ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 568 หญิงร้ายชายเลวถูกตบหน้าอย่างจัง (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 568 หญิงร้ายชายเลวถูกตบหน้าอย่างจัง (5)
บทที่ 568 หญิงร้ายชายเลวถูกตบหน้าอย่างจัง (5)
“ครับ ผมจะรายงานคำพูดของประธานเวินให้ประธานของผมทราบครับ”เลขาหลิวรับสัญญามาอย่างมีสัมมาคารวะ มุมปากยังอดอมยิ้มไม่ได้
คำพูดเช่นนี้ของคุณนาย ประธานของตนต้องอยากฟังเป็นแน่ ซึ่งหมายความว่าคุณนายเชื่อใจท่านประธานของตนเป็นอย่างสูง
“แล้วคุณ……”เลขาหลิวดีใจเกินเหตุ ทำให้เกือบหลุดคำพูดออกมา แต่เมื่อเขาได้สติก็รีบเปลี่ยนคำพูดมาเป็น“ประธานเวินมีเงื่อนไขอะไรกับพวกเขาไหมครับ?”
ตอนนี้เลขาหลิวกำลังพูดถึงคณะบริหารจัดการบริหารระดับผู้ชำนาญการที่เขาพาเข้ามาก่อนหน้านี้ ซึ่งต่อจากนี้จะเป็นผู้บริหารบริษัทแทนทุกอย่าง
“คุณจัดการทุกอย่างได้เลยค่ะ”เวินลั่วฉิงเชื่อใจเย่ซือเฉิน จึงเชื่อใจเลขาหลิวด้วย
“ครับ”เลขาหลิวได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง เห็นได้ชัดว่าหยุดชะงักไปชั่วครู่ และยังรู้สึกตกตะลึงกับปั่นป่วนอยู่หลายส่วน
หลังจากที่เลขาหลิวออกไป พวกเวินจีหยันมองไปยังเวินลั่วฉิงด้วยสายตาเร่าร้อน แน่นอนภายในสายตาที่เร่าร้อนยังมีความโลภที่ไม่อาจกลบเกลื่อนได้
“ฉิงฉิงตอนนี้หนูเป็นประธานบริษัทเวินซื่อกรุ้ป หุ้นส่วนร้อยละเก้าสิบสามอยู่ในมือของหนู ตอนนี้คำพูดหนูถือเป็นคำขาดในบริษัท หนูว่าให้ลุงของหนูไปทำงานที่บริษัทได้ไหม?”หลี่หยุนนึกถึงคำพูดของเลขาหลิว จึงไม่กล้าแย่งชิงกันซึ่งๆหน้า และได้คิดหาวิธีอื่นขึ้นมา
“ใช่ ใช่ ฉิงฉิงไม่ว่ายังไงลุงก็ทำงานอยู่ในบริษัทหลายปีแล้ว ลุงรู้เรื่องในบริษัทดี ต้องช่วยหนูดูแลได้แน่ๆ หนูต้องรู้ว่าลุงต่างหากที่เป็นคนในบ้านของหนู มีเพียงลุงเท่านั้นที่จะคิดหวังดีกับหนูจริงๆ หนูให้ลุงเข้าไปช่วยที่บริษัทเถอะ”เวินจีหยันได้ยินคำพูดของหลี่หยุน ดวงตาพลันสว่างวาบ ฐานะทางการเงินในตอนนี้ของบริษัทเวินซื่อกรุ้ป เขาเพียงใช้มนุษสัมพันธุ์กับคนในบริษัทก็ไม่ต้องกังวลว่าจะคว้าเงินไม่ได้แล้ว?
