ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 572 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 572 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (4)
บทที่ 572 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (4)
“ท่านประธานลองดูแสดงความคิดเห็นด้านล่างสิครับ”เลขาหลิวเห็นประธานของตนมีสีหน้าตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย จึงอดเตือนขึ้นมาหนึ่งประโยคไม่ได้
เขารู้ว่าเมื่อท่านประธานของตนเห็นท่าทีของคุณนายแล้ว ต้องรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นแน่ เพราะประธานรู้จักคุณปู่เย่ดี ดังนั้นท่านประธานจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่คนอื่นไม่รู้ ไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่แท้จริง ดังนั้นด้านล่างวิดีโอจึงเต็มไปด้วยข้อต่อว่าคุณนายนับหมื่นข้อความ อีกทั้งยังด่าได้เจ็บแสบมากๆ
สายตาเย่ซือเฉินจึงได้เคลื่อนลงมามองด้านล่าง หลังจากที่เห็นข้อความแสดงความคิดเห็นแล้ว ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้ม ดวงตาพลันหรี่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
เวลาสั้นๆ ข้อความด้านล่างวิดีโอยิ่งด่าทบทวีคูณเพิ่มขึ้น และที่สำคัญประวัติเสียของเวินลั่วฉิงก็ถูกขุดคุ้ยสู่โลกโซเชียลอย่างมากมาย
ซึ่งรวมไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในงานหมั้นระหว่างเวินลั่วฉิงกับเย่หยู่นานด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องที่เวินลั่วฉิงไปยั่วยวน หว่านเสน่ห์ใส่ครูสมัยเรียนมัธยมปลายอีกด้วย คนเปิดโปงผู้นั้นยังบอกว่าเวินลั่วฉิงไม่เพียงแต่เคยทำแท้งมาหนึ่งครั้งเท่านั้น ตอนนี้ยังส่งผลให้หล่อนไม่อาจตั้งท้องได้อีกต่อไป
“ท่านประธานครับ ตอนนี้ควรทำยังไงดีครับ?”เรื่องนี้รุนแรงยิ่งนัก เลขาหลิวไม่กล้าคิดเองทำเอง“เมื่อกี้ผมไปสืบมาแล้วครับวิดีโอคลิปนี้ถูกเผยแพร่โดยส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเบอร์ที่เพิ่งลงทะเบียนใช้ใหม่ หากพวกเราลบทิ้ง เกรงว่ายังมีคนแพร่ออกมาอีกครั้ง
พอถึงเวลานั้น กังวลว่าจะยิ่งแชร์ไปในทางเสียหายหนักกว่าเดิมครับ”
เลขาหลิวหยุดพูด สีหน้ามีความสลับซับซ้อนอยู่หลายส่วน“เกรงว่าคุณปู่ใช้ให้คนไปอัดคลิปวิดีโอ แล้วส่งออกไปครับ”
เลขาหลิวพอจะรู้กลอุบายของคุณปู่เย่อยู่บ้าง คุณปู่เย่ทำทุกอย่างได้จริงๆ
สีหน้าเย่ซือเฉินยิ่งลุ่มลึก แววตาก็ยิ่งเย็นเหยียบ
“สืบเบอร์ใหม่อันนั้นดู”เวลานี้น้ำเสียงของเย่ซือเฉินเย็นแข็งราวกับสามารถทำให้คนกลายเป็นน้ำแข็งได้เลยทีเดียว
เห็นได้ชัดว่าคุณปู่เป็นคนไปหาเวินลั่วฉิง ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะใช้คนอัดวิดีโอคลิปนี้ไว้
แต่ปกติเวินลั่วฉิงเป็นคนช่างสังเกต หากคุณปู่เตรียมให้คนไปบันทึกวิดีโอจริงๆ คงต้องมีเรื่องผิดสังเกตเป็นแน่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เวินลั่วฉิงจะไม่รู้ตัว
