ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 582 เสือไม่แสดงอานุภาพ คิดว่าเธอเป็นแมวป่วยไปแล้วจริงๆ (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 582 เสือไม่แสดงอานุภาพ คิดว่าเธอเป็นแมวป่วยไปแล้วจริงๆ (5)
บทที่ 582 เสือไม่แสดงอานุภาพ คิดว่าเธอเป็นแมวป่วยไปแล้วจริงๆ (5)
“ตอนนี้จะทำยังไง? ตอนนี้ประตูใหญ่ของบ้านตระกูลเวินถูกปิดไว้หมดแล้ว คุณปู่เวินก็ไม่กล้าออกจากประตูแล้ว ในอินเทอร์เน็ตยิ่งด่ายิ่งไม่น่าฟัง ไม่ใช่แค่ฉิงฉิงที่โดนด่า ครั้งนี้แม้แต่อันหนานก็โดนด้วย” ท่านย่าถังยิ่งดูยิ่งร้อนใจ
“นอกจากตอนนี้จะยืนยันได้ว่าบาดแผลของคุณปู่เย่เป็นของปลอม? ไม่งั้น…” ขณะนี้ใบหน้าของท่านปู่ถังหนักแน่นเป็นอย่างยิ่ง อยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้ ความหมายชัดเจนกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
“นี่เห็นได้ชัดว่าคนแก่ทั้งสองคนของตระกูลเย่ปรึกษากันมาดีแล้ว วางแผนอย่างดี จะพิสูจน์ยังไง? ตาแก่คุณปู่เย่ก็คือคนกลับกลอกคนหนึ่ง ในเมื่อเขาวางแผนมาดีแล้ว ไม่มีทางปล่อยโอกาสให้พวกเราแน่นอน” เพราะท่านย่าถังเข้าใจข้อนี้ดี ดังนั้นจึงร้อนใจยิ่งขึ้น
“แต่ฉันกลับรู้สึกว่า นี้เป็นโอกาสที่ต้องทำงานหนักเพียงครั้งเดียวหลังจากนี้จะสบายไปตลอด” เวินลั่วฉิงแย้มมุมริมฝีปากขึ้น เดิมทีเธอคิดว่าวิดีโอนี้คุณปู่เย่คุณย่าเย่ไม่ใช่คนส่งออกมา จึงไม่คิดจะก้าวร้าวกับพวกเขา แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะโหดเหี้ยมและน่าทึ่งขนาดนี้
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็โทษเธอไม่ได้แล้ว
เสือไม่แสดงอานุภาพ คิดว่าเธอเป็นแมวป่วยไปแล้วจริงๆ
“ฉิงฉิง คุณมีวิธี?” ท่านย่าถังได้ยินที่เธอพูด ดวงตาคู่นั้นรีบหันมองไปที่เวินลั่วฉิงอย่างรวดเร็ว
“ฉันคิดว่าฉันควรจะไปเจอพวกเขาหน่อย” รอยยิ้มมุมปากน้อยๆ ของเวินลั่วฉิงค่อยๆ หายไป คนอื่นต้อนรับใหญ่โตขนาดนั้น เธอจะหลบไม่ยอมออกไปเจอตลอดไปได้ยังไง!
