ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 595 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (7)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 595 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (7)
บทที่ 595 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น(7)
“คุณลุงคะ คุณลุง” เวินลั่วฉิงตกใจ รีบเข้าไปห้าม เดิมทีเธอคิดว่าถังหยุนเฉิงต่อให้โกรธ ก็คงไม่ถึงกับลงไม้ลงมือกับถังหลิน
นี่คือเรื่องของเธอ เธอไม่มีทางยอมให้ถังหลินต้องถูกตีเพราะเรื่องของเธอ
“ฉิงฉิง อย่าห้ามลุง วันนี้ลุงต้องฟาดขามันให้หัก” ถังหยุนเฉิงตอนนี้โมโหสุดขีด และยังแกว่งไม้เท้าหมายจะตีถังหลิน
“คุณลุงคะ เด็กเป็นลูกหนูเอง ลูกหนูเอง ไม่เกี่ยวกับถังหลินเลยค่ะ” เวินลั่วฉิงแม้ว่าจะค่อนข้างกลัวถังหยุนเฉิง แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องยอมรับแล้ว
“ว่าไงนะ ฉิงฉิงหลานพูดอะไร” ถังหยุนเฉิงชะงัก สายตาจ้องมองเวินลั่วฉิงไม่กะพริบ “ฉิงฉิง หลานอย่าพูดโกหกช่วยปกป้องมัน”
คนอื่นที่เหลือต่างรีบหันมามองเวินลั่วฉิง แต่ละคนต่างยืนอึ้งไปอีกครั้ง
“หนูไม่ได้โกหกค่ะ เด็กๆ เป็นลูกหนูจริงๆ” เวินลั่วฉิงเสียงเบาลง แต่ก็ยังคงได้ยินชัดเจน
“แม่คะ แม่” เด็กน้อยถังจื่อซีฉลาด เมื่อเห็นสถานการณ์รู้จักแม่ได้แล้ว ก็รีบวิ่งเข้า กอดเวินลั่วฉิงแน่น
“ลูกรัก แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน” เวินลั่วฉิงก็นั่งลง โอบถังจื่อซีไว้ในอ้อมกอด
เวลานี้หลายคนในห้องโถงยังตั้งตัวไม่ทัน สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน แทบทำให้พวกเขารับไม่ได้
“ผมบอกทุกคนแล้วไงเด็กๆ เป็นลูกของฉิงฉิง ก็ไม่ยอมเชื่อกัน” ถังหลินในที่สุดก็บริสุทธิ์แล้ว รีบมองตาทุกคน “ยืนอึ้งอะไรอีก ควรจะทำอะไรที่ควรทำหน่อย ได้มั้ย”
“จริงนะ ไม่ใช่ลูกแกจริงๆ นะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวตอนนี้ผิดหวังจริงๆ เธอคิดว่าจะเป็นหลานของตัวเองจริงๆ ทำไมกลายเป็นลูกฉิงฉิงล่ะ
เธอมองเยว่หงหลิง รู้สึกเก้อเขินนิดหนึ่ง “ขอโทษหนู ที่เมื่อครู่ป้าเข้าใจผิด”
เมื่อครู่เธอยังบอกให้หญิงสาวเรียกเธอแม่ โอ๊ย น่าอายจัง!
