ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 576 คุณชายสามเย่ริอาจไม่ชอบลูกรักทั้งสองคนของเธอ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 576 คุณชายสามเย่ริอาจไม่ชอบลูกรักทั้งสองคนของเธอ (2)
บทที่ 576 คุณชายสามเย่ริอาจไม่ชอบลูกรักทั้งสองคนของเธอ (2)
สถานการณ์เช่นนั้น หากเธอไม่ตอบตกลง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะทำอย่างไรดี?
“……”เย่ซือเฉินถูกคำพูดของเธอต้านทานจนเกือบหายใจไม่ออก เธอช่างแน่มาก เธอตอบอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
ใช่ ในเมื่อเธอรับปากไว้แล้ว จะกลับคำได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอสามารถรับปากได้ก็แสดงว่าเธอสามารถสละความรักที่เขามีต่อเธอได้ แล้วทำไมเธอต้องกลับคำด้วย?
เธอปฏิบัติต่อเขาแบบไร้เยื่อใยเสมอมา ไม่ใช่เหรอ?
“เวินลั่วฉิง คุณมันไร้หัวใจ หัวใจคุณถูกหมาคาบไปกินแล้ว หากคุณมีหัวใจสักนิด คงไม่รับปากพวกท่านอย่างนั้นหรอก”เวลานี้เย่ซือเฉินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ดังนั้นจึงพูดจาไม่ยั้งคิด
เขามองหน้าเธอพร้อมกับกรอดฟัน เวลานี้เขาอยากจะกัดเธอให้ตายๆไปซะ แต่หากกัดเธอตายแล้ว ในใจของเธอก็ยังคงไม่มีเขาอยู่ดี
ซึ่งเธอก็ยังคงจะเลิกกับเขาอยู่ดี
เย่ซือเฉินยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ ทำไมเขาถึงไปรักผู้หญิงที่ไร้หัวใจได้นะ?
“ใช่ ฉันมันไร้หัวใจ ฉันรับปากพวกท่านว่าจะไม่แต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ ฉันยังสาบานว่าจะไม่ย่างเท้าเข้าไปในบ้านตระกูลเย่ของพวกคุณเด็ดขาด ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”บัดนี้เวินลั่วฉิงก็รู้สึกโกรธที่เขาว่าเธอไร้หัวใจเช่นนี้?
เธอไม่มีหัวใจเหรอ?
เขาว่าไม่มีก็ไม่มี?ใครอยากจะสนใจกัน!
“เวินลั่วฉิง คุณไม่จำเป็นต้องเน้นย้ำเจตนาของคุณก็ได้ ใครอยากให้คุณเข้าไปที่บ้านตระกูลเย่กัน แม้แต่ผมยังไม่อยากกลับไปเลย……”ขณะที่เย่ซือเฉินได้ยินเธอเน้นย้ำอีกครั้ง ดวงตาทั้งคู่ก็ลุ่มลึกขึ้นหลายส่วน ความโกรธในใจยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้น
แต่เมื่อเขาพูดได้ถึงครึ่งทาง จู่ๆก็หยุดลง เขากะพริบตาเร็วๆ จากนั้นก็จ้องมองเธอตรงๆ
ทันใดนั้นเขารับรู้ว่ามีอะไรผิดปรกติ เขารับรู้ว่าได้คำพูดของเธอมีเลศนัย
“คุณบอกว่า คุณไม่แต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ แต่คุณไม่ได้บอกว่าไม่แต่งงานกับผม ใช่ไหม?”เย่ซือเฉินไม่ได้โง่งม เพียงแต่เมื่อกี้ถูกความโกรธครอบงำ ตอนนี้ได้สติกลับคืนมา เขาจึงคิดออกได้ทันที
แต่ว่าตอนนี้ยังเป็นการคาดเดาของเขาเท่านั้น เขาไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่มั่นใจว่าเธอจะหมายถึงเช่นนี้หรือเปล่า?
“ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนี้”เวินลั่วฉิงมองเขาแวบหนึ่ง ยอมรับตรงไปตรงมา และเธอก็คิดอย่างนี้มาโดยตลอด ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร
“ฉิงฉิง คุณ……”เย่ซือเฉินหยุดชะงัก ได้สติขึ้นมาก็เผยความสุขบนใบหน้าขึ้นมาหลายส่วน
“แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว คุณไปได้ วันหลังก็ไม่ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก”เวินลั่วฉิงไม่รอให้เขาพูดจบก็ตัดบทเขาทิ้ง
เวลานี้เวินลั่วฉิงกำลังโต้กลับคำพูดของเขาก่อนหน้านี้
ตอนนี้ไม่ว่าจะยังไงคุณชายสามเย่ก็ไม่ออกไปเด็ดขาด เขารีบเดินกลับมานั่งที่เตียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นยื่นมือจะไปกอดเธอ
เวินลั่วฉิงรีบหลบหลีก แววตาที่มองเขายังคงมีโทสะแฝงอยู่เช่นเดิม“ฉันมันคนไร้หัวใจ หัวใจของฉันถูกหมากินหมดแล้ว ฉะนั้นคุณไปได้เลย”
เย่ซือเฉินหยุดชะงัก เขาพูดจารุนแรงเกินไปจริงๆ ซึ่งเป็นเพราะเขากำลังโกรธที่เธอรับปากจะเลิกกับเขา โกรธที่เธอบอกว่ารับปากแล้วไม่คืนคำ นาทีนั้นเขาจึงไม่อาจระงับโทสะของตัวเองได้
แต่ตอนนี้เย่ซือเฉินอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ
เมื่อสักครู่เขาเจ็บปวดรวดร้าว แต่ตอนนี้หัวใจกลับชุ่มฉ่ำขึ้นมา
ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวงมาก เขาได้หลุดพ้นจากนรกขึ้นสู่สวรรค์ชัดๆ ดังนั้นความรู้สึกเช่นนั้นดีงามเหลือเกิน
“ไม่เป็นไร ผมมีหัวใจ ผมมอบหัวใจของผมให้คุณ”แน่นอน เขารู้ว่าเธอโกรธ ดังนั้นเขาต้องอ้อนเธอเยอะๆ
แต่คุณชายสามเย่ไม่ถนัดด้านการอ้อนผู้หญิง
“คุณหมายถึงหัวใจของฉันไม่มีความรู้สึกอีกแล้วงั้นเหรอ?”เวินลั่วฉิงจ้องเขาถลึง คนนี้ปลอบใจคนเป็นไหม?
ใครเขาจะปลอบใจกันอย่างนี้?
“ให้ผมกินแล้ว”เย่ซือเฉินรีบโอบกอดเธอไว้ ก่อนจะก้มหน้าจูบเธอแรงๆ เขาก็อยากจะกินหัวใจของเธอ แต่หัวใจของเธอไม่ได้อยู่ที่เขาเลย
แต่อย่างน้อย ตอนนี้เธอก็ไม่ได้ขับไล่เขาเหมือนแต่ก่อน
เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปาก คำพูดเมื่อถึงปลายลิ้นก็กล้ำกลืนกลับเข้าไป
“ฉิงฉิง คุณหมายความว่ารับปากแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหม?”หลังจากจูบเสร็จ เย่ซือเฉินก็ปล่อยเธอ ดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องใจจดใจจ่ออยู่ที่เธอด้วยแววตาสว่างไสวเป็นพิเศษ
เมื่อกี้เธอน่าจะหมายถึงอย่างนี้ใช่ไหม?
