ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 622 คุณชายสามเย่ถูกวางยา (9)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 622 คุณชายสามเย่ถูกวางยา (9)
บทที่ 622 คุณชายสามเย่ถูกวางยา (9)
อันที่จริงเขาก็ไม่อยากเอาเธอในสภาพแบบนี้หรอก เขายิ่งไม่อยากฝืนใจเธอ เพียงแต่อาการเช่นนี้ คนที่เขานึกถึงมีเพียงเธอ มีเพียงเธอ
ดังนั้นเมื่อสักครู่เขาจึงโทรหาเธอ
ตอนนี้เธอวางสายของเขา ทำให้เขาได้รู้สึกตัวมากขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นเขาไม่หวังให้เธอมาแล้ว
เพียงแต่ร่างกายทรมานมาก เขาอยากพักสักครู่ จากนั้นก็ไปที่โรงพยาบาล โรงพยาบาลอาจมีวิธีช่วยทุเลาอาการของเขาได้
ถึงแม้เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงโกรธจนวางสายทิ้ง แต่เธอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่วางใจ
เมื่อก่อนเธอก็เคยถูกคนวางยาประเภทนี้มาก่อน หลังโดนยาประเภทนี้แล้วก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้เลย
เวินลั่วฉิงถอนหายใจแรงๆ เธอกำมือถือไว้แน่น จ้องมองมือถือในมืออย่างเพ่งเล็ง
เธอนึกถึงเสียงหายใจของเย่ซือเฉินไม่ปกติ นึกถึงน้ำเสียงของเย่ซือเฉินที่ไม่ปกติ
เวินลั่วฉิงแอบด่าอยู่ในใจหนึ่งประโยค สุดท้ายก็อดโทรหาเย่ซือเฉินไม่ได้ ถึงแม้เย่ซือเฉินจะจงใจดื่มยานั้น แต่เธอจะไม่สนใจเขาจริงๆหรือ?
ถึงแม้เธอจะไม่ทำเรื่องอย่างนั้นกับเขา อย่างน้อยๆเธอก็ควรไปดูเขาหน่อยไหม หากไม่ไหวจริงๆ อย่างน้อยเธอก็ควรส่งเขาไปที่โรงพยาบาลสิ
เวลานี้เย่ซือเฉินนอนอยู่บนเตียง ร่างกายที่ทนทรมานหดตัวเล็กน้อย เขาได้ยินสายเรียกเข้า ดวงตาพลันกะพริบ จากนั้นหยิบมือถือขึ้นมา เห็นเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอก็ชะงักอย่างเห็นได้ชัด
ทำไมเธอโทรมาอีกล่ะ?
เขาคิดว่า เธอวางสายแล้วก็จะไม่สนใจเขาอีก!!
เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจ นิ้วมือที่งอหดเล็กน้อย ได้คลายออกไปกดปุ่มรับสาย
“ฉิงฉิง”เมื่อรับสายก็ไม่รอให้เวินลั่วฉิงเอ่ยปาก เขาก็เรียกขานเธอทันที เวลานี้น้ำเสียงของเขายังคงแฝงเสียงหัวเราะอยู่เช่นเดิม เพราะตอนนี้เขาควบคุมตัวเองอย่างสุดชีวิต ดังนั้นเวลานี้จึงฟังเสียงผิดปกติของเขาไม่ออก
“……”เวินลั่วฉิงชะงักค้าง เกิดอะไรขึ้น?ทำไมจู่ๆก็หายแล้วล่ะ?
หรือเมื่อกี้เขาแกล้งหลอกเธอจริงๆ?
ชั่วขณะนั้นเวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร เพราะเธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
“เพิ่งวางสายก็โทรมาอีกแล้ว?ทำไม?คิดถึงผมเหรอ?”เย่ซือเฉินกำมือถือไว้แน่น เพราะทรมานมาก ใบหน้าจึงบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของเขาก็คงเจือเสียงหัวเราะอยู่ พยายามรักษาน้ำเสียงเฉกเช่นปกติไว้อย่างสุดความสามารถ
ตอนนี้เขาไม่อยากให้เธอมา เขากลัวว่าอาการในตอนนี้เขาอาจทำร้ายร่างกายเธอได้ เขาจะไปโรงพยาบาล พอวางสายจากเธอเสร็จ เขาก็จะไปโรงพยาบาล
“เย่ซือเฉิน คุณเป็นอะไรกันแน่?”ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบเร็วๆ เมื่อสักครู่กับตอนนี้เขาเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้เธอตอบสนองไม่ทัน
“แกล้งแหย่คุณเล่นไง?ทำไม?แกล้งง่ายอย่างนี้เลยหรือ?”เย่ซือเฉินยังคงหัวเราะอยู่ ยิ่งมีความคลุมเครืออย่างจงใจอย่างหลายส่วน
“เย่ ซือ เฉิน”เวินลั่วฉิงพูดทีละคำในขณะที่กัดฟันกรอด คนนี้เหลวไหลจริงๆ กล้าเอาเรื่องอย่างนี้มาเล่นกับเธอ
เกินไปจริงๆ!
อีกฝั่งหนึ่งของสาย เสียงหัวเราะของเย่ซือเฉินส่งผ่านมา
สีหน้าเวินลั่วฉิงเคร่งขรึมขึ้นหลายส่วน ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ แกล้งเธอแล้วสนุกมากใช่ไหม?
