ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 569 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 569 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (1)
บทที่ 569 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (1)
บัดนี้ไม่รู้ว่าคุณปู่เวินฟังยังไง?คิดยังไง?ถึงได้สรุปออกมาเป็นเช่นนี้
“หย่ากันแล้วค่ะ”เวินลั่วฉิงเล่าความเป็นจริงของสถานะปัจจุบัน
“หย่าทำไม?ไม่ใช่ พวกหนูหย่าทำไมเหรอ ทำไมเขาต้องทำอย่างนี้ด้วย?เพื่อชดเชยให้หนูเหรอ?หรือยังมีใจกับหนูอยู่?”เวลานี้คุณปู่เวินถึงจะเผชิญหน้ากับเรื่องเวินลั่วฉิงหย่ากันแล้ว
“เย่ซือเฉินหมายความว่ายังไง?แต่งงานแล้วทำไมถึงหย่ากันอีก?เขาคิดว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องขายของหรือยังไง?”คุณปู่เวินไม่ให้เวินลั่วฉิงมีโอกาสเปิดปากพูด ครั้งนี้น้ำเสียงของเขามีความขุ่นเคืองใจหลายส่วน
“แต่หย่ากันแล้ว ทำไมเขาต้องทำอะไรมากมายขนาดนี้อีกด้วย?หากเป็นการชดเชย ก็คงไม่ทำยุ่งยากขนาดนี้หรอก ดังนั้น เขายังมีใจกับหนูอยู่!”
คุณปู่เวินเป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง สามารถสรุปได้อย่างแม่นยำในเวลาอันสั้น
เวินลั่วฉิงเม้มปากไม่ได้พูดอะไร
“ฉิงฉิง หากเป็นเช่นนี้ หนูต้องพินิจพิจารณาให้ดีๆนะ ม้าดีไม่ย้อนกลับไปกินหญ้าด้านหลัง พวกเราไม่จำเป็นต้องแขวนคอตายอยู่กับต้นไม้เพียงต้นเดียว”คุณปู่เวินหยุดชะงัก มองเวินลั่วฉิงด้วยแววตาลุ่มลึกยากจะหลั่งถึงอยู่หลายส่วน
เรื่องแต่งงานไม่ใช่เล่นขายของ ฉิงฉิงของท่านไม่ใช่สิ่งของ เย่ซือเฉินอยากได้ก็จะเอา ไม่อยากได้ก็ไม่เอาอย่างนั้นเหรอ!
“……”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของคุณปู่ก็ชะงักค้าง เธอรีบเงยหน้ามองคุณปู่ มุมปากกระตุกอย่างแรง คำพูดเช่นนี้ของคุณปู่ทำให้เธอไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
ตอนแรกเธอคิดว่าคุณปู่รู้เรื่องเธอกับเย่ซือเฉิน ต้องคิดหาหนทางให้เธออยู่กับเย่ซือเฉินเป็นแน่
แต่ทำไมจุดจบถึงไม่เหมือนดั่งที่เธอคาดเดาเอาไว้เลย?
“ฉิงฉิง บริษัทเวินซื่อกรุ้ปคือบริษัทเวินซื่อกรุ้ป เรื่องความรู้สึกก็เป็นส่วนของความรู้สึก ดังนั้นหนูไม่ต้องทำเพื่อบริษัทเวินซื่อกรุ้ปเพื่อส่งผลกระทบต่อจิตใจหนูหรอก”คุณปู่เวินเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค“ฉิงฉิง ปู่รู้ว่าหนูเป็นคนฉลาด เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล่นสนุกตามประสาเด็กๆ ดังนั้นก่อนที่หนูจะตัดสินใจอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบด้วย”
คุณปู่เวินไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องความรักของเวินลั่วฉิงมากนัก เขาแค่ให้คำแนะนำพอสมควรก็พอแล้ว
“หนูรู้ค่ะคุณปู่”เวินลั่วฉิงรู้สึกอบอุ่น รู้สึกซาบซึ้งใจ เธอรู้ว่าคุณปู่เคารพในการตัดสินใจของเธออยู่แล้ว
ชั้นล่าง
“นังสารเลวนี้ พูดดีๆไม่ชอบ ถ้างั้นก็อย่าโทษฉันก็แล้วกัน”หลี่หยุนกัดฟันกรอด โกรธจนหูตาจมูกเบี้ยวแล้ว “ให้พวกเราไปหาเลขาหลิว?หากเลขาหลิวตอบตกลงได้ พวกเรายังต้องเสียเวลาพูดกับหล่อนอยู่ไหม?”
