ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 549 เขารู้สึกเจ็บปวดใจ (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 549 เขารู้สึกเจ็บปวดใจ (3)
บทที่ 549 เขารู้สึกเจ็บปวดใจ (3)
มู่หรงซือถูมองท่าทางของเธอ ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย สายจากใครถึงทำให้เธอร้อนรนได้ขนาดนี้?
มู่หรงซือถูครุ่นคิด เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นเธอเดินไปถึงที่ระเบียงแล้ว ความเร็วนั้นรวดเร็วเกินไปจริงๆ มู่หรงซือถูนัยน์ตาวาววับขึ้นมาก่อนจะเดินตามไป
สาเหตุที่หลิวหยิงไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะเธอรู้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา เพราะเสียงเรียกเข้านี้เธอตั้งค่าไว้เฉพาะ มีเพียงโทรศัพท์จากคนนั้นเท่านั้นถึงมีเสียงเรียกเข้าแบบนี้
“ฮัลโหล” เมื่อมาถึงตรงระเบียง หลิวหยิงถึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ น้ำเสียงเธอในตอนนี้นุ่มนวลมาก รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า รอยยิ้มแบบอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
มู่หรงซือถูในตอนนี้ยืนอยู่ไม่ไกล
จากมุมของเขา เขาเห็นสีหน้าของเธอได้ชัดเจน เธอกำลังยิ้ม ยิ้มอย่างอ่อนโยนมาก เธอไม่เคยยิ้มขนาดนี้ต่อหน้าเขามาก่อน
เขาฟังออกชัดเจนถึงความนุ่มนวลในน้ำเสียงของเธอ เธอพูดกับเขาก็ไม่เคยนุ่มนวลแบบนี้
ตอนอยู่ต่อหน้าเขาเธอพูดอย่างระมัดระวังตลอด น้ำเสียงนั้นเบาแต่กลับไม่มีเศษเสี้ยวของความนุ่มนวล
“หลิวหยิง ผมเองไป๋ยี่รุ่ย” อีกฝั่งหนึ่งของสายโทรศัพท์ เสียงของผู้ชายค่อยๆ ดังขึ้นมา เสียงทุ้มต่ำเล็กน้อย
“ฉันรู้ว่าเป็นคุณ ร่างกายคุณดีขึ้นบ้างหรือยัง?” รอยยิ้มบนหน้าหลิวหยิงไม่มีหุบลง ในความอ่อนโยนมีความรู้สึกอ่อนหวานเจืออยู่ น้ำเสียงเธอในตอนนี้ยิ่งนุ่มนวลมากกว่าเดิมพร้อมกับเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
มู่หรงซือถูเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ ได้ยินน้ำเสียงเธอ แววตาก็เย็นชาลงเรื่อยๆ โทรศัพท์สายนี้เป็นใครกันที่โทรหาเธอ?
เป็นใครที่ทำให้เธอยิ้มแบบนี้? นุ่มนวลแบบนี้?
“ซุปไก่ที่ฉันเคี่ยวให้คุณทานคราวก่อนอร่อยไหม?” ตอนที่มู่หรงซือถูกำลังครุ่นคิด ก็ได้ยินเสียงหลิวหยิงดังขึ้นมาอีกครั้ง
มู่หรงซือถูที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินแบบนั้น ตัวก็แข็งค้างไป ดวงตาหรี่ลงอย่างรวดเร็ว
ซุปไก่? ซุปไก่ที่เธอเคี่ยว?
เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเคี่ยวซุปไก่จริงๆ เธออยู่กับเขามาห้าปีไม่เคยเข้าครัวมาก่อน เธอไม่เคยทำอาหารให้เขามาก่อนแม้แต่มื้อเดียว
แต่วันนั้น ตอนเที่ยงเขามีธุระต้องกลับไปเห็นเธอเคี่ยวซุปไก่อยู่ในครัว
แล้วซุปไก่นั่นก็ไม่เลวจริงๆ ช่วงนั้นเขาพึ่งหายจากหวัด ตอนนั้นเขาคิดว่าเธอเคี่ยวให้เขา
ตอนนั้นเขาก็ถามเธอแล้ว ถามเธอว่าเคี่ยวซุปให้เขาใช่ไหม เธอลังเลอยู่สักพักแล้วค่อยพยักหน้าช้าๆ
ตอนนั้นเขายังคิดว่าเธอเขินอาย!