เวินจีหยันรู้ดี การเงินในตอนนี้ของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปดีกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นโอกาสในการคว้าเงินที่ดีที่สุด
“ยังมีผมอีก พี่ ตอนนี้ผมก็ว่างงาน พี่ให้ผมเข้าบริษัทไปด้วยคนสิ”เวินจื่อหลงก็รีบก้าวมาด้านหน้าหลายก้าว เพื่อมาอยู่ตรงหน้าเวินลั่วฉิง
“พี่ ฉันก็เหมือนกัน พี่ให้ฉันเป็นผู้จัดการอะไรก็ได้?”เวินหรวนหรวนยิ่งคิดเพ้อเจ้อ เอ่ยปากจะเป็นถึงผู้จัดการกันเลย
หล่อนไม่ได้คำนึกถึงคุณสมบัติของตนเลยแม้แต่น้อย
แต่คนในบ้านนี้ไม่ได้รู้สึกว่าคำพูดของเวินหรวนหรวนเกินเลยแต่อย่างใด กลับรู้สึกสมเหตุสมผลเสียด้วยซ้ำ
“ฉิงฉิง หรวนหรวนไม่ถนัดด้านธุรกิจ หนูก็ผู้จัดการแผนกอะไรก็ได้ให้น้องทำ ส่วนจื่อหลง ถึงแม้จะเรียนอยู่ต่างประเทศ แต่ไปเรียนรู้เรื่องทำธุรกิจมามากแล้ว โดยเฉพาะด้านการเงิน จือหลงจะถนัดเป็นพิเศษ หนูให้เขาไปเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินเลย เรื่องการเงินจะให้คนนอกไปดูแลไม่ได้ ต้องให้คนในบ้านพวกเรไปดูแลถึงจะวางใจได้นะ”หลี่หยุนไร้ยางอายถึงขีดสุด
หลี่หยุนหยุดพูด จากนั้นก็มองเวินจีหยันแวบหนึ่ง กล่าวด้วยรอยยิ้มต่อว่า“ด้วยประสบการณ์ที่ลุงของหนูทำงานในบริษัทมานาน และบวกกับความสามารถของคุณลุงหนู ยังไงเสียหนูก็ควรให้คุณลุงไปทำงานตำแหน่งรองประธานนะ”
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของหลี่หยุนก็ขี้เกียจไปตอบโต้อะไรทั้งนั้น คนนี้โลภมากตัณหาจัดจริงแท้
ใครก็รู้ว่าตอนนี้บริษัทเวินซื่อกรุ้ปเป็นก้อนเนื้อชิ้นดี ซึ่งเนื้อแน่นใหญ่เป็นพิเศษ และมันจนมีน้ำมันหยดออกมา
ดังนั้น คนบ้านนี้จึงคิดหาวิธีไปคว้าเงินในบริษัท
“ฉิงฉิง ป้าหนูพูดถูกมากๆ หนูให้ลุงกับจื่อหลงเข้าไปช่วยในบริษัทเถอะ มีเพียงลุงเข้าไปช่วยหนูที่บริษัท หนูถึงจะไม่โดนคนอื่นโกงได้”ตอนนี้เวินจีหยันหน้าหนาขึ้นมาทุกที
“โธ่ ฉิงฉิงเป็นคนจิตใจดี น่ารักขนาดนี้ สวยขนาดนี้……”หลี่หยุนเริ่มประจบสอพลอขึ้นมา เพียงแต่ตอนที่เธอพูดคำว่าสวยออกก็รีบกะพริบตาอย่างรวดเร็ว มองหน้าเวินลั่วฉิงแล้วพูดต่อไปไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด
“ฉิงฉิงดีอย่างนี้ ต้องตกลงแน่ๆ สามีค่ะ และยังมีจื่อหลงอีก ยังไม่รีบเตรียมตัวไปที่บริษัทอีก?”หลี่หยุนตัดสินใจแทนเวินลั่วฉิงเอง
เวินลั่วฉิงยิ้มเย็น เธอเคยเห็นคนไร้ยางอายมาก่อน แต่กลับไม่เคยเห็นไร้ยางอายถึงขนาดนี้
เวินลั่วฉิงมองหน้าทุกอย่าง พลางยกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย“เรื่องที่พวกป้าพูดมา หนูไม่มีข้อขัดแย้งอะไร”
“จริงเหรอ?หนูหมายความว่ารับปากแล้ว ดีจังเลย ดีจังเลย ป้ารู้อยู่แล้วว่าหนูต้องตอบตกลงแน่ๆ ฉิงฉิง นี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดเลย”หลี่หยุนได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง รู้สึกดีอกดีใจกันยกใหญ่ หล่อนรู้ว่ายัยโง่คนนี้หลอกง่ายมาก เพิ่งพูดได้ไม่กี่คำก็หลอกได้เสียสนิทใจเลย
ขอเพียงเข้าไปทำงานที่บริษัทได้ ยังต้องกังวลว่าจะยัดเงินไม่ได้เลยเหรอ?