เห็นเวินลั่วฉิงขึ้นไปชั้นบน ดวงตาของหล่อนก็หรี่ขึ้นอย่างโหดร้าย จนชวนให้ขนหัวลุก
“คุณคิดจะทำอะไร?”เวินจีหยันเห็นท่าทางของหล่อนในตอนนี้ ยังรู้สึกตกใจกลัวเลย
“ตอนนี้หุ้นร้อยละเก้าสิบสามอยู่ในนามของหล่อน คุณว่า หากหล่อนตาย บริษัทเวินซื่อกรุ้ปจะตกเป็นของใครกัน?”หลี่หยุนมองหน้าเวินจีหยัน มุมปากเผยรอยยิ้มอำมหิตขึ้นมาหลายส่วน“หล่อนตาย คุณปู่ก็ตายแล้ว พวกเราเป็นเพียงญาติที่เหลืออยู่ของหล่อน พอถึงเวลานั้น บริษัทเวินซื่อกรุ้ปก็ต้องเป็นของพวกเราอยู่แล้ว?”
“ใช่ คุณแม่พูดถูก หากเวินลั่วฉิงตาย ทุกอย่างในบริษัทจะเป็นของพวกเราแล้ว พวกเราไม่ต้องไม่อ้อนขอนังสารเลวนั่นอีก”สีหน้าเวินหรวนหรวนมีความตื่นเต้นดีใจหลายส่วน
“คุณหมายความว่าหาคนฆ่าหล่อนทิ้ง?แต่หากถูกจับได้ล่ะ……:”เวินจีหยันลังเลเล็กน้อย สาเหตุที่ลังเลไม่ใช่เป็นเพราะไม่อาจลงมือฆ่าได้ แต่เป็นเพราะกลัวถูกจับได้
“ขอเพียงระวังหน่อย จัดการให้รัดกุมก็ไม่ถูกจับได้ง่ายๆหรอก การตายของเวินจือฝางเมื่อหลายปีก่อน ตำรวจไม่ใช่สรุปคดีว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรอกเหรอ……”หลี่หยุนพูดมาถึงตรงนี้ ใบหน้ายิ่งเพิ่มความโหดร้ายอีกหลายส่วน“เสียดายตอนนั้นไม่ได้ชนผู้หญิงคนนั้นให้ตายไปพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีนังสารเลวคนนี้”
“คุณเสียงเบาหน่อย”เวินจีหยันได้ยินหล่อนพูด สีหน้าพลันเปลี่ยนไป ดวงตารีบกวาดไปมองด้านข้าง เห็นว่าไม่มีใคร จึงรู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
“กลัวอะไร?ตาเฒ่าอยู่ต่อได้ไม่นาน ส่วนนังสารเลวก็ให้มีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ รอให้ขั้นตอนดำเนินการโอนย้ายหุ้นส่วนอยู่ในมือของหล่อนเมื่อไหร่ พวกเราก็ลงมือได้ คุณวางใจเถอะ รับรองว่าครั้งนี้จะแยบยลกว่ายี่สิบกว่าปีก่อน ไม่ทิ้งเบาะแสอะไรค้างไว้แน่นอน”หลี่หยุนยิ่งพูดก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งพูดก็ยิ่งโหดร้าย
“แต่ไม่รู้ว่าหล่อนกับคุณชายสามเย่เป็นอะไรกันแน่?หากคุณชายสามเย่ยื่นมือมาแทรกล่ะ?”เวินจีหยันนึกถึงเรื่องที่เย่ซือเฉินทำ ในใจก็รู้สึกวิตกกังวลไม่ได้
เย่ซือเฉินไม่ได้คนที่จะไปบาดหมางอะไรได้!!
