ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 546 คุณชายสามเย่เกือบถูกระเบิด (7)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 546 คุณชายสามเย่เกือบถูกระเบิด (7)
บทที่ 546 คุณชายสามเย่เกือบถูกระเบิด (7)
เย่ซือเฉินหน้าครึ้มดำลง เขาถลึงตาให้เวินลั่วฉิง มุมปากขยับเล็กน้อย กำลังจะพูดขึ้นมา
“ใช่สิ คุณบอกฉันหน่อย เขาเฮงซวยยังไง หลอกลวงยังไง?” เวินลั่วฉิงกลับพูดขึ้นอีกครั้งขัดคำพูดของเย่ซือเฉินที่จะอยากพูด
เย่ซือเฉินตอนนี้อยากบีบเวินลั่วฉิงให้ตาย เขาเฮงซวย? เขาหลอกลวง? เธอช่างกล้าพูด?
ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นเธอไม่เข้าใจเหรอ?
“คุณถัง ความจริงแล้วเขาแต่งงานแล้ว เขามีภรรยาแล้ว” หลิวหยิงลอบถอนหายใจ ครุ่นคิดไปมา ยังคงตัดสินใจพูดความจริงออกไป เธอรู้สึกว่าเธอไม่เพียงแต่พูดเพื่อฉิงฉิงเท่านั้น ควรยิ่งต้องคิดหาวิธีช่วยคุณถังคนนี้ด้วย
“คุณชายสามเย่ ทำไมคุณเป็นคนแบบนี้ คุณแต่งงานแล้ว ทำไมยังมาพัวพันฉัน คุณมันคนเลว คนหลอกลวง คนเฮงซวย……” เวินลั่วฉิงกลั้นยิ้มมองเย่ซือเฉิน จงใจตะโกนออกมาจนเกินพอดี
“หย่าแล้ว” เย่ซือเฉินมองท่าทางของเวินลั่วฉิง คับแค้นจนกัดฟันกรอด แต่ก็ตอบตามไปตามความหมายของเธอ
หลิวหยิงได้ยินที่เย่ซือเฉินพูด ดวงตาก็ถลึงกว้าง สีหน้าตะลึงมากยิ่งขึ้น เปลวไฟในดวงตายิ่งปะทุขึ้นสูง “เย่ซือเฉินคุณมันเฮงซวย คนสารเลว คุณแต่งงานกับฉิงฉิงแล้วแท้ๆ ในเมื่อคุณไม่รักเธอแล้วแต่งงานกับเธอทำไม ทำไมต้องทำร้ายเธอ”
หลิวหยิงในตอนนี้โมโหจนถึงที่สุดแล้ว น้ำเสียงสูงขึ้น หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตลอดเวลา “เย่ซือเฉิน คนสารเลว คุณเห็นว่าคุณถังสวยหน่อย ก็จะหย่ากับฉิงฉิงแล้ว เย่ซือเฉิน คุณยังมีสำนึกบ้างไหม?”
“เธอไม่ได้สวยหน่อย เธอสวยมาก ความสามารถก็แข็งแกร่ง ข้อดีก็มากมาย?” เย่ซือเฉินเห็นเวินลั่วฉิงยังคงไม่มีทีท่าจะอธิบาย ก็พูดเสริมตามน้ำไปกับคำพูดของหลิวหยิง
“คุณหมายความว่าอย่างไร? คุณหมายความว่าอะไร เย่ซือเฉินคุณหมายความว่าอะไร? คุณหมายความว่าฉิงฉิงไม่มีข้อดี?” หลิวหยิงได้ยินที่เขาพูดก็ยิ่งโมโหจนขึ้นหน้า
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นคุณก็พูดถึงข้อดีของเธอสิ” เย่ซือเฉินมองเวินลั่วฉิง มุมปากยกยิ้มบางเบา ในเมื่ออยากเล่นสนุกนัก ถ้าอย่างนั้นก็เล่นด้วยกัน!
