ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 613 นี่คือการท้าทายจากลูกชายของเขา (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 613 นี่คือการท้าทายจากลูกชายของเขา (2)
บทที่ 613 นี่คือการท้าทายจากลูกชายของเขา (2)
เขารู้สึกว่าถ้าหากเย่ซือเฉินรู้เรื่องการเป็นอยู่ของเด็ดสองคนนี้ จะต้องชอบพวกเขามากแน่ๆ
นี่คือคำพูดจากใจจริงของเวินลั่วฉิง
แต่ว่าสีหน้าของเจ้าเด็กถังจื่อโม่กลับดูจมปลักลงไป “เพื่อที่คุณแม่จะช่วยพูดแทนเขา เริ่มพูดโกหกคนแล้ว”
เวินลั่วฉิง “………”
คำนี้เริ่มมาจากไหน? อะไรคือบอกว่าเพื่อที่เธอจะช่วยพูดแทนเย่ซือเฉิน เริ่มพูดโกหกคนแล้ว?
“ท่าทีของเขาในวันนี้ ถึงแม้ว่าจะรู้การเป็นอยู่ของผมและน้องสาวแล้ว ก็ไม่มีทางทำดีต่อเราเหมือนคุณแม่หรอกครับ” คำพูดประโยคนี้ของเจ้าเด็กถังจื่อโม่ดูแน่วแน่มาก ในตอนที่พูดประโยคนี้ เขาก็มองไปทางเวินลั่วฉิง “ไม่เช่นนั้น เขาก็คงจะไม่เอาลูกเพื่อคุณแม่หรอกครับ”
เวินลั่วฉิง “………”
เจ้าเด็กนี้ใช้คำพูดที่เธอชักจูงเขาเมื่อกี้มาตอกย้ำเธอ? รู้สึกว่าเหมือนเธอกำลังหาเหาใส่หัวเลย?
เจ้าเด็กนี่จะฉลาดขนาดนี้ทำไมกัน?
เขาพูดจนถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังจะพูดชัดจูงยังไงอีก? ไม่ว่ายังไงแล้วคุณชายสามเย่ก็พูดคำพูดเมื่อกี้อย่างชัดเจนขนาดนั้น ถังจื่อโม่ต่างก็ได้ยินหมดแล้ว
“แต่ว่า ผมรู้ว่าในใจของคุณแม่ผมและน้องสาวสำคัญกว่าเขา” ถังจื่อโม่มองไปทางเวินลั่วฉิง แล้วรีบพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง หลังจากพูดประโยคนี้เรียบร้อยแล้ว เขาก็ฮื้มด้วยเสียงเบา ไม่ว่ายังไงแล้วเขาก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง
เวินลั่วฉิง “………”
แววตาของเวินลั่วฉิงประกายขึ้นทันที เธอคิดแบบนี้อยู่ในใจมาโดยตลอด
สบตากับแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังของถังจื่อโม่ เวินลั่วฉิงยิ้มอ่อน “แน่นอนอยู่แล้ว หนูกับน้องสาวจะเป็นคนที่สำคัญที่สุดในใจของแม่ตลอดไป”
“ตลอดไป?” ถังจื่อโม่จับจุดสำคัญได้เก่งมาก ในตอนนี้เขาได้จับจุดคำว่าตลอดไปของเวินลั่วฉิงไว้
“อื้ม ตลอดไป” แววตาของเวินลั่วฉิงประกายขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้า ลูกทั้งเป็นคนที่สำคัญที่สุดในใจของแม่ตลอดไป ตลอดไป!!
จุดนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
“ความหมายของคุณแม่คือ ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมรับพวกเรา ไม่ชอบพวกเรา คุณแม่ก็จะไม่แต่งงานกับเขา” ถังจื่อโม่กะพริบตา จู่ๆ ก็ถามประโยคนี้ขึ้นมา
เวินลั่วฉิงอึ้งไปเลย เม้มปากเล็กน้อย ทำไมเธอรู้สึกว่า เธอมาพูดคุยกับลูก มาทำให้ลูกเกิดกระบวนการคิด ตอนแรกเธอจะมาชี้ทางให้ลูก แต่ปรากฏว่ากลับถูกลูกชายสวนกลับซะแล้ว?
