ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 598 แจ้งคุณชายสามเย่ให้มารู้จักลูกๆ (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 598 แจ้งคุณชายสามเย่ให้มารู้จักลูกๆ (3)
บทที่ 598 แจ้งคุณชายสามเย่ให้มารู้จักลูกๆ (3)
ตอนนี้ถังหยุนเฉิงไม่พอใจเย่ซือเฉินมาก ดังนั้น ประเด็นสำคัญของเขาคือประโยคสุดท้าย
เวินลั่วฉิงเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไร ในเมื่อทุกคนตัดสินใจอย่างนี้ เธอพูดอะไรไปยังมีประโยชน์อีกหรือ ที่นี่ก็ไม่มีใครขอความเห็นของเธอ คงจะลืมเธอกันหมดแล้ว
ถังหลินถือมือถือ ยืนตะลึง อย่างนั้นเขายังควรจะโทรอีกมั้ย
“แกจะทำอะไร จะแอบโทรไปหาเจ้ากระจอกตระกูลเย่ใช่มั้ย” สายตาท่านย่าถังเคลื่อนมานิดหนึ่ง ก็พอดีกับที่เห็นถังหลินยืนอยู่มุมหนึ่งกำลังจะโทรศัพท์ “ย่าจะบอกให้นะ ถ้าแกกล้าบอกเด็กเมื่อวานซืนตระกูลเย่ล่ะก็ วันหลังอย่าคิดเหยียบตระกูลถังอีก”
ตอนที่ท่านย่าถังพูด ทั้งจริงจังและ เข้มงวดมาก ไม่มีความหมายล้อเล่นเจือปนสักนิดเดียว
มือถังหลินที่ถือมือถือถึงกับสั่น ตอนนี้เบอร์ของเย่ซือเฉินอยู่บนหน้าจอมือถือแล้ว แต่ทว่า เขากลับไม่กล้ากดโทร
ในบ้านตระกูลถัง ท่านย่าถังพูดอะไรแล้ว ใครจะกล้าคัดค้าน
“แล้วก็หลานด้วย” ท่านย่าถังหันมาทางเวินลั่วฉิง
“ห้ามไปแอบบอกเย่ซือเฉินเด็ดขาด ถ้ากล้าบอกเขาล่ะก็…” คำพูดของท่านย่าถังหยุดนิดหนึ่ง เห็นชัดว่ามีเจตนาขู่
ถังหลินเงยหน้า มองเวินลั่วฉิง ค่อยปลอบใจเขาขึ้นมาบ้าง ถ้าหากเขาถูกไล่ออกจากตระกูลถัง อย่างน้อยก็ยังมีเวินลั่วฉิงเป็นเพื่อนเขา
“ถึงอย่างไรหลานก็บอกเขาไม่ได้” ท่านย่าถังคิดอยู่นาน แต่ก็นึกคำพูดที่เหมาะสมไม่ออก
ถังหลิน “…”
เพราะอะไร เรื่องเดียวกันแท้ๆ เขาถูกไล่ออกจากบ้าน เวินลั่วฉิงกลับไม่เป็นไร
แต่ละคนทำไมไม่ยุติธรรมกับเขา
“คุณย่า ทำไมไม่ยุติธรรมล่ะครับ” ถังหลินไม่กล้าตอบโต้ถังหยุนเฉิง แต่เขายังกล้าโต้ตอบท่านย่าถัง
“ฉิงฉิงพาหลานน่ารักขนาดนี้ถึงสองคนมาตระกูลถัง แกล่ะ ตอนนี้แฟนยังไม่มีเลย แกยังกล้าพูดไม่ยุติธรรม ไว้รอแกมีความสามารถพาหลานมาสองคนก่อน ไม่สิ แกพามาได้คนหนึ่งก่อนเถอะ แกทำได้มั้ยล่ะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวกวาดตามองถังหลิน สายตาดูถูกยิ่งกว่าอะไร
ถังหลิน “…”
เรื่องลูกนึกจะพูดว่ามีก็มีได้หรือ