ที่แท้เธอไม่ได้เขินอาย แต่กำลังโกหก หลอกเขา เพราะซุปไก่นั่นไม่ได้เคี่ยวให้เขาอยู่แล้ว แต่เคี่ยวให้กับคนอื่น
มิน่าตอนเขาดื่มซุปไก่เธอถึงได้เอาแต่จ้องเขา แล้วดูเหมือนกังวลเล็กน้อย ตอนนั้นเขายังคิดว่าเธอเป็นห่วงเขา ตอนนี้คิดดูแล้วเธอน่าจะกังวลซุปไก่ของเธอ เกรงว่าเขาจะดื่มซุปไก่ของเธอจนหมด
ได้ ได้เลย
“คุณต้องระวังสุขภาพ พักผ่อนเยอะๆ คุณหมอบอกว่าคุณเจ็บหนักมาก” ด้านนั้น หลิวหยิงกำชับอย่างไม่วางใจ ความเป็นห่วงในน้ำเสียงของเธอแม้ มู่หรงซือถูอยากมองข้ามก็มองข้ามไม่ได้
“ผมไม่เป็นไรแล้ว ฟื้นตัวแล้ว ต้องขอบคุณซุปไก่ของคุณ” เสียงของไป๋ยี่รุ่ยดังมาจากปลายสายอีกครั้ง
“คุณชอบดื่มไหม? หรือพรุ่งนี้ให้ฉันเคี่ยวให้คุณแล้วส่งไปให้อีก” หลิวหยิงได้ยินที่เขาพูด ก็ใจเต้นเล็กน้อย ตอนที่พูด นัยน์ตาเธอเจือด้วยความคาดหวัง
เธอชอบไป๋ยี่รุ่ย ชอบมานานมากแล้ว แต่ต่อมาเธอรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยคบกับฉิงฉิงเธอก็ฝังความคิดทั้งหมดไว้ในใจ
ต่อมาบ้านของเธอเกิดเรื่อง เพื่อที่จะช่วยพ่อแม่ของเธอ เธอจึงขายตัวเองให้กับมู่หรงซือถู และฝังความรู้สึกนั้นไว้ลึกที่สุด
เธอรู้ว่าฉิงฉิงเลิกกับไป๋ยี่รุ่ยนานแล้ว แต่ห้าปีมานี้ เธอไม่เคยติดต่อกับไป๋ยี่รุ่ยเลยเพราะกลัวมู่หรงซือถู และรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับไป๋ยี่รุ่ย
แต่ช่วงก่อนหน้านี้ เธอได้ยินข่าวไป๋ยี่รุ่ยได้รับบาดเจ็บนอนโรงพยาบาล ในที่สุดก็ทนไม่ไหว จึงไปเยี่ยมเขา
เธอรู้ว่าฉิงฉิงแต่งงานกับคุณชายสามเย่แล้ว และห้าปีของเธอกับมู่หรงซือถูใกล้จะจบลงแล้ว ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเพ้อฝันอยู่ในใจ
แม้ว่าสุดท้ายแล้วเธอไม่สามารถคบกับไป๋ยี่รุ่ยได้ แต่เธอก็อยากจะเป็นห่วงเขา ดูแลเขา อยู่กับเขา แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ดีมากแล้ว
มู่หรงซือถูมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลับหรี่ลงเรื่อยๆ เธอพูดว่าพรุ่งนี้จะเคี่ยวซุปไก่ส่งไปให้คนนั้น?
เธออยู่กับเขามาห้าปี กลับไม่เคยเอาใจใส่เขาแบบนี้มาก่อน!!
