ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 597 แจ้งคุณชายสามเย่ให้มารู้จักลูกๆ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 597 แจ้งคุณชายสามเย่ให้มารู้จักลูกๆ (2)
บทที่ 597 แจ้งคุณชายสามเย่ให้มารู้จักลูกๆ (2)
สำหรับคนแก่แล้ว นี่คงจะเป็นเรื่องที่มีความสุข และเติมเต็มมากที่สุดแล้ว
ถังหยุนเฉิงยังยืนอยู่ที่เดิม ถังหยุนเฉิงก็อยากกอดเด็กๆ สองคน แต่เขารู้สึกว่าตอนนี้ไม่มีโอกาสของเขา
ถังหยุนเฉิงมีนิสัยสุขุม เก็บความรู้สึก บางครั้งก็ผ่อนคลายไม่ได้
เฟิ่งเหมียวเหมียวเข้าใจเขาดีที่สุด จึงตั้งใจอุ้มถังจื่อซีเดินมาตรงหน้าเขา อยากจะยั่วเขาให้อิจฉา
“คุณปู่ กอดหน่อยค่ะ” แต่ เมื่อเฟิ่งเหมียวเหมียวเพิ่งจะเดินไปตรงหน้าถังหยุนเฉิง ถังจื่อซีก็ยื่นมือไปอยากให้ถังหยุนเฉิงกอด
พูดจริงๆ แล้ว ถังหยุนเฉิงปกติเป็นคนท่าทางเฉยเมย ไม่ชอบยิ้ม เด็กทั่วไปไม่ชอบเขา เด็กหลายคนเห็นเขาก็ร้องไห้แล้ว นี่คือสาเหตุที่เมื่อครู่เขาไม่ได้เข้าไปใกล้ เพราะเขากลัวว่าเด็กสองคนจะกลัวเขา
“อยาก อยากให้ปู่กอดหรือ” ถังหยุนเฉิงอึ้ง มองถังจื่อซี ไม่อยากจะเชื่อทีเดียว
เด็กคนนี้ไม่กลัวเขา และยังอยากให้เขากอด
“อึม ค่ะ ให้คุณปู่กอดค่ะ” ถังจื่อซีพยักหน้า ยิ้มหวาน
ถังหยุนเฉิงถึงจะยื่นมือออกไป เห็นมือของเขาสั่นนิดหนึ่ง เขาอุ้มถังจื่อซีจากอ้อมกอดของเฟิ่งเหมียวเหมียวท่าทางระมัดระวังมาก เหมือนกับกลัวจะทำให้ถังจื่อซีบาดเจ็บ
เฟิ่งเหมียวเหมียวยังเสียดาย อันที่จริงเธอแค่ตั้งใจจะยั่วให้ถังหยุนเฉิงอิจฉา นึกไม่ถึงถังจื่อซีจะอยากกอดเขา
“คุณปู่หล่อ หล่อกว่าคุณลุงอีกค่ะ” ถังจื่อซียื่นมือ ลูบหน้าถังหยุนเฉิง ยิ้มดีอกดีใจ
ถังหยุนเฉิงอึ้ง มีรอยยิ้มที่มุมปาก ในที่สุดก็ยิ้มแล้ว คนที่ทำให้ถังหยุนเฉิงยิ้มออกมีไม่กี่คน
“อึม ตามีแวว” เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดเสริม พิสูจน์ว่าสามีคือคนรัก ลูกชายคือเลี้ยงมา
ถังหลิน “…”
ถังหลินรู้สึกว่าในใจเหมือนถูกกระทบกระเทือนรุนแรง ชายอายุห้าสิบกว่าหล่อกว่าเขาหรือ
วันนี้เขาไปเหยียบเท้าใครเข้า ทำไมคนที่เจ็บเป็นเขาตลอด
ถังหลินเริ่มสงสัยชีวิตแล้ว บ้านนี้ไม่มีที่ให้เขายืนเลย