โอ๊ย ตอนนี้เขาอยู่ในตระกูลถังถูกรังเกียจถึงขนาดนี้แล้วหรือ
เขากลับไปทำงานดีกว่า
“ฉิงฉิง เรื่องตระกูลเย่หลานตัดสินใจจะทำอย่างไรดี” ถังหยุนเฉิงแม้ว่าช่วงหลายวันนี้จะยุ่งเรื่องงานที่บริษัทตลอด แต่เขาก็รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงสองวันนี้เป็นอย่างดี เรื่องนี้หากปล่อยไว้ไม่แก้ไข เวินลั่วฉิงคิดจะออกจากบ้านคงจะต้องลำบาก
“หนูอยากให้คุณตากับคุณยายเชิญคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่มาบ้านตระกูลถังพรุ่งนี้ หนูจะคิดหาทางเปิดโปงพวกเขาค่ะ” เวินลั่วฉิงบอกแผนของตัวเอง เรื่องนี้ควรจะจบได้แล้ว ควรจะแก้ไขได้แล้ว
“ถ้าพวกเราเชิญ พวกเขาต้องมาแน่ แต่ยายคิดว่าจิ้งจอกเฒ่าอย่างนั้นจะต้องนั่งรถเข็นมาแน่ พวกเราจะบังคับเขาลงจากรถเข็นก็ไม่ได้” ท่านย่าถังขมวดคิ้ว เข้าใจวิธีการของคุณปู่ตระกูลเย่เป็นอย่างดี
“วางใจเถอะค่ะ หนูมีวิธี” เวินลั่วฉิงยิ้มนิดหนึ่ง เธอทำอย่างนี้ แน่นอนว่ามั่นใจเต็มที่ เธอรู้ว่าคุณปู่เย่ลื่นเป็นปลาไหล แต่เธอรู้จุดอ่อนของคุณปู่เย่ดีพอ
“เย่ซือเฉินล่ะ เรื่องนี้เย่ซือเฉินไม่สนหรือ ไม่คิดจะทำอะไรหน่อยหรือ” ถังหยุนเฉิงหรี่ตานิดหนึ่ง เรื่องนี้คนตระกูลเย่ทำให้เกิดขึ้น พูดตามหลักแล้วควรจะให้เย่ซือเฉินแก้ไข ทำไมต้องให้ฉิงฉิงปวดหัว
“ตอนหนูไปโรงพยาบาล เย่ซือเฉินก็อยู่ที่นั่นค่ะ ตอนนั้นหนูเห็นกองเอกสาร หนูเดาว่าคงเป็นเอกสารที่ไม่เป็นผลดีกับคุณปู่เย่มากๆ เย่ซือเฉินน่าจะเอาเอกสารไปขู่คุณปู่เย่ค่ะ” เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะช่วยเย่ซือเฉินแก้ตัว
“ที่จริง เรื่องนี้เย่ซือเฉินเป็นคนกลางลำบากใจที่สุด ในเมื่อฝ่ายนั้นก็เป็นญาติ เขาทำเต็มที่แล้ว หนูคิดว่า ถ้าหนูไม่ไป เย่ซือเฉินคงจะต้องแก้ปัญหาได้แน่ เป็นเพราะหนูใจร้อนไป” เวินลั่วฉิงคิดถึงเรื่องที่เย่ซือเฉินทำที่โรงพยาบาล จะพูดไปเย่ซือเฉินทำเต็มที่แล้ว
แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังดีใจที่เธอไป บางเรื่องเธอทำได้ดีกว่าเย่ซือเฉิน
ถึงอย่างไรเย่ซือเฉินก็เป็นคนของตระกูลเย่
ตอนที่เวินลั่วฉิงพูด สายตาก็มองเด็กน้อยสองคน เธอพูดให้เด็กๆ ฟัง เธอไม่อยากให้เด็กๆ มีอคติเย่ซือเฉิน
