ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 580 หากเสือไม่แสดงบารมีเสียหน่อย คงคิดว่าเธอเป็นแมวซะแล้ว (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 580 หากเสือไม่แสดงบารมีเสียหน่อย คงคิดว่าเธอเป็นแมวซะแล้ว (3)
บทที่ 580 หากเสือไม่แสดงบารมีเสียหน่อย คงคิดว่าเธอเป็นแมวซะแล้ว (3)
เวลานี้ คุณปู่เย่เห็นรายงานข่าวสดในโทรทัศน์ แล้วเห็นโจ๋วอันหนานเดินเข้ามา เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย “อันหนาน ทำไมหนูไม่หารือเรื่องนี้กับปู่ก่อนล่ะ”
“คุณปู่เย่ค่ะ หนูพูดความจริง พวกเขาต่างก็เป็นนักข่าว ต้องการข้อมูลที่แท้จริงเหมือนกันค่ะ”โจ๋วอันหนานมองหน้าคุณปู่เย่ ใบหน้ามีความขอโทษหลายส่วน“เรื่องนี้เร่งด่วนไปหน่อยค่ะ ดังนั้นจึงหารือกับท่านไม่ทัน”
“เร่งด่วนอะไร?”ความไม่พอใจในใบหน้าของคุณปู่เย่ยิ่งเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน“ปู่รู้ว่าหนูพูดถึงเรื่องวิดีโอ ปู่ก็เพิ่งจะดูเมื่อกี้นี่เอง
ถึงแม้ปู่จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนแพร่วิดีโอนี้ แต่ปู่รู้สึกว่าคนอย่างเวินลั่วฉิงสมควรโดนคนอื่นด่าแล้ว”
“คุณปู่เย่ค่ะ อันที่จริงเวินลั่วฉิงไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะคะ เวินลั่วฉิงเป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ”เวลาที่โจ๋วอันหนานพูดประโยคนี้ ใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างลุ่มลึกอยู่หลายส่วน
“เธอไม่ผิดตรงไหน?หล่อนเป็นตัวขี้เหร่ไม่พอ แถมยังตั้งครรภ์ไม่ได้อีก ยังมีหน้ามาพัวพันกับซือเฉินอีก หากหล่อนฉลาดสักนิดก็ควรตัดสายสัมพันธ์กับซือเฉินทิ้งซะ ไม่เช่นนั้นหล่อนต้องเจอดีแน่”คุณปู่เย่พูดถึงเวินลั่วฉิงด้วยใบหน้าโหดเหี้ยม
“คุณปู่เย่ค่ะ ตอนนี้โลกออนไลน์บ้าคลั่ง น่ากลัวมากนะคะ ทำให้คนตรอมใจตายได้เลยนะคะ ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องอธิบายให้รู้เรื่องค่ะ”โจ๋วอันหนานพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจเล็กน้อย ใบหน้ายังมีความกังวลอยู่หลายส่วน เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเห็นมือของหล่อนกุมแน่น แอบซ่อนความสั่นน้อยๆเอาไว้
“บีบให้ตายก็ยิ่งดี ปู่ว่าเมื่อกี้หนูไม่น่าไปอธิบายชี้แจ้งให้นักข่าวเลย ให้พวกเขาเข้าใจผิดต่อไปอย่างนี้ดีแล้ว ปล่อยให้ด่าผู้หญิงคนนั้น
จนไม่มีจุดยืนไปเลย ให้กระโดดแม่น้ำตายๆไปซะจะดีกว่า”คุณปู่เย่ทำอะไรก็ไม่เคยคำนึกความถูกต้องอยู่แล้ว เขาไม่เคยใส่ใจความเป็นความตายของผู้อื่นเสียเลย
มุมปากโจ๋วอันหนานเม้มขึ้นเล็กน้อย รีบกะพริบตาเร็วๆ จากนั้นก็มองคุณปู่เย่อีกครั้ง “คุณปู่เย่ค่ะ เวินลั่วฉิงไม่ได้ผิดอะไรเลยนะคะ
ทำไมท่านต้องบีบคั้นเธอด้วยคะ?ท่านบีบบังคับเวินลั่วฉิงอย่างนี้ก็เท่ากับบีบซือเฉินด้วยนะคะ ซึ่งซือเฉินจะเสียใจได้นะคะ”
“หนูพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร?”คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของหล่อน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป“หนูบอกว่าซือเฉินจะเสียใจได้ มันหมายความว่าอย่างไร?ซือเฉินพูดอะไรกับหนูหรือเปล่า?”