แต่เมื่อเขาเห็นเวินลั่วฉิงก็ถูกทิ้งอยู่ที่มุมหนึ่ง ในใจก็รู้สึกสงบขึ้นบ้าง
ถังหลินอยากจะโทรไปหาเย่ซือเฉิน คุยอวดกับเย่ซือเฉิน ในเมื่อเขาเจอเด็กสองคนก่อน
จนถึงตอนนี้เย่ซือเฉินก็ยังไม่รู้ว่ามีเด็กสองคนนี้ด้วยซ้ำ
เขาเดินไปมุมหนึ่ง แอบหยิบมือถือขึ้นมา
ทว่า เวลานี้เอง ท่านปู่ถังอุ้มถังจื่อโม่นั่งบนโซฟาไม่ทันระวังกดถูกรีโมท เปิดโทรทัศน์
ในโทรทัศน์ฉายคลิปนักข่าวสัมภาษณ์คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่พอดี
“เวินลั่วฉิงทำร้ายผมขนาดนี้ แล้วยังมายั่วยวนซือเฉินของพวกเราอีก ผมไม่มีทางทนนั่งดูเฉยๆ แน่” ในโทรทัศน์น้ำเสียงโกรธของคุณปู่เย่ทันใดนั้นก็ดังออกมา
ทุกคนฟังเสียงนั้นแล้ว ต่างพากันตกตะลึง
“คุณทำอะไร เร็ว รีบปิด” ท่านย่าถังตั้งสติได้รีบเรียกเขา เรื่องนี้ เธอไม่อยากให้เด็กสองคนรู้เรื่อง
แต่ เด็กสองคนเห็นแล้ว และยังได้ยินชัดเจน
“เขาว่าแม่หรือคะ” ถังจื่อซีมองคุณปู่เย่ในทีวี ใบหน้าไม่พอใจทีเดียว “ทำไมเขาว่าแม่คะ”
เวลานั้นเอง ในห้องโถงไม่มีใครตอบคำถามของถังจื่อซี คำถามนี้ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
เรื่องพวกนั้นที่คุณปู่คุณย่าตระกูลเย่ทำ พวกเขาพูดไม่ออก และไม่อยากพูดอะไรไม่ดีต่อหน้าเด็กๆ
ท่านย่าถังปิดโทรทัศน์
“แม่ครับ เย่ซือเฉินรู้จักพวกเรามั้ยครับ” ถังจื่อโม่ละสายตาจากโทรทัศน์ มามองเวินลั่วฉิง สายตาเคร่งขรึม
ในเมื่อมีคนต่อว่าแม่ของเขา เขารู้ว่าคนนี้คือคุณปู่ตระกูลเย่ คือปู่ของเย่ซือเฉิน
อย่างนั้นเย่ซือเฉินกำลังทำอะไร ถึงปล่อยให้คุณปู่ตระกูลเย่ว่าแม่อย่างนี้ เย่ซือเฉินไม่สนใจหรือ เย่ซือเฉินปล่อยให้คนตระกูลเย่รังแกแม่ตามอำเภอใจได้ยังไง
เวลานี้คำพูดของถังจื่อโม่ทำให้ทุกพากันตะลึง และคำเรียกขานของถังจื่อโม่ต่อเย่ซือเฉินก็ทำให้ทุกคนอึ้ง
ฟังเขาเรียกแบบนี้ เหมือนกับว่า…
“เขายังไม่รู้” เวินลั่วฉิงตะลึง จากนั้นก็ตอบคำถามเขาตามจริง ตอนนี้ เวินลั่วฉิงเดาใจเขาไม่ถูก
“งั้นแม่คิดจะบอกเขาเมื่อไรครับ” ตอนที่ถังจื่อโม่ถาม อารมณ์บนใบหน้าซับซ้อน
พูดตามจริง หลังจากเขารู้เย่ซือเฉินคือพ่อของเขา เขาอยากรู้จักพ่อ หลายปีมานี้ เขากับน้องสาวอยากมีพ่อมาตลอด แต่กลัวแม่เสียใจ ถึงได้ไม่เคยพูดเรื่องนี้
