินหนีออกไปแล้ว”
เฟิ่งเหมียวเหมียวแอบถอนหายใจ “อายุยังน้อย ความคิดช่างลึกล้ำจริงๆ”
“นี่หรือคนที่คุณปู่เย่คัดเลือกมา ตั้งใจจะให้คุณชายตระกูลเย่ไปสู่ขอมา” ท่านย่าถังส่ายหน้าอีกครั้ง
“นั่นก็ต้องให้ซือเฉินตกลงก่อน คุณแม่ ซือเฉินก็เป็นเด็กที่คุณแม่เห็นเขาเติบโตมาตั้งแต่เด็ก ท่าทีของเขาเมื่อครู่นี้ คุณแม่ยังไม่เข้าใจเหรอ? ทำไมคุณแม่ยังจงใจทำให้เขาลำบากใจ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองท่านย่าถัง เธอเชื่อว่าท่านย่าถังต้องเข้าใจมากกว่าเธออยู่แล้ว ในเมื่อเข้าใจทั้งหมดแล้วทำไมจะต้องทำให้เย่ซือเฉินลำบากใจอีก?
ท่านย่าถังกำลังจะตอบ ทันใดนั้นด้านนอกประตูกลับเกิดความวุ่นวายขึ้น ตามด้วยเสียงอุทานของทุกคนดังแว่วมา ทั้งยั้งมีเสียงสูดลมหายใจเข้าเฮือก สถานการณ์แบบนี้……
ท่านย่าถังสังเกตเห็นสถานการณ์ด้านนอกประตู คนที่สามารถทำให้ทุกคนตกใจเช่นนี้ได้เกรงว่าภูมิหลังคงไม่ธรรมดา
บริเวณประตู ทุกคนแหวกออกเป็นทางโดยอัตโนมัติอย่างรวดเร็วและพร้อมเพรียงกัน ทุกคนต่างพากันก้าวถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นเมื่อทุกคนเห็นคนที่เข้ามาก็ช่วยไม่ได้ที่จะตกใจ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นท่านหยวนมาพร้อมกับท่านหยวนและยังมีลูกชายของเขา
พวกเขามาเข้าร่วมงานเลี้ยงกันทั้งครอบครอบครัว เป็นเกียรติเช่นนี้ไม่ใช่คนธรรมดาจะได้รับอย่างแน่นอน
ท่านปู่ถังที่สติกลับมาแล้วจึงรีบไปต้อนรับด้านหน้า เพียงแต่ท่านปู่ถังยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ท่านหยวนก็พูดขึ้นมาก่อนแล้ว “ท่านถัง คุณช่างใจแคบเสียจริง ตระกูลจัดงานเลี้ยงก็ไม่คิดจะเชิญผม”
ท่านปู่ถังลอบถอนหายใจ คำพูดในเวลาสั้นๆ นี้ช่างตอบยากจริงๆ
“ฉันได้ยินว่าท่านถังวันนี้ได้หลานสาวกลับมาแล้ว แล้วยังตั้งใจเลือกบ้านสามีดีๆ ให้หลานสาว ถึงแม้ท่านถังจะไม่ได้เชื้อเชิญพวกเรา แต่พวกเราก็พาลูกชายมาด้วยแล้ว”
คนอื่นๆ ล้วนได้ยินมาว่าตระกูลถังต้องการเลือกผู้ชายดีๆ ให้คุณหนูตระกูลถัง แต่ไม่เคยพูดออกมาอย่างแจ่มแจ้ง ใครล้วนคิดไม่ถึงว่าเขาจะปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน แล้วยังพูดออกมาตามตรงถึงขนาดนี้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คนที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ใจครึ่งหนึ่งก็หนาวสะท้านไปในทันที
ลองสอบถามดู ใครจะกล้าแย่งกับลูกชายของท่านหยวน?
“ไอ้ยา พี่สาม นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เสี่ยวชีตกใจ เขาพึ่งพูดไปว่าพี่สะใภ้สามไม่เคยชายตามองผู้ชายคนอื่นมาก่อน ผู้ชายคนอื่นไม่ใช่คู่แข่งของพี่สามตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
แต่ว่าตอนนี้กลับมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้โผล่มา?