“ไม่ใช่นะ ผมแค่บอกว่าไม่แต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ ไม่ได้พูดอย่างอื่นเลย”เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา พร้อมกับกะพริบตาปริบๆ อัปกิริยาเช่นนี้ช่างจริงใจและไร้เดียงสาเสียจริง
เย่ซือเฉินเห็นท่าทางของเธอเข้า จึงกัดฟันกรอด จากนั้นก็จูบแรงๆเธออีกครั้ง
ซึ่งครั้งนี้ คุณชายสามเย่รู้สึกไม่พอกับการจูบอีกต่อไป วันนี้เธอสวมใส่ชุดเดรส มือของเขาจับซิปได้ จากนั้นก็ดึงออกอย่างชำนาญ
และแล้วมือของเขาก็งัดเข้าไปด้านในเสื้อเดรสของเธอ เจตนาชัดเจนที่สุด
“เย่ซือเฉิน คุณบ้าแล้วเหรอ”เวินลั่วฉิงรีบกดมือเขาไว้“คุณอย่ามามั่วๆสิ ที่นี่เป็นคฤหาสน์ตระกูลเวิน คุณปู่พักผ่อนอยู่ห้องข้างๆ”
“ไม่กลัว คุณปู่เวินต้องรู้ในไม่ช้าก็เร็วเป็นแน่ ท่านรู้ก็ดี ท่านไม่ขัดขวางพวกเราอยู่ด้วยกันหรอก”เวลานี้เย่ซือเฉินควบคุมตัวเองไม่อยู่ และเขาก็ไม่อยากควบคุมตัวเองด้วย เธอเป็นผู้หญิงของเขา ผู้หญิงที่เขาอยากอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ดังนั้น เขาอยากได้เธอ
ตอนเขามาที่คฤหาสน์ตระกูลเวิน เขาก็รู้ความคิดของคุณปู่เวินแล้ว เขารู้ว่าคุณปู่ต้องสนับสนุนพวกเขาแน่ๆ
“คุณแน่ใจเหรอ?ฉันเคยบอกเรื่องของพวกเรากับคุณปู่แล้ว คุณปู่บอกว่า ม้าดีไม่กลับไปกินหญ้าเก่า คุณปู่ยังบอกว่า ไม่ต้องไปแขวนคอตายอยู่บนต้นไม้เพียงต้นเดียว”เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก จากนั้นก็ยิ้มเบาๆด้วยความขี้แหย่หลายส่วน
การกระทำของเย่ซือเฉินหยุดลง ดวงตาทั้งคู่จ้องมองเธอ
เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ แต่ท่าทางของเธอก็ไม่เหมือนกับกำลังโกหกเลยสักนิด
“แล้วไงล่ะ?”จู่ๆเย่ซือเฉินก็ก้มหน้าไปกัดที่คอของเธอแรงๆ
“ฉันรู้สึกว่าคุณปู่พูดมีเหตุผล พงไพรออกจะกว้างใหญ่ ต้นไม้ดีๆมีถมไป ฉันรู้สึกว่าจะลองเลือกดีๆ”เวินลั่วฉิงถูกเขากัดจนรู้สึกเจ็บเล็กน้อย คนนี้ชอบกัดคนจัง เขาเกิดปีหมาหรือไง?
เวินลั่วฉิงจงใจพูดเช่นนี้
ได้ยินสิ่งที่เธอกล่าวมา ดวงตาเย่ซือเฉินก็หรี่ขึ้นอย่างฉับไว ดวงตาที่กำลังหรี่จ้องมองเธออย่างอันตราย จากนั้นเอ่ยขึ้นมาทีละคำอย่างโหดร้าย “คุณเลือกหนึ่งต้น ผมก็จะตัดต้นนั้นทิ้ง ไม่เชื่อคุณลองดู”
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก จากนั้นก็หัวเราะออกมา คำตอบของเขายังคงความโอหัง เผด็จการอยู่เช่นเดิม
เธอคิดว่าเธอไม่ลองจะดีกว่า ทำไมเธอต้องไปทำร้าย‘ต้นไม้’ต้นอื่นด้วย
เวลาเขาบ้าขึ้นมาสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไปหาเธอ อยากบีบให้เธอไปจากเย่ซือเฉิน แต่พวกท่านก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น จากที่เธอกำลังลังเลอยู่ว่าจะคบเย่ซือเฉินต่อดีหรือไม่ กลับกลายเป็นความแน่วแน่เพิ่มขึ้น