ไม่ต้องพูดถึงเคี่ยวซุปไก่ให้เขา ปกติแล้วน้ำซักแก้วเธอยังไม่เคยรินมาให้เขา
“ไม่ต้องวุ่นวายหรอก” ไป๋ยี่รุ่ยตาเป็นประกายขึ้นมาบางเบา ก่อนจะปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว
“ไม่วุ่นวาย อย่างไรช่วงนี้ฉันก็ไม่มีธุระอะไร เอาตามนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันเคี่ยวเสร็จแล้วจะส่งไปให้คุณ” หลิวหยิงยิ้มบาง เพื่อเขา จะวุ่นวายได้อย่างไร? นี่เป็นเรื่องที่เธออยากทำมาตลอด เพียงเพราะไม่อาจทำตามใจตัวเองได้จึงไม่สามารถทำให้ได้
“คุณทำงานอยู่บริษัทสายการบินไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าต้องยุ่งมากเหรอ?” ปลายสายเสียงของไป๋ยี่รุ่ยเจือความแปลกใจมากยิ่งขึ้น ครั้งก่อนเธอพูดชัดว่าบังเอิญเจอฉิงฉิงบนเครื่องบิน?
“ช่วงนี้ลาพักร้อนยาวๆ” ตอนหลิวหยิงพูดนัยน์ตาเป็นประกายบางเบา แม้ว่าเธอจะขายตัวเองให้มู่หรงซือถูแล้ว แต่เธอก็ทำงานตลอด เธอไม่เคยขอเงินมู่หรงซือถูเพิ่มเลย
แต่ช่วงก่อนหน้านี้มู่หรงซือถูไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไรไป อยู่ๆ ก็ไม่ให้เธอไปทำงาน
ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถขัดขืนเขาได้ เธอคิดว่าระหว่างเธอกับเขาก็เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ถือเป็นการลาพักร้อน ดังนั้นช่วงนี้เธอจึงว่างมาก
มู่หรงซือถูมุมปากยกยิ้มเย็นชาชัดเจนมากขึ้น เขาให้เธอลาพัก ไม่ให้เธอไปทำงาน เพื่อที่ทุกครั้งที่เขากลับบ้านจะได้เจอเธอ แต่เธอกลับเอาเวลาว่างที่ไม่ได้ทำงานไปเป็นห่วงผู้ชายคนอื่น?
เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าปลายสายคนนั้นต้องเป็นผู้ชายแน่นอน
เห็นท่าทางของเธอ ได้ยินน้ำเสียงเธอ ยังมีความเป็นห่วงที่ปิดไม่มิดของเธอ เขาก็เดาได้ไม่ยาก ว่าเป็นผู้ชายที่เธอชอบคนนั้น
ที่จริงแล้วเขารู้ว่าเธอมีคนที่ชอบ เขารู้ตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว เพราะมีครั้งหนึ่งตอนที่เขาไปที่บ้านของเธอ ในห้องของเธอเขาเห็นไดอารี่ของเธอ เขาไม่ได้แอบอ่าน แต่เพราะตอนนั้นไดอารี่ของเธอได้เปิดทิ้งไว้ ที่หน้าสุดท้าย เธอน่าจะพึ่งเขียนไปไม่นาน
ประโยคนั้น จนถึงตอนนี้เขายังจำได้อย่างชัดเจน ‘ฉันขายตัวเองให้เขา ขายร่างกายตัวเองให้เขา กรุณายอมให้ฉันเหลือใจไว้ เหลือใจไว้ให้คนที่ฉันรักสุดหัวใจ’
ตอนนั้นเขาก็รู้ความลับในก้นบึ้งหัวใจเธอแล้ว
ดังนั้น ตั้งแต่เริ่มต้น เธอขายให้เขาแค่ร่างกาย ไม่รวมถึงหัวใจของเธอ หัวใจของเธอเหลือไว้ให้ผู้ชายอีกคน!