“เด็กคือลูกของฉิงฉิง อย่างนั้นพ่อของเด็กคือใครกันล่ะ” ท่านปู่ถังตั้งสติแล้ว ถามขึ้น และเป็นคำถามตรงประเด็นสำคัญเสียด้วย
สายตาของเวินลั่วฉิงเป็นประกายวาบขึ้น เม้มริมฝีปากนิดหนึ่ง ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
ตอนนี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำเรื่องอย่างนั้น คนตระกูลถังไม่พอใจตระกูลเย่มาก พลอยทำให้ไม่พอใจเย่ซือเฉินไปด้วย
เมื่อครู่ถังหยุนเฉิงเข้าใจผิดว่าเด็กเป็นลูกของถังหลิน คิดว่าถังหลินผิดต่อผู้หญิง และยังต้องการคิดบัญชีกับถังหลิน
ถ้าหากให้พวกเขารู้เด็กเป็นลูกของเย่ซือเฉิน ถังหยุนเฉิงจะทำอย่างไร
“พ่อเด็กเป็นใครกันแน่” ท่านย่าถังก็คิดว่านี่เป็นคำถามสำคัญมาก แต่เมื่อเห็นเวินลั่วฉิงเงียบ ก็ลองถามใหม่ “ฉิง ฉิง หรือหลานไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก”
“รู้ครับ คือเย่ซือเฉิน” วันนี้ถังหลินนิ่งต่อไปไม่ได้ ตอบแทนเวินลั่วฉิง เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงกังวลอะไร แต่กังวลไปจะมีประโยชน์อะไร เรื่องนี้จะปิดบังตลอดไปก็ไม่ได้
“เป็นลูกของไอสารเลวตระกูลเย่ได้ยังไง” ท่านย่าถังยังไม่ตั้งสติเต็มที่ แต่ก็เหมือนจะโล่งใจ
“ว่าไงนะ แกบอกใครนะ ไอสารเลวตระกูลเย่นั่นหรือ” ถังหยุนเฉิงเมื่อได้ยินถังหลินพูด ก็เบิ่งตาโต “ไอเลวนั่น เด็กโตขนาดนี้ ยังจะหย่ากับฉิงฉิง แก ไปเอาปืนมา พ่อจะไปยิงมัน”
ปกติถังหยุนเฉิงเป็นคนใจเย็น แต่ตอนนี้โกรธจัดจริงๆ
เดิมทีเขาไม่พอใจเรื่องที่เย่ซือเฉินจะหย่ากับเวินลั่วฉิงอยู่แล้ว เป็นผู้ชาย แต่งผู้หญิงเป็นภรรยาแล้ว จะหย่าง่ายๆ ได้ไง
แต่เขาไม่เคยพูดอะไร วันนี้รู้ว่าฉิงฉิงมีลูกกับเย่ซือเฉิน เขาจึงอดกลั้นไม่ได้
“คุณคะ ใจเย็นก่อน ใจร่มๆ จริงสิ เย่ซือเฉินแต่งกับฉิงฉิงแค่ไม่กี่เดือนก่อน นี่ก็เพิ่งไม่กี่เดือน แต่เด็กสี่ห้าขวบแล้ว เรื่องนี้น่าจะมีอะไรไม่ถูกต้องนะ”
เฟิ่งเหมียวเหมียวตั้งสติได้แล้ว แต่เธอยังไม่เข้าใจเรื่องเป็นยังไงกันแน่
“จริงสิ เพราะฉิงฉิงมีลูกไม่ได้ปู่ย่าตระกูลเย่ กลัวตระกูลเย่ไม่มีทายาทสืบทอด ถึงได้ไม่ยอมให้เย่ซือเฉินแต่งกับ
ฉิงฉิง อย่างนั้น พวกเขาไม่รู้เรื่องเด็กๆ ใช่มั้ย” ท่านย่าถังก็รู้สึกตัวแล้ว
“ฉิงฉิง หลานเล่ามาสิเกิดอะไรขึ้นกันแน่” แววตาท่านปู่ถังสับสน