iสึกว่าเหมือนเจ้าเด็กนี่กำลังรอเธออยู่ที่นี่เลย
แต่ว่า ถ้าหากว่าเย่ซือเฉินไม่ยอมรับลูกน้อยทั้งสองของเธอ ไม่ชอบลูกน้อยทั้งสองของเธอ งั้นเรื่องที่เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉินช่างบ้าบอจริงๆ
ขณะนี้ ถังจื่อโม่กำลังมองเธอด้วยความหวัง รอคำตอบจากเธออยู่
“แน่นอน ถ้าหากว่าเขาไม่ชอบพวกหนู ไม่ยอมรับพวกหนู แม่ไม่แต่งงานกับเขาแน่นอน” เวินลั่วฉิงไม่ได้มีความลังเลเลย เธอตอบกลับอย่างแน่วแน่
ถ้าหากเย่ซือเฉินไม่ชอบลูกน้อยทั้งสองของเธอ ไม่ยอมรับพวกเขา เธอจะสามารถแต่งงานได้หรอ? แน่นอนว่าไม่ได้
“งั้นแผนการต่อจากนี้ของผม คุณแม่จะช่วยเขาหรือช่วยผมครับ?” เจ้าเด็กถังจื่อโม่ถามอีกคำถามหนึ่งต่อ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า คำถามนี้ก็เป็นคำถามที่ถังจื่อโม่คิดไว้แล้ว
เวินลั่วฉิงอึ้งไปเลย เจ้าเด็กนี่ยิ่งอยู่ยิ่งเจ้าเล่ห์แล้วจริงๆ!
“คุณแม่ไม่ช่วยเขาแน่นอน ส่วนในฝั่งของหนูนั้น คุณแม่คิดว่าหนูน่าจะวางแผนเรียบร้อยแล้ว น่าจะไม่ต้องการให้แม่ช่วยอะไร” เวินลั่วฉิงเผยทัศนคติและท่าทีของตัวเองอย่างอ่อนน้อม ที่จริงแล้วเธอรู้ ที่เข้าเด็กถังจื่อโม่พูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะต้องการให้เธอช่วยเหลือเขา แต่เพราะว่าเขาเป็นห่วงว่าเธอจะช่วยเย่ซือเฉิน
“ได้ งั้นก็ตามนี้นะครับ คุณแม่เป็นแค่ผู้ชมอยู่ข้างๆ แต่ว่า คุณแม่ห้ามหลุดความลับออกมาเด็ดขาด ห้ามบอกเย่ซือเฉินเด็ดขาด” ในที่สุดเจ้าเด็กถังจื่อโม่ก็ยิ้มแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความพอใจกับแผนการของตัวเอง
เวินลั่วฉิง “……”
ทำไมเธอรู้สึกว่าการพูดคุยในครั้งนี้เหมือนเธอเป็นผู้ถูกกระทำเลย!!
แต่ว่า ในที่สุดก็เห็นลูกชายยิ้มแล้ว เวินลั่วฉิงเองก็วางใจแล้ว เจ้าเด็กนี้อ่อนไหวง่ายเกินไปแล้ว ถ้าหากนำเรื่องพวกนี้เก็บไว้ในใจ เธอเป็นห่วงมากจริงๆ
“คุณแม่ พวกเราแปะมือกัน แม่ห้ามหลุดความลับใดๆ ให้เขาเลยนะ” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าถังจื่อโม่ยังไม่วางใจ ยื่นมือเล็กๆ ของเขาออกมา ยื่นไปทางเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงยิ้มที่มุมปาก หัวเราะ จากนั้นก็ยื่นมือออกไป ใช้แรงตีกับมือของเขาเบาๆ
“คุณแม่ คุณแม่ออกไปอยู่กับน้องก่อนเถอะครับ ผมจะต่อโมเดลนี้ให้เสร็จ” ถังจื่อโม่พอใจแล้ว จากนั้นก็ต่อโมเดลของเขาต่อ ครั้งนี้ เขาต่อได้ตั้งใจเป็นพิเศษ
เวินลั่วฉิงมองดูเขา ในแววตาประกายขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจะต่อโมเดลในห้องนี้ให้เสร็จคงจะใช้เวลาพักใหญ่เลยสิ? เขาอยากจะต่อทั้งหมดให้เสร็จก่อนค่อยเริ่มแผนการของเย่ซือเฉิน?