ดังนั้น เย่ซือเฉินรู้สึกว่ามีเงื่อนงำแฝงอยู่ สิ่งสำคัญในตอนนี้คือหาคนแพร่วิดีโอนี้ออกมาให้ได้เสียก่อน
เย่ซือเฉินรู้ดีว่า ลบวิดีโอนั้นง่าย แต่สิ่งที่ยากก็คือ ไม่อาจลบล้างความเข้าใจผิดที่ประชาชนมีต่อเวินลั่วฉิงได้
ดังนั้น เรื่องนี้ต้องสืบให้กระจ่าง ต้องให้ทุกคนรู้ความเป็นจริงให้ได้
“ท่านประธานครับ ท่านประธาน มีคนแสดงความคิดเห็นว่า คุณท่านนอนอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”เลขาหลิวรับมือถือของตนกลับคืนมา ตอนแรกคิดจะออกไป แต่เมื่อเห็นข้อความที่เพิ่มขึ้นมาทีหลัง ก็รู้สึกตกใจ รีบย้อนกลับเข้ามาโดยพลัน
“ตอนนี้ แสดงความคิดเห็นอย่างบ้าคลั่งกว่าเดิม มีคนเขียนว่าคุณนายบีบให้คุณปู่เย่กระโดดตึก บอกว่าคุณนายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนครับ……”เลขาหลิวเห็นความคิดเห็นพวกนี้ก็ยิ่งรู้สึกตกใจ“คนพวกนั้นต่างบอกว่าจับคุณนายไปเข้าคุก ยังบอกว่าคุณนายต้องชดใช้ชีวิต คนพวกนั้นจะบ้ากันไปหมดแล้ว……”
“ท่านประธาน?ทำไมคุณท่านถึงเข้าโรงพยาบาลได้ครับ?หากได้รับบาดเจ็บเพราะสาเหตุนี้จริงๆ เรื่องนี้ก็จะยิ่งแย่ ยิ่งซับซ้อนเพิ่มขึ้นนะครับ”เวลานี้เลขาหลิวพูดด้วยเสียงสั่นระริก
เย่ซือเฉินก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นพวกนั้น เลขาหลิวพูดถูก หากคุณปู่เข้าโรงพยาบาลเพราะเหตุนี้ เรื่องก็จะยิ่งยุ่งยาก
ความรุนแรงของเรื่องก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เขารู้จักคุณปู่เย่ดี รู้ว่าตอนนั้นคุณปู่เย่ไม่กระโดดจริงๆหรอก แต่หากท่านทำให้ตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หรือแกล้งบาดเจ็บนอนโรงพยาบาลล่ะ?!
ด้วยความเข้าใจที่เย่ซือเฉินมีต่อคุณปู่เย่ เขารู้ว่าคุณปู่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้
สรุปก็คือ คุณปู่เย่แอดมิทโรงพยาบาลในเวลานี้ ต้องทำให้เรื่องบานปลายใหญ่โต ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
เย่ซือเฉินเปิดมือถือไปในส่วนของการโทรออก ค้นหาเบอร์โทรศัพท์คฤหาสน์ตระกูลเย่ เขาอยากถามให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ในเวลาเดียวกัน บังเอิญมีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น เห็นเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ เย่ซือเฉินก็หยุดชะงัก จากนั้นก็รีบรับสายโดยพลัน
“เฉินเฉิน ฉันต้องขอโทษคุณด้วย หลายวันก่อนคุณปู่เย่มาตรวจสุขภาพร่างกาย และบังเอิญฉันต้องออกไปทำธุระด้านนอก ตอนที่ฉันกลับเข้าโรงพยาบาลพวกท่านก็ออกไปแล้ว วันนี้คุณปู่กับคุณย่าจึงมาตรวจใหม่อีกครั้ง”โจ๋วอันหนานพูดถึงตรงนี้พลันถอนหายใจหนึ่งเฮือก และหยุดพูด
เย่ซือเฉินกำมือถือไว้ ดวงตาหรี่ขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร
เย่ซือเฉินไม่ออกเสียงใดๆ โจ๋วอันหนานจึงกล่าวต่อไปว่า“ผลตรวจวันนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ พอถึงอายุเท่าคุณปู่
อาการเช่นนี้ก็ถือว่ายังดีใช้ได้ แต่คุณปู่ยืนกรานจะนอนที่โรงพยาบาล ฉันห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ฉันอับจนหนทางจริงๆ ได้แต่จัดห้องให้คุณปู่พักฟื้น อันที่จริงอาการของคุณปู่มาพักบำรุงที่โรงพยาบาลไม่กี่วันก็ถือเป็นเรื่องดี”
เย่ซือเฉินไม่ได้พูดมาตลอด เพียงแต่ดวงตาที่หรี่ขึ้นแอบแฝงความเย็นเหยียบไว้หลายส่วน
“แต่เมื่อกี้ผู้ช่วยของฉันให้ฉันดูวิดีโอและคอมเมนต์แล้วค่ะ เฉินเฉิน ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะส่งผลกระทบอย่างนี้”น้ำเสียงของโจ๋วอันหนานเอ่อล้นไปด้วยการขอโทษ
“เฉินเฉิน อันที่จริงร่างกายคุณปู่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย คุณมารับคุณปู่กลับไปเถอะ ฉันกับผู้ช่วยลองพูดดูแล้ว แต่คุณปู่ไม่ฟัง”ขณะที่โจ๋วอันหนานพูด ยังมองผู้ช่วยที่ยืนอยู่ด้านข้างหล่อนแวบหนึ่ง
ผู้ช่วยพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว
“คุณปู่อยู่ที่โรงพยาบาลของคุณเหรอ?”ในที่สุดเย่ซือเฉินก็เอ่ยปากพูดเสียที ซึ่งน้ำเสียงมีความเคร่งขรึมเบาๆ ฟังความรู้สึกไม่ได้มากนัก แต่กลับชวนให้รู้สึกขนหัวลุกที่อันตราย
“ใช่”โจ๋วอันหนานได้ยินคำพูดของเขา รู้สึกใจสั่นระริก แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย น้ำเสียงก็ยังคงความธรรมชาติเอาไว้ ซึ่งธรรมชาติจนไม่อาจทำให้คนฟังสิ่งผิดปกติได้เลยแม้แต่น้อย
“ทำไมวันนี้จู่ๆท่านถึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลของคุณ?”เย่ซือเฉินไม่อยากสงสัยโจ๋วอันหนาน เพราะในอดีตหากไม่ใช่โจ๋วอันหนานคอยให้การช่วยเหลือ แม่ของเขากับเมิ่งโร่ถิงก็คงเกิดภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตไปแล้ว
แต่เรื่องมันบังเอิญจนเขาไม่ถามไม่ได้
ครั้งก่อน คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไปที่โรงพยาบาลของโจ๋วอันหนานก็รู้เรื่องเวินลั่วฉิงไม่อาจตั้งครรภ์ได้ ครั้งนี้ก็เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีก บังเอิญคุณปู่ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลของโจ๋วอันหนาน เรื่องนี้บังเอิญจริงๆหรือ?
“ตอนแรกฉันเป็นคนโทรให้พวกท่านมาเอง”โจ๋วอันหนานจับมือถือไว้แน่น หล่อนคาดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะถามหล่อนเช่นนี้ เขากำลังสงสัยในตัวหล่อนอยู่ใช่ไหม?
หลังจากที่โจ๋วอันหนานพูดจบก็ไม่ได้อธิบายอย่างอื่นเพิ่มเติมอีก หยุดไปสักพัก หล่อนก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า “ขอโทษด้วย เพราะการตัดสินใจของฉันทำให้พวกคุณต้องปวดหัวอย่างนี้”
เย่ซือเฉินได้ยินน้ำเสียงของโทษจากหล่อน และฟังออกว่าตอนนี้น้ำเสียงมีความเย็นชาและห่างเหิน ส่วนเย่ซือเฉินยังคงหรี่ตาไม่ได้พูดอะไร