ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 599 พ่อมาหาพวกเราหรือเปล่า (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 599 พ่อมาหาพวกเราหรือเปล่า (1)
บทที่ 599 พ่อมาหาพวกเราหรือเปล่า (1)
แต่ว่า พวกเขาทั้งครอบครัวมีความสุขกัน แล้วจะให้เขาไปทุ่มเทชีวิตทำงานหนักคนเดียวหรือไง
รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนในครอบครัวนี้หรือไง
เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เยว่หงหลิงก็ยิ้มเช่นกัน ครอบครัวนี้ดีจัง ช่างอบอุ่น อบอุ่นเหลือเกิน
ฉิงฉิงอยู่ที่นี่จะต้องมีความสุขแน่นอน เด็กสองคนอยู่ที่นี่ก็จะต้องมีความสุขมากเช่นกัน
“พี่หงหลิง ขอบคุณมากค่ะ” เวินลั่วฉิงเดินมาหาเยว่หงหลิง ใบหน้ารู้สึกซาบซึ้ง
“ต้องเกรงใจอะไรกันล่ะ” เยว่หงหลิงยิ้มจริงใจ “ฉันไม่วางใจ ถึงได้มาดูเอง ตอนนี้เบาใจแล้ว ฉันจองตั๋วเครื่องบินไปประเทศ M ไว้แล้ว ถึงเวลาจะต้องกลับแล้ว”
“รีบร้อนขนาดนี้เลยหรือคะ” เวินลั่วฉิงตะลึงนิดหนึ่ง เธอรู้ดีเยว่หงหลิงรู้สึกยังไงกับเด็กๆ พูดตามเหตุผลแล้วเยว่หง หลิงไม่น่าจะรีบกลับไปขนาดนี้
“ตอนที่ฉันอยู่ประเทศO หัวหน้าให้ฉันกลับไป บอกว่ามีเรื่องด่วน ฉันยืนยันต้องส่งเด็กๆ ก่อนค่อยกลับ หัวหน้าโกรธมากแล้ว ถ้าฉันยังไม่รีบกลับไปอีก คงจะระเบิดลงแน่” เยว่หงหลิงไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของถังไป๋เชียน น้ำเสียงของเธอจึงแฝงด้วยความตลก
แต่เมื่อเวินลั่วฉิงได้ยินเธอพูดอย่างนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป ดูท่ารุ่นพี่จะเคลื่อนไหวแล้ว เพียงแต่เขาคงจะแสดงออกชัดเจนเกินไปไม่ได้
ดังนั้น ถังไป๋เชียนอยากจะใช้งานนั้นเป็นข้ออ้างให้พี่หลงหลิงพาเด็กๆ กลับไปหรือ
ยังดีที่พี่หงหลิงยืนยันจะพาเด็กๆ ส่งกลับมาก่อน
“พี่หงหลิง…” เวินลั่วฉิงกอดเยว่หงหลิงแน่น อยากจะพูดอะไรมากมายแต่พูดไม่ออก
เธอคิดว่าพี่หงหลิงไม่กลับไปตามที่รุ่นพี่สั่ง รุ่นพี่จะโกรธมั้ย ถึงตอนนั้นจะทำอะไรกับพี่หงหลิงบ้าง
เวินลั่วฉิงอยากให้เยว่หงหลิงอยู่ต่อ แต่เธอก็กลัวถังไป๋เชียนจะมีเรื่องด่วนจริงๆ…
เธอกลัวว่าจะคิดมากไปด้วย
“อะไร อะไร เธอจะงอนแบบเด็กสองคนนั่นหรือ” เยว่หงหลิงตะลึง ตั้งใจหยอกล้อเธอ “บอกก่อนนะ เธองอนไม่ได้ผลหรอก”
“ฉิงฉิง นี่เพื่อนของหลานหรือ” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองเยว่หงหลิง สายตามีประกายชัดเจน หญิงสาวคนนี้ดูใช้ได้ เธอถูกชะตาทีเดียว
“ค่ะ” เวินลั่วฉิง มองความคิดของเฟิ่งเหมียวเหมียวออก อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“ให้เพื่อนหนูอยู่ที่นี่สักสองสามวันเถอะ” สายตาของเฟิ่งเหมียวเหมียวยิ่งชัดเจน
“คุณป้าคะ หนูต้องขอโทษ มีเรื่องด่วนต้องรีบไปจัดการ ต้องขอตัวก่อนค่ะ” เยว่หงหลิงก็ชอบครอบครัวนี้ ไม่อยากจากเด็กสองคนไป แต่เธอมีหน้าที่ จำใจต้องกลับแล้ว
“อ้าว ทำไมหนูจะไปแล้วล่ะ เราเพิ่งจะเจอกันเอง” เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่อยากให้เธอไป แต่เฟิ่งเหมียวเหมียวเห็นว่าเยว่หงหลิงจะต้องไปจริงๆ ก็เรียกถังหลิน “ถังหลิน แกไปส่งแขกหน่อย”
“อ้อ ครับ” ถังหลินรู้ว่าเยว่หงหลิงจองตั๋วเครื่องบินแล้ว ครั้งนี้จึงรับคำโดยเร็ว
เฟิ่งเหมียวเหมียวยิ้มดีใจกว่าปกติ
ในตระกูลถัง มักจะมีภารกิจด่วนที่ต้องเดินทาง แม้ว่าทุกคนจะไม่อยากให้เยว่หงหลิงไป แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก
เพราะเด็กสองคนนี้ ตระกูลถังมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะครึกครื้นทั้งวัน ท่านย่าถังกับท่านปู่ถังยิ้มไม่หุบ วันนี้ถังหยุนเฉิงน่าจะยิ้มเยอะที่สุดในชีวิตเขาแล้ว
เฟิ่งเหมียวเหมียวยิ่งดีใจจนหลงทิศหลงทางแล้ว
ถังหลินไปส่งเยว่หงหลิงที่สนามบินแล้วก็กลับมาที่ตระกูลถัง แต่เด็กๆ ไม่ติดเขา แถมถังหยุนเฉิงไล่เขากลับบริษัท
กระทั่งดึกมากแล้ว แต่ทุกคนยังไม่อยากนอน จนเห็นเด็กสองคนง่วงมากแล้ว พวกผู้ใหญ่ถึงยอมให้เวินลั่วฉิงพาเด็กๆ กลับห้องไปพักผ่อน
พวกเขาอยากจะนอนกับเด็กๆ แต่เด็กๆ ย่อมต้องสนิทกับแม่มากที่สุด ฉิงฉิงก็ห่างกับเด็กๆ มานาน ต้องคิดถึงพวกเขามากแน่
เวินลั่วฉิงกลับถึงห้อง คิดจะอาบน้ำให้ถังจื่อซี แต่ถังจื่อซียืนยันจะอาบน้ำเอง บอกว่าเธอโตแล้ว ไม่ต้องให้แม่อาบน้ำให้
เวินลั่วฉิงไม่มีทางเลือก ได้แต่ตามใจลูก ถึงอย่างไรตอนนี้อากาศร้อน อาบน้ำไม่ยาก ให้เธอฝึกหน่อยก็ได้
ถังจื่อโม่เป็นเด็กดีมาก พอเข้าห้องก็จัดการตัวเอง เป็นระเบียบเรียบร้อย
เห็นถังจื่อซีเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ เวินลั่วฉิงหยิบมือถือที่ลืมวางไว้ในห้องขึ้นมา เห็นว่ามีหลายสายที่ไม่ได้รับ
เป็นเย่ซือเฉินโทรมาทั้งหมด
เวินลั่วฉิงกำลังจะโทรกลับไปหาเย่ซือเฉิน ก็มีสายของคุณชายสามเย่เข้ามาอีก
เวินลั่วฉิงชำเลืองมองถังจื่อโม่ที่กำลังจัดเสื้อผ้า แล้วรับสาย
“คุณทำอะไรอยู่ครับ ทำไมไม่รับสาย” พอกดรับสาย เสียงของเย่ซือเฉินก็ดังมา ชัดเจนว่าน้ำเสียงร้อนใจ แต่ก็แฝงด้วยความโล่งอก
“เมื่อกี้ไม่ได้ยินค่ะ” เวินลั่วฉิงถอนหายใจยาว เพราะเด็กๆ กลับมา เธอดีใจมาก จึงอยู่ข้างล่างเป็นเพื่อนเด็กๆ ตลอด
“ถ้าคุณยังไม่รับสายอีก ผมจะบุกเข้าไปแล้ว” เย่ซือเฉินเงียบขรึมครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้น
“บุกเข้าไป หมายความว่าไง คุณอยู่นอกบ้านตระกูลถังหรือคะ” เวินลั่วฉิงตะลึง รีบเดินไปที่หน้าต่าง มองผ่านหน้าต่างก็เห็นสถานการณ์ที่หน้าประตูใหญ่
ฟังเขาพูดแล้วหมายความว่าเขาอยู่ที่นอกประตูบ้านตระกูลถังหรือ
หลังจากนั้น เวินลั่วฉิงก็เห็นเย่ซือเฉินยืนอยู่ข้างนอกจริงๆ ตอนนี้เขายืนพิงประตูรถ เงยหน้า มองมาทางเธอ…
แม้จะห่างกัน แต่ตอนนี้ห้องของเวินลั่วฉิงเปิดไฟ เย่ซือเฉินจึงมองเห็นเธอ
เสี้ยววินาทีที่เย่ซือเฉินเห็นเธอ ใบหน้าก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา
“ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมยังมาถึงนี่อีกคะ” เวินลั่วฉิงเห็นเขายืนคนเดียวอยู่ข้างนอก ก็ใจอ่อน
“ก็คุณไม่รับสาย ผมเลยเป็นห่วง” เสียงของเย่ซือเฉินอ่อนลงทีเดียว เขาอยากเห็นหน้าเธอ
“งั้นทำไมคุณไม่เข้ามาล่ะคะ” เวินลั่วฉิงถอนหายใจ แม้ตอนนี้ตระกูลถังจะไม่ค่อยพอใจเขา ท่านย่าถังเคยพูดว่าจะไม่ให้เขาเข้าบ้านตระกูลถัง แต่ถ้าเขาเข้ามาจริงๆ ใครจะห้ามเข้าได้
เขาเป็นคนเชื่อฟังตอนไหนกัน
“คุณลงมาหน่อยสิ” เย่ซือเฉินไม่ได้อธิบายอะไรมาก ถ้าเขาอยากเข้าไป ย่อมไม่มีใครหน้าไหนขวางเขาได้ แต่เขาไม่อยากให้เธอที่เป็นคนกลางลำบากใจ อีกอย่างเขายืนอยู่ตรงนี้ไกลๆ ได้ยินแว่วเสียงสรวลเสเฮฮามาจากข้างใน
พวกเขามีความสุขขนาดนั้น เขาไม่อยากขัดขวางความสุขของพวกเขา กระทบจิตใจของพวกเขา แต่ตอนนี้คนอื่นในตระกูลถังนอนหลับกันหมดแล้ว เขามองเธออย่างนี้รู้สึกว่าไม่พอ เขาอยากกอดเธอ อยากจูบเธอ และอยากมากกว่านั้น มากกว่านั้น…
ตอนนี้ เสียงของคุณชายสามเย่แหบพร่านิดหนึ่ง