ดวงตาหลี่หยุนกะพริบ จากนั้นมุมปากก็ยิ้มเย็นเหยียบ“คุณยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเย่ในอดีตได้ไหม?เรื่องแม่แท้ๆของเย่ซือเฉิน?”
“จำได้ จำได้อยู่แล้ว เรื่องพวกนั้นตระกูลเย่ปกปิดได้อย่างแนบเนียบมากๆ จึงมีคนรู้ไม่มากนัก หากวันนั้นผมไม่ไปเห็นพอดี ผมก็คงไม่รู้ด้วยเช่นกัน”สีหน้าเวินจีหยันมีความซับซ้อนหลายส่วน มีทั้งตกตะลึง หวาดกลัว ปะปนกันอยู่ เรื่องผ่านไปตั้งหลายปี แต่พอย้อนนึกถึงภาพนั้นทีไร ก็ยังคงหวาดผวาเช่นเดิม
“พวกเราใช้วิธีเก่า ถึงแม้ก่อนหน้านี้คุณชายสามเย่จะรักนังสารเลวนั้นจริงๆ แต่พอถึงเวลานั้นก็จะไม่มีแล้ว”บัดนี้ใบหน้าของหลี่หยุนเต็มไปด้วยกลอุบายอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต
“วิธีนี้ดี คุณคิดได้รอบคอบมาก”ดวงตาเวินจีหยันสว่างไสว รีบพยักหน้าหงึกๆ
“คุณแม่ค่ะ วิธีอะไรเหรอคะ?”เวินจีหรวนหรวนได้ยินทั้งสองคุยกัน จึงอดสงสัยไม่ได้
“พอถึงเวลาก็จะรู้เอง วางใจเถอะ ครั้งนี้แม่จะช่วยหนูแก้แค้นในสิ่งที่อัดอั้นตันใจหนูมานาน รอดูงิ้วเด็ดงิ้วดีกันได้เลย”เห็นได้ชัดว่าหลี่หยุนไม่คิดจะปิดบังเวินหรวนหรวนอีกต่อไป ยังให้เวินหรวนหรวนรอดูงิ้วเด็ดอีกด้วย ความเลวทรามของหล่อนไปถึงขั้นโรคจิตกันแล้ว
“จริงเหรอ?ถ้างั้นก็ดีมากเลยค่ะ ช่วงนี้เป็นเพราะเวินลั่วฉิง ทุกอย่างของหนูก็พังทลายหมดสิ้น หนูอยากสั่งสอนหล่อนนานแล้ว”ใบหน้าเวินหรวนหรวนมีความเบิกบานใจและตื่นเต้นอยู่หลายส่วน
“สั่งสอน?คิกคิก ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สั่งสอนธรรมดา แม่จะเอาชีวิตหล่อน และที่สำคัญจะให้หล่อนตายอย่างน่าอนาถด้วย”หลี่หยุนหัวเราะเสียงเย็นเหยียบ ซึ่งน้ำเสียงสร้างความสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
เวลานี้ เซี่ยเถียนเถียนได้แพร่คลิปที่อัดไว้ก่อนหน้านี้ออกไปแล้ว เพื่อจะเผยแพร่คลิปสู่สายตาผู้คน เซี่ยเถียนเถียนลงทุนไปซื้อมือถือใหม่มาหนึ่งเครื่อง จากนั้นก็ลงทะเบียนใช้ซิมเบอร์ใหม่ หลังจากแพร่คลิปเสร็จสรรพ หล่อนก็ได้นำมือถือกับซิมการ์ดแยกไปทิ้งในถังขยะคนละที่
โจ๋วอันหนานเห็นคลิปทันทีเมื่อถูกเผยแพร่ออกมา เพราะหล่อนตั้งหน้าตั้งตารอคอยเรื่องนี้อยู่แล้ว หล่อนรู้จักนิสัยของเซี่ยเถียนเถียนอยู่บ้าง หล่อนรู้ดีว่าเซี่ยเถียนเถียนจะใช้วิธีอะไรเผยแพร่คลิปนั้นออกสู่สายตาประชาชน
คลิปวิดีโอได้ทำการตัดต่อเสร็จก่อนจะเผยแพร่ ช่วงที่เวินลั่วฉิงรับปากคุณปู่เวินถูกตัดทิ้งออกไป……