จู่ๆ เธอก็อยากจะถามเจ้าเด็กถังจื่อโม่ว่า ในใจของเขาโมเดลสำคัญกว่า หรือว่าเย่ซือเฉินสำคัญกว่า?
แต่ว่า เวินลั่วฉิงคิดไปคิดมา สุดท้ายก็ไม่ได้ถาม ดูจากสถานการณ์แล้ว เธอรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องถาม
หลังจากคลิปที่แกล้งบาดเจ็บของคุณปู่เย่ถูกเผยออกมา การบาดเจ็บของคุณปู่เย่ก็ไม่สามารถแสดงต่อไปได้แล้ว ในโรงพยาบาลมีนักข่าวเข้ามาไม่หน่อยเลย ไม่สามารถอยู่ต่อที่โรงพยาบาลได้แล้ว
ไม่ง่ายเลยหว่าคุณปู่เย่จะออกจากโรงพยาบาล กลับมาถึงบ้าน ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด “ตระกูลถังมีความหมายว่าอะไรกันแน่? ทำไมพวกเขาถึงต้องช่วยเวินลั่วฉิง พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาวางแผนพวกเรา?”
“ไม่ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงทำแบบนี้ เรื่องนี้ก็จบไปแล้ว พวกเราก็ไม่สามารถไปคิดบัญชีที่บ้านถังได้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคิดว่าต่อมาจะทำอย่างไรดี” คุณย่าเย่จะดูเงียบสงบกว่า เธอรู้ดีว่าพวกเขาไม่กล้าไปหาเรื่องตระกูลถัง ฉะนั้นการเสียเปรียบครั้งนี้จึงต้องเก็บลงไป
“ไอ่เลวนั่งจะเปิดงานแถลงข่าวอีกด้วย พูดว่าทั้งชีวิตนี้จะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงคนเดียว….” คุณปู่เย่พูดถึงเย่ซือเฉินแล้ว ก็ยิ่งปวดหัวไปใหญ่
“ฉะนั้น ตอนนี้พวกเราต้องรีบคิดหาวิธีดีๆ” ดูออกอย่างชัดเจนเลยว่าสีหน้าของคุณย่าเย่แย่ลงเล็กน้อย “พวกไม่อยากให้เฉินเฉินแต่งงานกับเวินลั่วฉิง ก็ต้องรีบคิดหาวิธีมาจัดการกับเรื่องนี้”
“เธอมีวิธีอะไร?” แววตามีคุณปู่เย่มีประกายขึ้น รีบหันไปมองเธอ
“วิธีนี่มีอยู่วิธีหนึ่ง แต่ว่า จะต้องให้โป๋เหวินกลับมา เวลานี้ คำพูดของโป๋เหวินเขาอาจจะฟังก็ได้” คุณย่าเย่รู้ดี สถานการณ์ในตอนนี้ เย่ซือเฉินไม่มีทางฟังพวกเขาแน่นอน
“ฉันให้คนไปรับโป๋เหวินกลับมา” คุณปู่เย่รีบทำการตัดสินใจทันที
“โป๋เหวินเห็นด้วยที่จะกลับมาหรือยัง?” คุณย่าเย่หันไปมองเขา แววตามีแสงประกายเล็กน้อย
“สองวันก่อนฉันโทรหาเขาพูดคุยเรื่องนี้ เขาไม่ได้มีการตอบสนองอะไร แต่ว่าสถานการณ์นายตอนนี้เขาคงต้องกลับมาแล้วแหละ ฉันให้คนไปรับเขา” ดูออกอย่างชัดเจนเลยว่าคุณปู่จะดูเอาแต่ใจเล็กน้อย ไม่ว่ากับใคร คุณปู่ก็เป็นแบบนี้
กับหลานชายเป็นแบบนี้ กับลูกชายก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
“โป๋เหวินไม่ได้กลับมาจะสองปีแล้ว” สีหน้าของคุณย่าเย่ดูหนักใจขึ้นเล็กน้อย “ตั้งแต่ที่เขาบาดเจ็บไป นิสัยก็ดูโดดเดี่ยวขึ้น ยิ่งไม่ค่อยอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับพวกเราแล้ว ฉันบอกให้เขากลับมาหลายรอบแล้ว แต่เขาไม่ตอบรับ”