“พี่สาม ศัตรูที่แข็งแกร่งมาแล้วหนึ่งคน” นัยน์ตาถังหลินวาววับ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคืนนี้จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“หยวนจวินหยิง ปีนี้อายุสามสิบ ยังไม่แต่งงาน หน้าตาบุคลิกล้ำเลิศ มีพรสวรรค์น่าทึ่ง ไม่ต้องพูดถึงฐานะของเขา ตัวเขาเองก็ยอดเยี่ยม……”
ถังหลินอธิบายช้าๆ หยวนจวินหยิงคนนี้นั้นดีเลิศ ไม่ใช่คนธรรมดา
เย่ซือเฉินกวาดตามองเขาอย่างเย็นชา มุมปากของถังหลินกระตุกเล็กน้อยจากนั้นก็หยุดเสียงลง เห็นได้ชัดว่ามีบางคนไม่อยากฟังคำพูดของเขา
ฝั่งนั้น ท่านปู่ถังมึนงงไปเล็กน้อย พูดตามความจริงเรื่องช่วยเลือกคนรักให้ฉิงฉิง พวกเขาไม่ได้คิดมาก่อนเลย เป็นข่าวลือทั้งหมด
แต่ในตอนนี้ท่านนี้พูดมาถึงขนาดนี้ เขาจะอธิบายก็ไม่คล่องปาก
“คุณถัง ผมมาที่นี่เพื่อเจอคุณโดยเฉพาะ” หยวนจวินหยิงเดินไปถึงตรงหน้าเวินลั่วฉิง เขายกริมฝีปากขึ้นยิ้มบางมองเธอ
เวินลั่วฉิงมองเขา เขามีหน้าตาที่ดูดี มีความสุภาพอ่อนโยนมาก แต่ในเวลาเดียวกันดวงตาคู่นั้นกลับมีความเฉียบคมอยู่ด้วย ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา คือปฏิกิริยาแรกของเวินลั่วฉิงตอนที่เจอเขา
เวินลั่วฉิงยิ้มตามมารยาท
“ผมคุยกับคุณถังเป็นการส่วนตัวได้ไหม?” คำพูดนี้ของหยวนจวินหยิงนั้นรุกและตรงอย่างยิ่ง
ผู้ชายนับไม่ถ้วนที่นี่ล้วนอยากพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับคุณถัง แต่ไม่กล้าโฉ่งฉ่าง
เวินลั่วฉิงชะงักไป เธอรู้ดีว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เธอไม่สามารถปฏิเสธได้อยู่แล้ว แต่จะให้เธอคุยกับเขาส่วนตัว? คุยอะไร?
เวินลั่วฉิงมองไปทางเย่ซือเฉินโดยไม่รู้ตัว ประสานเข้ากับสายตาของเย่ซือเฉินที่จ้องมาที่เธออยู่พอดี
ถ้าเธอตกลงคุยกับเขาตามลำพัง คาดว่าเย่ซือเฉินอาจจะบ้าขึ้นมาอีกครั้ง
“เหี้ย ตรงขนาดนั้นเลย?” คุณชายห้าฉิงลอบถอนหายใจ “ได้ยินว่าแต่ไหนแต่ไรมาหยวนจวินหยิงทำอะไรรวดเร็วเฉียบขาด ที่แท้ก็ไม่ผิดเลยสักนิด คิดไม่ถึงว่าตามจีบผู้หญิงจะตรงไปตรงมาขนาดนี้”
“พี่สะใภ้สามจะตกลงไหม? พี่สาม พี่ว่าพี่สะใภ้สามจะถูกใจหยวนจวินหยิงไหม? ไม่ต้องการพี่แล้ว……” ตอนนี้แม้แต่เสี่ยวชีก็ร้อนรนแล้วพูดความในใจออกมาทันที ในตอนนั้นเขาเองก็ไม่ได้คำนึงว่าคำพูดของเขาจะสะเทือนใจพี่สามของเขาไหม
“เหตุการณ์แบบนี้ ฉิงฉิงไม่มีทางปฏิเสธได้” นัยน์ตาถังหลินล้ำลึกลงเล็กน้อย สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นเบาบาง
ตอนนี้ในโอกาสแบบนี้ ในสายตาของทุกคน หยวนจวินหยิงเรียนเชิญมาแบบนี้ ถ้าเวินลั่วฉิงปฏิเสธ……
เย่ซือเฉินหรี่ตาลงเรื่อยๆ กวาดมองหยวนจวินหยิงอย่างเย็นชา จากนั้นสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่เวินลั่วฉิงอีกครั้ง
“ได้ค่ะ” เวินลั่วฉิงยิ้มบาง พยักหน้าเบาๆ
เพียงครู่เดียวสายตาเย่ซือเฉินก็เย็นชาลงมากทันที คิดไม่ถึงว่าเธอจะตอบตกลงง่ายๆ รวดเร็วขนาดนี้? ตอบตกลงคุยกับหยวนจวินหยิงตามลำพัง?