คุณปู่เย่หยุดพูด ทันใดนั้นก็ตอบสนองได้“ไอ้เด็กเย่ซือเฉินให้หนูไปอธิบายกับนักข่าวใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ค่ะ เขาไม่ได้ให้หนูทำอย่างนั้นค่ะ เรื่องนี้เป็นความคิดของหนูเองค่ะ”โจ๋วอันหนานรีบส่ายหัว คล้ายกับกลัวคุณปู่เย่จะไม่เชื่อจากนั้นรีบเสริมขึ้นมาหนึ่งประโยค“เขาไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ ไม่ได้ให้หนูทำอะไรเลยค่ะ”
“ถ้าเป็นเช่นนี้ เขาก็โทรหาหนูเพราะเรื่องนี้จริงๆ?ถ้าเป็นเช่นนี้ เขายังไม่ตายใจกับยัยขี้เหร่คนนี้อีก?”แต่คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของโจ๋วอันหนานก็รีบสรุปเป็นผลลัพธ์เช่นนี้
“อันหนาน เฉินเฉินโทรหาหนูเพราะเรื่องนี้จริงๆเหรอ?”สีหน้าคุณย่าเย่เปลี่ยนเล็กน้อย จ้องมองโจ๋วอันหนานตรงๆ
โจ๋วอันหนานเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร เวลานี้หล่อนไม่ตอบก็เท่ากับเป็นการยอมรับ
“ไอ้เด็กเวรคนนี้ยังไม่ตายใจอีก จะบ้าตาย จะบ้าตายจริงๆ”คุณปู่เย่โกรธจนหน้าดำคล้ำ“ไอ้เด็กเวรคนนี้ตอนนี้ไปไหนแล้ว?ปุ่เข้าโรงพยาบาลก็ไม่มาหาปู่ ไม่ใช่ว่าไปหายัยขี้เหร่นั้นแล้วนะ?”
“คุณปู่เย่ค่ะ ท่านวางใจรักษาตัวได้เลยค่ะ อธิบายเรื่องท่านไม่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ความเข้าใจก็ได้คลี่คลายแล้ว ซือเฉินต้องมาเยี่ยมท่านแน่นอนค่ะ”โจ๋วอันหนานปลอบใจเสียงเบา ซึ่งฟังดูผิวเผินก็ไม่มีความผิดปรกติแต่อย่างใด
ตอนที่คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของหล่อน ดวงตาก็รีบกะพริบเร็วๆ“คลี่คลายความเข้าใจผิดได้แล้ว?พวกเขาก็อยู่ด้วยกันได้แล้วเหรอ?”
