ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 591 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 591 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (3)
บทที่ 591เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (3)
“สามีฉันเจ็บหนักขนาดนี้ เธอยังมาข่มขู่พวกเราถึงโรงพยาบาล แล้วยังยั่วยวนซือเฉินที่โรงพยาบาลอีก ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว” คุณย่าเย่อุทานเสียงเบา ใบหน้าอมทุกข์อย่างชัดเจน
“พวกคุณบอกว่าเวินลั่วฉิงมายั่วยวนคุณชายสามเย่ที่โรงพยาบาลหรือคะ เรื่องเป็นยังไงกันแน่คะ” มีนักข่าวคนหนึ่งถามขึ้น
“เรื่องนี้ พวกเราไม่สะดวกพูด พวกคุณดูกันเองเถอะ” คุณปู่เย่ถือโอกาสส่งรูปภาพที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักข่าว
เวินลั่วฉิงโอบคอของเย่ซือเฉิน ท่าทางหลงใหลแน่นอนว่าทำให้คิดเป็นอย่างอื่นได้ยาก
แต่ ความบ้าคลั่งของคุณชายสามเย่นั้นทุกคนมองออกชัดเจน
“เธอทำร้ายพวกเราขนาดนี้ แล้วยังมีหน้ากล้ามาที่โรงพยาบาล…” คุณปู่เย่ตั้งใจพูดค้างไว้อย่างนั้น ความหมายไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่านี้แล้ว
“คุณปู่เย่ครับ คุณบอกว่าเวินลั่วฉิงทำร้ายคุณเจ็บหนัก อย่างนั้นอาการบาดเจ็บของคุณเป็นยังไงบ้าง” นักข่าวคนหนึ่งที่ยืนอยู่มุมหนึ่งเงียบๆ มาตลอดจู่ๆ ก็ถามขึ้น
นักข่าวคนอื่นเมื่อได้ยินเขาถามเช่นนี้ ก็พากันมองคุณปู่เย่ รอคำตอบจากคุณปู่เย่
คุณปู่เย่หรี่ตาลงนิดหนึ่ง เมื่อเห็นนักข่าวทุกคนกำลังจ้องมองเขา นึกถึงแผนการณ์หลังจากนี้ ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องคิดอีก และไม่มีอะไรที่ต้องกังวล
“คุณหมอบอกว่า ขาผมกระดูกหัก”
“กระดูกหัก หนักขนาดนี้เชียว” นักข่าวคนที่เพิ่งถามเมื่อครู่อดไม่ได้ที่จะอุทานประหลาดใจ “ กระดูกหักเดินไม่ได้นาน ลงจากเตียงก็ไม่ได้ คุณปู่เย่อายุขนาดนี้คงจะหนักมาก เวินลั่วฉิงทำเกินไปจริงๆ”
คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดช่วงแรกของนักข่าว ดวงตาเคร่งขรึม แต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ดีขึ้นทันที
คลิปครั้งนี้ ประกอบกับภาพเย่ซือเฉินจูบกับเวินลั่วฉิง ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนรุนแรงทันที
เสียงก่นด่าในอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าส่วนใหญ่ด่าเวินลั่วฉิง คำด่าแสบสันจนไม่มีอะไรเปรียบ เกินกว่าเหตุจนสุดโต่ง
เพราะนักข่าวล้อมด้านล่างโรงพยาบาลอยู่แล้ว คลิปนี้จึงแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
เวลานี้เวินลั่วฉิงยังอยู่บนรถของคุณชายสามเย่
ตอนที่เวินลั่วฉิงเห็นคลิปไม่ประหลาดใจสักนิด เพราะเธอคาดเดาไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ตอนเห็นรูปพวกนั้น ก็หรี่ตาลงนิดหนึ่ง
รูปภาพดูแล้วก็รู้ว่าเป็นภาพแอบถ่ายตอนที่เย่ซือเฉินจูบเธอที่โรงพยาบาล แต่ใครเป็นคนแอบถ่ายกันนะ
คุณย่าเย่หรือ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่คุณย่าเย่
ไม่ใช่คุณย่าเย่ อย่างนั้นใครกันล่ะ
“ดูสิ คุณเป็นคนก่อเรื่อง” เวินลั่วฉิงยื่นภาพไปตรงหน้าเย่ซือเฉิน ถลึงตาใส่เขา
“อึม ดูออก คุณชอบมากทีเดียว” คุณชายสามเย่มองภาพพวกนั้น แต่ถ้าจะพูดให้ถูกเขากำลังมองเธอ
การแสดงออกของเธอ ปฏิกิริยา ท่าทางคลั่งรักของเธอ ทำให้เขาพออกพอใจเป็นพิเศษ
ถ้าไม่ใช่ภาพนี้ เขายังไม่รู้ ตอนนั้นเธอจะหลงใหลขนาดนี้
ส่วนเรื่องอื่น คุณชายสามเย่ไม่กังวลสักนิดเดียว
เวินลั่วฉิง “…”
ถามหน่อย เขากำลังคิดอะไรอยู่นี่