เวินลั่วฉิงคิดถึงเรื่องที่เธอทำเมื่อห้าปีก่อน ไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไรดีจริงๆ แต่เมื่อเห็นทุกคนจ้องมองเธอ ได้แต่หน้าด้านพูดออกไป “หนูท้องเด็กๆ เมื่อห้าปีก่อน เย่ซือเฉินไม่เคยรู้ค่ะ”
“เขาจะไม่รู้ได้ยังไง เรื่องที่เขาทำจะไม่รู้ได้ยังไง ต่อให้เขาไม่รู้เรื่องเด็ก เขาทำเรื่องพรรค์นั้นก็ต้องรับผิดชอบ ไอสารเลวนี่ ปล่อยมันไว้ไม่ได้” ถังหยุนเฉิงยังไม่หายโกรธ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่เรื่องนี้เขาก็เคร่งครัดมาก
“เรื่องนี้ เย่ซือเฉินถูกทำร้ายจริงๆ ครับ ตอนนั้นฉิงฉิงเป็นคนไปทำเขาก่อน ฉิงฉิงแอบเข้าไปในห้องเย่ซือเฉินตอนกลางคืน บังคับเย่ซือเฉิน แล้วก็หนีไป เย่ซือเฉินถูกบังคับ เย่ซือเฉินก็ไม่รู้ว่าคืนนั้นคือใคร เรื่องนี้จะตำหนิเย่ซือเฉินก็ไม่ถูกนะครับ” ถังหลินรู้สึกว่า ตอนนี้เขาจำเป็นต้องช่วยเย่ซือเฉินพูดอะไรหน่อย ไม่อย่างนั้น วันหน้าวันหลังเย่ซือเฉินไม่มีทางเหยียบตระกูลถังได้อีกแน่
อีกอย่าง เห็นพ่อเป็นอย่างนี้ ถ้าเขาไม่ช่วยเย่ซือเฉินอธิบายให้ชัดเจน ไม่แน่ครั้งหน้าพ่อเจอเย่ซือเฉินอาจจะต่อยเย่ซือเฉินเข้าให้ก็ได้
เวินลั่วฉิงได้ยินถังหลินพูดถึงบังคับ มุมปากก็กระตุก คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก
“พูดอะไรอย่างนั้น บังคับอะไร ฉิงฉิงของพวกเราเป็นผู้หญิงนะ พูดไม่เป็นก็ไม่ต้องพูด ไม่มีใครว่าแกเป็นใบ้หรอก” เฟิ่งเหมียวเหมียวถลึงตาใส่ถังหลิน ใบหน้าเห็นชัดว่าไม่พอใจ
“แต่ว่า มันเป็นเรื่องจริงนะ ตอนแรกฉิงฉิงเป็นคนบังคับเย่ซือเฉินจริงๆ อีกอย่างเย่ซือเฉินตอนนั้นก็ไม่รู้จริงๆ คนนั้นคือฉิงฉิง ตลอดห้าปีมานี้เย่ซือเฉินตามสืบเรื่องนี้มาตลอด” ถังหลินช่วยอธิบายให้เย่ซือเฉินต่อ ขณะถังหลินพูด ก็มอง ถังหยุนเฉิงแวบหนึ่ง ถังหลินหวังจะพูดให้ถังหยุนเฉิงเชื่อ
“ฉิงฉิง หลานบังคับคนอื่นก็ได้ ทำไมต้องสารเลวตระกูลเย่ด้วย ดูที่พวกตระกูลเย่ทำเรื่องชั่วๆ นั่นสิ” ถังหยุนเฉิงตอนนี้คลายความโกรธลงบ้าง มองเวินลั่วฉิง คำพูดทำให้ทุกคนตกใจ
ถังหลินกระตุกมุมปากแรงๆ วันนี้เขาเพิ่งรู้ ที่แท้พ่อเขาเป็นคนสองมาตรฐานอย่างนี้เอง
ตอนแรกคิดว่าเป็นความผิดเย่ซือเฉิน จะเอาปืนไปเด็ดหัวเย่ซือเฉิน ตอนนี้รู้ว่าเป็นความผิดของเวินลั่วฉิงเต็มอก เย่ซือเฉินก็ยังถูกด่าอยู่ดี
ถังหลินแอบสงสารเย่ซือเฉินอยู่ในใจสามวินาที
มุมปากเวินลั่วฉิงก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกเช่นกัน ตอนนั้น ในสถานการณ์แบบนั้นเธอไม่มีทางเลือกอื่น!!