“คุณปู่เย่ค่ะ เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินรักกันจริงๆนะคะ ทำไมพวกท่านต้องแยกพวกเขาจากกันด้วยคะ?”โจ๋วอันหนานไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง แต่เปลี่ยนวิธีห้ามปรามเป็นประโยคอื่น แต่คำพูดประโยคนี้เป็นการแดกดันคุณปู่เย่เป็นอย่างมาก
“ปู่แยกพวกเขาจากกันไม่ได้เหรอ?เวินลั่วฉิงเป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ไม่เป็น ซือเฉินแต่งงานกับหล่อน ตระกูลเย่ของพวกเราก็ไร้ทายาทสืบทอดแล้ว หล่อนขี้เหร่ยังพอทนได้ แต่เรื่องหล่อนมีลูกไม่ได้ ปู่ไม่ทนเด็ดขาด”เวลานี้ระดับเสียงคุณปู่เย่ยกสูงขึ้นหลายส่วน
ซึ่งน้ำเสียงมีความโกรธและโหดร้ายอยู่หลายส่วนเช่นกัน
“อันหนาน หนูบอกย่าสิ เวินลั่วฉิงมีลูกไม่ได้จริงๆเหรอ?รักษาไม่ได้แล้วจริงๆเหรอ?”คุณปู่เย่มองหน้าโจ๋วอันหนาน ใบหน้ามีการตั้งความหวังอยู่หลายส่วน
โจ๋วอันหนานไม่ได้ตอบ เพียงแค่ถอนหายใจหนึ่งเฮือก ซึ่งความหมายนั้นชัดเจนมากๆ
“คุณปู่เย่ค่ะ ท่านพักผ่อนดีๆนะคะ หากมีเรื่องอะไรก็ให้คนไปตามหนูได้นะคะ”โจ๋วอันหนานไม่ได้พูดอะไรอีก เดินออกจากห้องคนไข้โดยตรง
โจ๋วอันหนานออกจากห้องคนไข้ กลับเข้ามาในห้องทำงาน หล่อนปิดประตูแล้ว แผ่นหลังก็แนบชิดกับบานประตู หล่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ค่อยๆลื่นลงไป
หล่อนไม่อยากทำเช่นนี้ แต่หล่อนไม่ทำไม่ได้ หล่อนปล่อยให้เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่ได้ หล่อนปล่อยให้ซือเฉินเจ็บปวดไม่ได้
ด้านในห้องคนไข้ เวลานี้สีหน้าคุณปู่เย่ดูแย่มาก สีหน้าคุณย่าเย่ก็แย่พอๆกัน
“เรื่องนี้จะให้ผ่านไปง่ายๆอย่างนี้ไม่ได้ ฟังจากความหมายของอันหนานก็คือ คลี่คลายความเข้าใจผิดได้แล้ว ซือเฉินก็จะอยู่กับยัยขี้เหร่ต่อ ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องคิดหาวิธี”ดวงตาคุณปู่เย่หรี่ขึ้นเล็กน้อย
“ยังมีวิธีอะไรอีก คุณก็รู้นิสัยเฉินเฉินดี เรื่องที่เฉินเฉินตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนความคิดได้เลย”เรื่องนี้คุณย่าเย่รู้ดี ท่านจึงเป็นกังวลกว่า
“หากยัยคนนั้นตายแล้ว เรื่องนี้ก็สะสางได้แล้ว”ดวงตาคุณปู่เย่มีความโหดร้ายอยู่หลายส่วน
“คุณคิดจะทำอะไร?คุณอย่าทำอะไรมั่วๆนะ”คุณย่าเย่ตกตะลึง ใบหน้ากลายเป็นซีดขาว“ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ ยิ่งเกี่ยวข้องกับเฉินเฉินด้วย หากถูกรู้เรื่องเข้า……”
“วางใจเถอะ ฉันไม่ทำอะไรมั่วๆหรอก เมื่อกี้อันหนานเพิ่งบอกว่า ตอนนี้โลกออนไลน์โหดร้ายอย่างบ้าคลั่ง สามารถบีบให้คนตายได้ พวกเราก็ใช้วิธีนี้บีบให้เวินลั่วฉิงไปตายเสียแล้วกัน”มุมปากคุณปู่เย่มีความเย้ยหยันหลายส่วน แววตาเปล่งประกายไปด้วยกลอุบายหลายส่วน“ต้องบอกว่า คำพูดของอันหนานเตือนสติผม”
“คุณคิดจะทำอะไร?”คุณย่าเย่มองหน้าท่าน พร้อมกับกะพริบตาปริบๆ
“ผมจะให้ทุกคนรู้ว่า เวินลั่วฉิงบังคับให้ผมกระโดดตึก”เวลาที่คุณปู่เย่พูด น้ำเสียงโหดเหี้ยมจนน่าหวาดกลัว “เมื่อเป็นเช่นนี้ หากเวินลั่วฉิงไม่ถูกบีบให้ตาย ก็คงถูกบีบจนเป็นบ้าแน่ หากเป็นเช่นนั้น หล่อนก็อย่าหวังจะอยู่กับซือเฉินเลย”
“ทำอย่างนี้ได้จริงๆเหรอคะ?”คุณย่าเย่ลังเลเล็กน้อย ท่านไม่สนใจว่าเวินลั่วฉิงจะเป็นยังไง ท่านใส่ใจฝ่ายฝั่งเย่ซือเฉินมากกว่า…