บ้าจริง จุดสำคัญ จุดสำคัญ เขารู้มั้ยจุดสำคัญอยู่ตรงไหน
อีกอย่าง เธอชื่นชอบตรงไหน เวินลั่วฉิงอดไม่ได้มองภาพนั้นอีก ทันใดนั้นก็ตัวเกร็ง จากนั้น…
ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว
“คุณไม่แปลกใจหรือคะใครถ่ายภาพพวกนี้” เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเรื่องภาพนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา
“เรื่องนี้ผมจะให้คนสืบเอง” คุณชายสามเย่หยอกเย้าเธอเมื่อครู่ก็ส่วนหนึ่ง ปัญหาบางอย่างเขาย่อมมีแผนในใจแล้ว
“คุณมีแผนอะไรต่อไปคะ” เย่ซือเฉินรู้ว่าวันนี้เธอมาเพื่อยั่วยุคุณปู่ ตอนนี้เห็นชัดว่าได้ผลมาก
คลิปที่คุณปู่เพิ่งส่งได้ผลอย่างที่เธอต้องการพอดี เช่นนั้นต่อไป เธอจะทำอย่างไร
เขารู้ดีคุณปู่ไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่ายๆ ไม่ติดกับดักง่ายๆ อย่างนั้น
ดังนั้นเรื่องนี้…
เวินลั่วฉิงกำลังจะตอบ มือถือของเธอก็ดังขึ้น เวินลั่วฉิงมองเห็นเบอร์มือถือของตระกูลถัง ก็รีบกดรับ
“ฉิงฉิง เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมเรื่องมันหนักหนาขึ้นทุกที หลานติดกับดักพวกคนแก่เจ้าเล่ห์นั่นหรือเปล่า” พอรับสาย น้ำเสียงกังวลของท่านย่าถังก็ดังมาอย่างรวดเร็ว
“คุณยาย ไม่ต้องกังวลค่ะ หนูกลับไปแล้วเราค่อยคุยกัน” เวินลั่วฉิงปลอบเธอ
“ก็ได้ หลานรีบกลับมาละกัน เร็วหน่อย ยายร้อนใจจะแย่แล้ว” น้ำเสียงของท่านย่าถังเต็มไปด้วยความกังวล
“หนูกำลังจะกลับไปค่ะ” เวินลั่วฉิงวางสาย มองเย่ซือเฉิน “คุณยายเร่งให้ฉันกลับบ้าน คุณยายอยู่บ้านกำลังเป็นห่วง ร้อนใจมากค่ะ อีกอย่าง พวกเราอยู่ด้วยกัน ขืนมีคนเห็นเข้า คนพวกนั้นคงฉีกฉันเป็นชิ้นๆ แน่”
เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจ “ผมส่งคุณกลับบ้านละกัน”
“อึม ก็ดีค่ะ ตอนนี้ทั้งเมือง A คงไม่มีใครไม่รู้จักฉันแล้ว พอฉันลงรถ ก็คงมีคนจำได้ ถูกคนปาไข่ใส่ จะเป็นตัวเองลำบากเหลือเกิน” เวินลั่วฉิงยิ้มจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง
เย่ซือเฉินมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร เขาเคยพูดว่าจะไม่ให้ผู้หญิงของเขาต้องบอบช้ำเด็ดขาด แต่วันนี้ เธอกลับต้องเจ็บปวดมากขนาดนี้
ตัวการหลักเรื่องนี้คือคุณปู่กับคุณย่า แต่เขารู้สึกว่ายังมีคนยุแยงอยู่ข้างหลัง เขาต้องสืบให้ชัด คนที่อยู่เบื้องหลังคือใครกันแน่
เวลาเดียวกัน ที่สนามบิน
“สวัสดีครับ คุณชายถังกำชับผมให้มารับพวกคุณ”
เยว่หงหลิงพาเด็กสองคนมา ยังไม่ทันลงจากเครื่องบิน ก็มีคนมารับพวกเขาแล้ว
“ถังหลินให้คุณมาหรือคะ” เยว่หงหลิงไม่รู้จักคนตรงหน้า จึงระมัดระวังมาก
“ใช่ครับ คุณชายถังรออยู่ข้างนอกแล้ว พวกคุณแค่ตามผมไปเท่านั้น” ท่าทางของเขานอบน้อมมาก
เพราะเวินลั่วฉิงบอกไว้แล้ว เยว่หงหลิงจึงไม่สงสัยอะไรอีก
เยว่หงหลิงเห็นทางเดินเป็นช่องทางพิเศษ ก็โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด
ถังหลินที่รออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นเด็กสองคนเดินมา สายตาก็จำพวกเขาได้ เพราะเขาดูรูปนั้นหลายรอบแล้ว
ถังหลินรีบวิ่งเข้ามา คุกเข่าลง อยากจะกอดถังจื่อซี
“คุณทำอะไร คุณเป็นใคร” แต่ถังจื่อโม่กลับพุ่งตรงเข้ามา ผลักถังหลินเต็มแรง เกือบจะผลักถังหลินล้มคะมำ
จากนั้นถังจื่อโม่ก็รีบดึงถังจื่อซีมาข้างตัวเอง
ถังหลินมองเห็นท่าทางของถังจื่อโม่ ความเร็วนี้ ทำเอาอึ้งไป ดวงตาเป็นประกาย เจ้าเด็กนี่ว่องไวจริงๆ การเคลื่อนตัวเร็วมาก มีแววดีมาก
“ลุงเป็นลุงของพวกเธอ” แน่นอนว่าถังหลินไม่โกรธ รีบแนะนำตัวเอง เวลานี้ถังหลินมองเด็กน้อยสองคนตรงหน้า ดวงตาเป็นประกาย..