ในเมื่อจะเล่น งั้นก็เล่นใหญ่หน่อย เล่นให้น่าตื่นเต้นหน่อย
เวินลั่วฉิงไม่เคยรังแกคนอื่นมาโดยตลอด แค่เพราะพวกเขาเป็นปู่ ย่าของเย่ซือเฉิน และอายุก็มากขนาดนั้นแล้ว อะไรที่ทนได้เธอยินดีทนไว้
แต่ตอนนี้เธอพบว่า ความอดทนของเธอแลกความสงบสุขไม่ได้ ทำได้แค่ทำให้คนพวกนั้นได้คืบจะเอาศอก
“คุณจะไปเจอพวกเขา? คุณจะไปเจอพวกเขาตอนนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนะ? ถ้าโดนนักข่าวเห็นเข้าล่ะ? หรือว่าโดนคนพวกนั้นดักไว้ล่ะ?” ท่านย่าถังตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีแล้ว รีบเดินอย่างรวดเร็วมาดึงเวินลั่วฉิงไว้ : “ไม่ได้ ยายไม่ให้คุณไปเจอพวกเขา ยายรู้ดีว่าตาแก่ตระกูลเย่นั่นเป็นคนยังไง ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่แน่เขาวางหลุมพรางไว้รอคุณอยู่แล้วล่ะ”
“ยายสบายใจได้ ไม่มีอะไร” เวินลั่วฉิงรู้ว่าคุณยายเป็นห่วงเธอ แน่นอน ความเป็นห่วงของคุณยายเหล่านี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก
แต่เธอก็มีวิธีของเธอ
“คุณน่ะ รู้จักเป็นห่วงอย่างเดียว คุณลืมไปแล้วหรือไงว่าฉิงฉิงทำงานอะไร? ตามความสามารถของฉิงฉิงจะถูกหลอกง่ายๆ ได้ยังไง” ท่านปู่ถังสงบขึ้นมาก เขารู้ชัดเจนในความสามารถของเวินลั่วฉิง คุณปู่ตระกูลเย่ถึงแม้จะกลับกลอก แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเวินลั่วฉิง
ท่านย่าถังตะลึง แอบถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ยังคงซ่อนความกังวลไว้ไม่ได้ : “งั้นคุณต้องระมัดระวังหน่อย อย่าให้โดนคนแก่พวกนั้นหลอกได้ ตาแก่นั่นกลับกลอกมาก หรือว่าให้ถังหลินไปเป็นเพื่อนคุณไหม?”
“ยาย ฉันไปเจอคุณปู่เย่ในฐานะเวินลั่วฉิง พี่ชายไปเป็นเพื่อนไม่เหมาะ และฉันยังต้องกลับไปตระกูลเวินสักรอบ ไปดูสถานการณ์คุณปู่หน่อย” เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของท่านย่าถังอดหัวเราะไม่ได้ คุณยายร้อนใจจนสับสนแล้ว
“อืม ควรจะไปเยี่ยมคุณปู่เวิน ครั้งนี้คุณปู่เวินเหนื่อยไปด้วยเพราะคุณ คุณปู่เวินเป็นคนที่ภาคภูมิใจมาตลอดชีวิต วันนี้อายุมากขนาดนี้แล้วกลับต้องมาโดนด่าเพราะเรื่องของคุณ ยังโดนปาไข่ไก่อีก ในใจของคุณปู่เวินต้องไม่สบายใจมาก พวกเขาทำเกินไปจริงๆ” ท่านย่าถังอดถอนหายใจไม่ได้ เธอรู้สถานการณ์ของทางตระกูลเวิน ช่างลำบากคุณปู่เวินจริงๆ
“ฉิงฉิง หรือว่าพวกเราจะประกาศตัวตนของคุณต่อสาธารณะดี? ประกาศต่อสาธารณะว่าถังฉิ้นเอ๋อก็คือเวินลั่วฉิง ถึงเวลานั้นฉันอยากจะดูว่าคนแก่สองคนนั้นยังกล้ารังแกคุณอีกไหม?” ขณะนั้นท่านย่าถังคิดว่าทำยังจึงจะปกป้องหลานสาวได้ดียิ่งขึ้น เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจแล้ว “ไม่ได้ ตอนนี้เปิดเผยไม่ได้ ตอนนี้สถานการณ์อย่างนี้จะมีผลกระทบกับตระกูลถัง” เวินลั่วฉิงหยุดความคิดของท่านย่าถังไว้ ตอนนี้นักข่าวมากมายขนาดนั้นปิดบ้านตระกูลเวินไว้ ถ้าให้พวกเขารู้ว่าถังฉิ้นเอ๋อก็คือเวินลั่วฉิง กลัวว่าคนพวกนั้นจะมาปิดประตูบ้านตระกูลถังไว้เหมือนกัน