“หึ ถึงพูดกันผู้หญิงโตแล้วก็แต่งงานออกไป ไม่ผิดสักนิด พวกตระกูลเย่ทำกับหลานอย่างนี้ ยังจะมีใจเอนเอียงให้เขา” ท่านย่าถังถลึงตาใส่เวินลั่วฉิง แต่เมื่อได้ยินเวินลั่วฉิงพูดอย่างนี้ ความไม่พอใจต่อเย่ซือเฉินก็หายไปมาก เธอเองก็รู้เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเย่ซือเฉิน
“นี่เป็นเรื่องที่เขาควรทำอยู่แล้ว” สีหน้าถังหยุนเฉิงผ่อนคลายลงชัดเจน ขอแค่เย่ซือเฉินคิดอ่านหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ เขาก็ยอมรับได้
ใบหน้าของถังจื่อโม่ก็ผ่อนคลายลงมากเช่นกัน ดูท่าพ่อจะห่วงใยแม่
“ฉิงฉิงเพิ่งบอกรอพรุ่งนี้ค่อยทำเรื่องนั้น วันนี้พวกเรายังไม่ต้องสน เรื่องเด็กๆ สองคนนี้กลับบ้านเป็นเรื่องน่าดีใจที่สุด พวกเราอย่าให้เรื่องอื่นมากระทบ” ท่านปู่ถังยังคงกอดถังจื่อโม่ ไม่อยากจะปล่อยมือ
“ใช่ๆๆ เรื่องเด็กสองคนสำคัญที่สุด” ท่านย่าถังพยักหน้า
“คุณคะ ส่งเด็กให้ฉันเถอะค่ะ ที่บริษัทยังมีงานเยอะไม่ใช่หรือคะ คุณบอกว่าต้องรีบกลับไม่ใช่หรือคะ คุณกลับไปก่อน ฉันจะอยู่ที่บ้านสองสามวัน ไม่ใช่สิ ต่อไปฉันจะอยู่ที่นี่” เฟิ่งเหมียวเหมียวทิ้งสามีเพื่อเด็กๆ สองคน
เธอตัดสินใจแล้ว ต่อไปจะอยู่บ้านเลี้ยงหลานๆ
“พรุ่งนี้ผมค่อยไป รอพรุ่งนี้เรื่องฉิงฉิงเรียบร้อยแล้ว ผมค่อยกลับ” ถังหยุนเฉิงกอดถังจื่อซีแน่น ไม่อยากปล่อยมือ เขาเอียงตัวนิดหนึ่ง เหมือนจะกลัวถูกเฟิ่งเหมียวเหมียวแย่งหลานไป
ที่จริงบริษัทมีงานมากจริง ตระกูลถังเดิมมีบริษัทของตัวเองอยู่แล้ว แต่ถังหยุนเฉิงยังต้องดูแลเรื่องของสำนักงานใหญ่แปดสุดยอดวงศ์ตระกูลด้วย
เรื่องคลี่คลายแล้ว สถานการณ์หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก จึงมีอีกหลายเรื่องที่รอเขากลับไปจัดการ อีกทั้งเป็นเรื่องด่วน และเป็นเรื่องสำคัญมาก
แต่ถึงอย่างไร เขาก็ตัดใจไปไม่ได้ ครั้งนี้เขาอยากจะเอาแต่ใจ เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อยากจะอยู่กับเด็กๆ ที่บ้าน อยู่กับคนที่บ้าน
“เรื่องที่บริษัทแกไปจัดการเถอะ” แต่ ตอนนี้ถังหยุนเฉิงคิดถึงถังหลินขึ้นมา หันไปกำชับถังหลิน
เรื่องราวคลี่คลายแล้ว ครั้งนี้ถังหลินประสบความสำเร็จมาก ตอนนี้ให้ถังหลินช่วยเขาจัดการเรื่องที่สำนักงานใหญ่แปดสุดยอดวงศ์ตระกูล ไม่มีใครกล้าไม่เชื่อฟังเขา
ถังหลิน “…”
นี่ใช่พ่อเขาจริงๆ ใช่มั้ย ก่อนหน้านี้ยังรังเกียจเขาไม่เอาๆ พอตอนนี้มีเรื่องจะคิดถึงเขา
แต่ว่า พวกเขาทั้งครอบครัวมีความสุขกัน แล้วจะให้เขาไปทุ่มเทชีวิตทำงานหนักคนเดียวหรือไง