“ฉิงฉิงเธอ เธอมีข้อดีมากมาย เธอ เธอ เธอ……” หลิวหยิงพูดแต่คำว่าเธอซ้ำๆ อยู่นาน กลับไม่ได้พูดออกมาให้สมบูรณ์ อึดอัดจนหน้าแดงไปหมด จากนั้นถึงพูดออกมาอย่างร้อนรน “ฉิงฉิงจับกบเก่งมาก ฉิงฉิงปีนต้นไม้ก็เก่งมาก”
“เฮ้อ” เวินลั่วฉิงได้ยินที่หลิวหยิงพูดก็เกือบจะสำลักน้ำลายตัวเอง หลิวหยิงคิดอยู่ค่อนวันกลับคิดถึงเรื่องพวกนี้?
พี่ใหญ่ เธอแน่ใจนะว่านี่ใช่ข้อดีไหม?
แต่ตอนที่เธออยู่กับหลิวหยิง ทั้งคู่ยังเด็ก ทุกๆ วันคงกำลังทำเรื่องพวกนี้อยู่จริงๆ
“ออ ที่แท้เธอก็มีข้อดีมากขนาดนี้ ผมไม่รู้เลยจริงๆ” เย่ซือเฉินชะงักไป ก่อนจะมองไปทางเวินลั่วฉิงอีกครั้ง แววตาเจือด้วยรอยยิ้มสื่อความหมายชัดเจนมากขึ้น
หลิวหยิงมองรอยยิ้มบนใบหน้าเย่ซือเฉิน คิดว่าเป็นรอยยิ้มหัวเราะเยาะ
“เย่ซือเฉินคุณมันคนสารเลว วันนี้ถ้าไม่ได้พูดแทนฉิงฉิง ฉันก็ไม่ใช่หลิวหยิงแล้ว”
ในขณะที่หลิวหยิงพูด มือที่ซ่อนไว้ข้างหลังตลอดทันใดนั้นก็ยื่นออกมา ในมือยังมีแก้วเหล้าอีกหนึ่งใบ
เธอถือแก้วในมือแน่น ทันใดนั้นก็พุ่งไปทางเย่ซือเฉิน ท่าทางนั้นเห็นได้ชัดว่าต้องการระเบิดหัวของเย่ซือเฉิน
มู่หรงซือถูที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัยน์ตาวาววับขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พุ่งเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรใจร้อนจริงๆ เดิมเขาคิดว่าเธอเห็นว่าเย่ซือเฉินหล่อเหลาดูดี ถึงได้ตามมา คิดไม่ถึงว่าเธอจะต้องการระเบิดหัวของเย่ซือเฉิน?
ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าเสียจริง
“หลิวหยิง ฉันคือฉิงฉิง ฉันคือฉิงฉิง เธออย่าใจร้อน” แต่เวินลั่วฉิงรีบมาขวางหน้าหลิวหยิงไว้อย่างรวดเร็วเพื่อห้ามเธอ
เดิมเวินลั่วฉิงแค่อยากล้อเล่นนิดหน่อย คิดไม่ถึงว่าหลิวหยิงจะใจร้อนขนาดนี้จึงตกใจไปในทันที
“ทำไม? ไม่เล่นต่อแล้วเหรอ?” เย่ซือเฉินกวาดตามองแก้วเหล้าในมือหลิวหยิง จากนั้นก็มองไปทางเวินลั่วฉิง ทั้งโกรธทั้งจนใจเล็กน้อย
“คุณ คุณพูดอะไร? คุณคือฉิงฉิง? คุณคือฉิงฉิงจริงๆ?” หลิวหยิงชะงักไป สายตาจ้องเวินลั่วฉิงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เป็นไปได้อย่างไร? เธอไม่ใช่คุณหนูของตระกูลถังเหรอ? แล้วจะเป็นฉิงฉิงได้อย่างไร?
ไม่ใช่? ฉิงฉิงสวยขนาดนี้ได้อย่างไร?