ตอนนี้ในที่สุดก็เจอพ่อแล้ว เขากับน้องสาวดีใจมาก แม้เขาจะเคยพูดว่าจะให้แบบทดสอบพ่อ แต่แบบทดสอบนั้นไม่ยากเกินไป
ขอแค่พ่อรักแม่ รักพวกเขา เรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหา
อย่างไรก็ดี เขาคิดไม่ถึงคุณปู่ตระกูลเย่จะด่าแม่อย่างนี้ คนของตระกูลเย่ทำกับแม่อย่างนี้เชียวหรือ
อย่างนั้นเรื่องเจอกับพ่อ เขารู้สึกว่าต้องพิจารณาใหม่ให้ดีเสียหน่อยแล้ว
“ลูกกับน้องสาวคิดว่ายังไงล่ะ” เวินลั่วฉิงรู้ว่าเขามีความคิดความอ่านแต่เด็ก เรื่องนี้ ควรจะขอความเห็นจากเขา
คนอื่นในห้องโถงต่างมองถังจื่อโม่ อยากจะฟังความเห็นของเขาบ้าง
“พี่ชายบอกแล้วค่ะ ช่วงนี้เราจะยังไม่บอกพ่อ ต้องทดสอบพ่อก่อน ถ้าพ่อผ่านแบบทดสอบ พวกเราถึงจะยอมรับ ถ้าพ่อสอบไม่ผ่าน พวกเราค่อยหาแฟนใหม่ให้แม่ค่ะ” ถังจื่อซีคิดถึงคำพูดของพี่ชายก่อนหน้านี้ แสดงความเห็นอีกครั้ง
คนในห้องได้ยินถังจื่อซีพูดอย่างนั้นก็อดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้ เด็กสองคนนี้ช่างแก่แดดเสียนี่กระไร
“ดีมาก ความคิดนี้ดีมาก ควรจะทดสอบเขาซะหน่อย” ท่านย่าถังตั้งสติได้แล้ว ก็พยักหน้าหงึกหงัก คุณปู่ตระกูลเย่กับคุณย่าตระกูลเย่ทำเรื่องอย่างนั้น พูดตามจริง เธอไม่พอใจตระกูลเย่มาก แม้แต่กับเย่ซือเฉินก็ไม่ชอบหน้า
ทว่า เธอก็ดูออกฉิงฉิงมีใจให้เย่ซือเฉิน อีกทั้งตอนนี้ก็มีลูกสองคน เธอไม่มีทางตัดขาดพวกเขาได้แน่
ตัดขาดไม่ได้ แต่ก็ไม่วางใจที่จะให้ฉิงฉิงแต่งงานกับเย่ซือเฉิน แต่งเข้าตระกูลเย่
ดังนั้น ตอนนี้วิธีการที่ถังจื่อโม่เสนอตรงกับความคิดของเธอพอดี
“อึม ใช่ ดีทีเดียว ฉันก็เห็นด้วยค่ะ ครั้งนี้จะให้เขาแต่งฉิงฉิงไปง่ายๆ ไม่ได้อีก ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่รู้จักทะนุถนอม” เฟิ่งเหมียวเหมียวก็เห็นด้วยเช่นกัน
ท่านปู่ถังไม่พูดอะไร แต่เพราะ เรื่องที่คุณย่าถังตกลงแล้วเขาไม่เคยคัดค้าน
“อึม ก็ไม่เลว เขาต้องผ่านแบบทดสอบ ผมจะหาคนที่ดีกว่านี้ให้ฉิงฉิงทันที ผู้ชายดีพร้อมมีเยอะแยะ ทำไมต้องเป็นเขาเท่านั้น” ตอนนี้ถังหยุนเฉิงไม่พอใจเย่ซือเฉินมาก ดังนั้น ประเด็นสำคัญของเขาคือประโยคสุดท้าย