เวินลั่วฉิงมองใบหน้าของหลี่หยุนที่ไม่อาจระงับความดีใจไว้ได้ มุมปากกระตุก จากนั้นก็เสริมขึ้นมาหนึ่งประโยคว่า “แต่ เมื่อกี้พวกป้าก็ได้ยินแล้ว หนูมอบอำนาจในการจัดการทั้งหมดให้เลขาหลิวแล้ว พวกป้าจึงไปบอกเจตนาพวกนี้กับเลขาหลิวได้เลย ขอเพียงเลขาหลิวไม่เห็นต่าง หนูก็ไม่ขัดแย้งอะไรทั้งนั้น แน่นอน พวกป้ายังไปคุยกับประธานเย่ได้อีกด้วย”
เวินลั่วฉิงพูดจบก็ไม่ได้ใส่ใจพวกเขา เดินขึ้นไปชั้นบนโดยตรง
ตรงมุมเลี้ยวของชั้นบน คุณปู่เวินยืนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับยกหัวแม่มือให้เธอ
อยากหลอกฉิงฉิง คนพวกนี้ฝันหวานอยู่หรือไง?ฉิงฉิงของท่านเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาด้านอาชาญากรรม คนพวกนี้เป็นแค่ตัวตลกในสายตาฉิงฉิงเท่านั้นเอง
“คุณปู่ไม่ใช่บอกว่าจะพักผ่อนเหรอคะ?”เวินลั่วฉิงมองคุณปู่ พลางส่ายหัวเล็กน้อย ท่านบอกว่าจะพักผ่อนอยู่แท้ๆ ทำไมถึงมาแอบฟังตรงนี้ อีกทั้งยังฟังได้อย่างสะใจ ถึงรสถึงขิงอีกต่างหาก
เวินลั่วฉิงเดินเข้าไปประคองท่านเดินขึ้นมา
“ฉิงฉิง ปู่ถามหนูหน่อย?”ตอนนี้คุณปู่เวินรู้สึกสงสัย หากไม่ถามให้กระจ่าง ท่านคงต้องอกแตกตายเป็นแน่
“เรื่องอะไรคะ?”เวินลั่วฉิงไม่ได้หยุดเดิน แต่เดินต่อไปยังด้านหน้า คนฉลาดหลักแหลมอย่างเธอ พอจะเดาได้ว่าคุณปู่จะถามอะไรในตอนนี้
“หนูกับเย่ซือเฉินเป็นอะไรกันแน่?เกี่ยวข้องกันมากขนาดไหนถึงทำให้เย่ซือเฉินทุ่มเทมากมายเพียงนี้?”คุณปู่เวินมองหน้าเวินลั่วฉิง แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความสงสัยที่ส่องประกายออกมาจากกลุ่มดวงดาว
“เขาเป็นสามีเก่าของหนู”เวินลั่วฉิงครุ่นคิดดูแล้ว จึงเลือกพูดในสิ่งที่เหมาะสม
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่อาจปิดบังคุณปู่ได้อีกต่อไป
คุณปู่เวินหยุดเดิน พร้อมกับมองหน้าเวินลั่วฉิงด้วยดวงตากลมโต“หมายความว่าอะไร?สามีเก่าคืออะไร?”
“ก็คือพวกเราแต่งงานกันแล้วหย่าทีหลัง?อันนี้คุณปู่ไม่เข้าใจเหรอคะ?”เวินลั่วฉิงเบ้ปาก เวลาที่พูดประโยคนี้ออกมาสีหน้าเธอเรียบเฉยมาก
แต่คุณปู่เวินยิ่งตกใจเข้าไปอีก“หนูแต่งงานกับเย่ซือเฉิน?”
บัดนี้ไม่รู้ว่าคุณปู่เวินฟังยังไง?คิดยังไง?ถึงได้สรุปออกมาเป็นเช่นนี้