มู่หรงซือถูเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มีสีหน้าเข้าใจมากขึ้นทันที ที่แท้ถังฉิ้นเอ๋อก็คือเวินลั่วฉิง ผู้หญิงของเย่ซือเฉิน
เพียงแต่ผู้หญิงของเขามีความสัมพันธ์อะไรกับเวินลั่วฉิง? ถึงกับต้องการระเบิดหัวของเย่ซือเฉินเพื่อเวินลั่วฉิง?
เขาอยู่กับผู้หญิงคนนี้มานาน เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ ตอนเธออยู่กับเขาเอาแต่รับปากรับคำ ไม่ขัดขืนอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรตามอำเภอใจแบบนี้มาก่อน
มู่หรงซือถูรู้สึกหึงหวงอยู่ในใจเล็กน้อย
“หลิวหยิง ฉันคือฉิงฉิงจริงๆ ขอโทษที่เมื่อกี้ไม่ได้อธิบายให้เธอฟัง แต่เรื่องฐานะของฉัน ฉันขอเธอเก็บไว้เป็นความลับชั่วคราว” เวินลั่วฉิงรีบอธิบาย เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเด็กคนนี้จะเปลี่ยนเป็นคนรุนแรงขนาดนี้ เธอจำได้เมื่อก่อนหลิวหยิงไม่ได้อารมณ์ร้าย
“ฉิงฉิง เป็นเธอจริงเหรอ? เป็นเธอจริงๆ” หลิวหยิงได้ยินเสียงของเวินลั่วฉิงในตอนนี้ ได้ยินคำเรียกที่คุ้นเคยนั่นอีก ในที่สุดก็เชื่อว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือเวินลั่วฉิง
“ฉิงฉิง ที่แท้เธอก็สวยถึงขนาดนี้ สวยมาก ดีจัง ดีจังเลย” หลิวหยิงลูบหน้าเวินลั่วฉิง คล้ายไม่แน่ใจ แต่บนหน้าก็เต็มไปด้วยความดีใจ
ที่แท้ฉิงฉิงของเธอก็สวยถึงขนาดนี้
เย่ซือเฉินมองเธอลูบหน้าภรรยาของเขาก็ไม่พอใจ รีบยื่นมือออกไปดึงเวินลั่วฉิงมา
“เมื่อกี้ พวกคุณเข้าขากันดี ด่าได้ถึงอกถึงใจมาก?” เย่ซือเฉินมองเวินลั่วฉิง ในสายตาฉายแววอันตราย
ท่าทางน่าเกรงขามราวกับกำลังคิดบัญชี
“เฮ้อ” สติกลับมาแล้วนึกถึงคำที่ด่าคุณชายสามเย่ไปเมื่อสักครู่ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที
ที่ได้ยินคุณชายสามเย่หมายถึงต้องการคิดบัญชีกับพวกเธอ?
“เรื่องนั้น ได้ยินว่าเดี๋ยวนี้หลงๆ ลืมๆ ไปกำลังเป็นที่นิยมกันนะ” หลิวหยิงกลอกตาไปมาจากนั้นก็โพล่งประโยคนั้นออกไป
มู่หรงซือถูที่อยู่ไม่ไกลมุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย คำพูดแบบนี้ มีแต่เธอเท่านั้นที่พูดออกมาได้
“อืม เมื่อกี้ถ้าเธอเอาแก้วนั่นตีหัวเขาจริงๆ คิดว่าก็คงไม่เลว” เวินลั่วฉิงชะงักไป ก่อนจะยิ้มบาง ถ้าเมื่อกี้แก้วเธอใบนั้นตีลงไปจริงๆ คุณชายสามเเย่อาจจะหลงๆ ลืมๆ ไปจริงๆ ก็ได้
“ถ้าอย่างนั้นให้ฉันทำอีกครั้งไหม?” หลิวหยิงมองเวินลั่วฉิง กะพริบตาปริบปริบ ปรึกษากับเวินลั่วฉิงด้วยท่าทางจริงจังเป็นอย่างมาก
“ฉันคิดว่าลองดูก็ได้” รอยยิ้มบนหน้าเวินลั่วฉิงลุ่มลึกลงเล็กน้อย เธอพบว่าหลิวหยิงของเธอนั้นน่ารักขนาดไหน