สถานะของตระกูลถังละเอียดอ่อนมาก และยังมีตระกูลกู้จับตามองอยู่อีก ดังนั้นจึงไม่สามารถมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้เด็ดขาด
“คุณยาย ท่านต้องเชื่อฉัน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ทำให้ฉันลำบาก ท่านอยู่บ้านรอดูละครของฉันก็พอแล้ว” เวินลั่วฉิงอดทนเกลี้ยกล่อมท่านย่าถัง
“ฉันรับรองจะให้ท่านดูละครที่ยอดเยี่ยมของฉัน และต่อไป ยังต้องการความช่วยเหลือจากท่านและคุณตาด้วย” เวินลั่วฉิงเกรงว่าท่านย่าถังจะยืนหยัดต่อไป จึงพูดแผนการส่วนที่คิดไว้เธอคิดไว้ออกมาบางส่วน
“จริงไหม? อยากให้พวกเราช่วยอะไร? คุณรีบบอกมา ฉันกับตาของเธอจะได้เตรียมตัวไว้” ท่านย่าถังได้ยิน” เวินลั่วฉิงพูดอย่างนี้ก็ถือว่าสบายใจได้แล้ว และยังมีความน่าสนใจขึ้นมาในพริบตา
เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางของท่านย่าถัง อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ความจริงแล้วตอนนี้บางครั้งท่านย่าถังก็เหมือนเด็กคนหนึ่ง เวินลั่วฉิง กระซิบเสียงเบาข้างหูท่านย่าถังไม่กี่คำ
“ได้ ได้ ได้” ท่านย่าถังพยักหน้าติดๆ กัน การแสดงออกทางสีหน้าตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ จนแม้แต่ท่านปู่ถังที่เวลาปกติไม่ค่อยสนใจอะไรก็มีสีหน้าอดสนอกสนใจไม่ได้ขึ้นมาไม่น้อย
“โอเค โอเค คุณรีบไปเถอะ” หลังจากที่ฟังเวินลั่วฉิงกระซิบแล้ว ท่าทีของท่านย่าถังเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ รีบไล่เวินลั่วฉิงไป
ท่านปู่ถังดูแล้วก็ตะลึง หลังจากเห็นเวินลั่วฉิงไปแล้ว ท่านปู่ถังหันมาทางท่านย่าถัง ในที่สุดก็อดไม่ไหว กระซิบถามเบาๆ ว่า : “ในห้องโถงก็มีแค่พวกเราสามคน กระซิบอะไรกัน ทำไม? เห็นฉันเป็นคนนอกไปแล้ว?”
น้ำเสียงภายในประโยคมีความรู้สึกเศร้าน้อยๆ
ขณะนั้นท่านย่าถังอารมณ์ดีมาก มองเขาแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไรและวิ่งเบาๆ ขึ้นไปด้านบน
ท่านปู่ถังหดหู่ยิ่งขึ้น ทำไมเขารู้สึกว่าตั้งแต่ฉิงฉิงกลับมาที่ตระกูลถัง ที่ยืนของเขาในใจของคู่ชีวิตเขายิ่งค่อยๆ หายไป
เมื่อก่อน ความคิดของเธอทั้งหมดอยู่ที่ตัวเขา ตอนนี้ ความคิดทั้งหมดของเธออยู่ที่ตัวฉิงฉิง แม้แต่เวลานอนกลางคืนเธอก็ไปนอนกับฉิงฉิง ปล่อยให้เขาอยู่ในห้องว่างเปล่าคนเดียว
แน่นอน เวินลั่วฉิงไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลทันที เพราะวันนี้ดึกมากแล้ว และเธอก็ยังเป็นห่วงสถานการณ์ทางด้านของคุณปู่เวินด้วย เธอต้องกลับไปดูคุณปู่เวินหน่อย
เมื่อเวินลั่วฉิงกลับถึงบ้านตระกูลเวิน ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว แต่ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลเวินยังมีคนอีกมากมายล้อมอยู่ ประตูใหญ่ของบ้านตระกูลเวินล็อกไว้ เป็นการล็อกจากด้านใน ทำให้รู้ว่าคนอยู่ด้านในไม่กล้าออกมา
ในดวงตาของเวินลั่วฉิงมีความเย็นชาปรากฏขึ้นไม่น้อย พวกเขาเหล่านี้ทำเกินไปแล้ว เกี่ยวอะไรกับพวกเขา? ทำไมพวกเขาต้องทำอย่างนี้