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเอาเรื่องอย่างนี้มาล้อเล่น?เขาบ้าไปแล้วใช่ไหม?
ไม่ถูก ถึงแม้เย่ซือเฉินจะเจ้าเล่ห์อยู่บ้าง อำมหิตหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเอาเรื่องอย่างนี้มาล้อเล่นหรอกมั้ง?
ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร แต่นิ่งฟังเสียงจากปลายสายอย่างเงียบๆ
เธอฟังออกว่าน้ำเสียงของเย่ซือเฉินยังมีความเร็วถี่แบบเลือนราง อีกทั้งเป็นความรู้สึกอดกลั้นอย่างเห็นได้ชัด
“ฉิงฉิง วางสายแล้ว จะนอนแล้ว”บัดนี้เย่ซือเฉินทรมานมาก หน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาเป็นชั้น กำมือถือแน่นไม่หยุด จนหลังมือเผยเส้นเอ็น
ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบปริบๆอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ช่วงนี้เวลาเย่ซือเฉินโทรหาเธอ จะแกล้งแหย่แบบไม่รู้จักพอ แต่วันนี้จะวางสายเร็วขนาดนี้
สาเหตุก็คือจะนอนแล้ว?จะนอนแล้ว?
เวินลั่วฉิงยิ่งรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ไม่ ไม่ปกติมากๆ!!
“นอนคนเดียว?”หางคิ้วเวินลั่วฉิงขมวด ทันในนั้นก็ถามขึ้นมาหนึ่งประโยค
“อืม?”เย่ซือเฉินตอบเสียงเบาหนึ่งพยางค์ ราวกับไม่ได้สติไปชั่วขณะ
เวลานี้ร่างกายของเขาหดตัวแน่นขึ้นมาก เหงื่อบนหน้าผากก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ
“จะให้ฉันนอนเป็นเพื่อนไหม?”ปกติเวินลั่วฉิงไม่ยอมพูดประโยคเช่นนี้เด็ดขาด แต่ตอนนี้จู่ๆเธอก็พูดอย่างนี้ออกมาอย่างรวดเร็วและกะทันหัน
อีกฝั่งหนึ่งของสาย เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเธอก็เกือบจะละลายไปเลย
คำพูดนี้ช่างคลุมเครือมาก และสามารถเรียกว่าพูดตรงมาก ภรรยาของเขาพูดอย่างนี้กับเขาเป็นครั้งแรก ดังนั้นสำหรับคุณชายสามเย่แล้ว จึงยิ่งเป็นแรงกระตุ้นสภาพจิตใจของเขา
ปกติคุณชายสามเย่ได้ยินคำพูดเธอเช่นนี้ จะต้องแกล้งแหย่ให้เธอกระสับกระส่ายจนหัวใจเต้นเร็วเป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขายังถูกวางยาอีกต่างหาก
“ฉิงฉิง”เย่ซือเฉินเรียกเธออย่างอดกลั้นไม่ได้ ไม่ได้เก็บน้ำเสียงเหมือนเมื่อสักครู่อีกแล้ว เวลานี้ลมหายใจกลายเป็นเร็วถี่เป็นพิเศษ……
แม้จะมีมือถือกั้นระหว่างเขาทั้งสอง แต่เวินลั่วฉิงราวกับสัมผัสความร้อนได้
เวลานี้เพียงพอให้เวินลั่วฉิงมั่นใจแล้วว่า เขาถูกวางยาจริงๆ อีกทั้งฟังออกว่าตอนนี้ฤทธิ์ยาได้กำเริบแล้ว
“ตอนนี้คุณอยู่ไหน?”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ถามด้วยความรวดเร็ว เมื่อกี้เย่ซือเฉินบอกว่าอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเย่
ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาออกมาหรือยัง?
“อยู่คฤหาสน์ตระกูลเย่”เย่ซือเฉินยิ่งหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเวลาเขาพูด เสียงหายใจถี่เกือบกลบเกลื่อนคำพูดของเขาได้แล้ว
“อืม คุณรอเดี๋ยว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”เวินลั่วฉิงตอบเสียงเบา เขาโดนวางยา คาดว่าออกไปคนเดียวคงยาก
“ฉิงฉิง คุณไม่ต้องมา ผมไปโรงพยาบาลได้”เย่ซือเฉินรู้ว่าตอนนี้แสร้งทำก็ไร้ผล เธอรู้แล้วแน่ๆ
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก กัดฟันกรอด“ผมไปส่งคุณเข้าโรงพยาบาล”
เวินลั่วฉิงพูดจบ พลางวางสายอย่างรวดเร็ว
อาการตอนนี้ของเขาขับรถไม่ได้แน่นอน และออกไปคนเดียวก็อันตรายด้วย
ถูกวางสายทิ้งอีกครั้ง ดวงตาคุณชายสามเย่กะพริบเร็วๆ เธอจะส่งเขาไปโรงพยาบาล?!
หากฟังธรรมดาก็ไม่รู้สึกแปลกอะไรหรอก เพียงแต่……
อีกฝั่งหนึ่ง เวินลั่วฉิงรีบเปิดตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็หยิบเสื้อมาใส่อย่างว่องไว ตอนที่หันหลังก็สบตาเข้ากับแววตาอันอยากรู้อยากเห็นของถังจื่อซี
“ลูกรัก แม่ออกไปแป๊ปหนึ่งนะคะ……”เวลานี้เวินลั่วฉิงรู้สึกร้อนใจ แต่เธอยังคงอธิบายให้ลูกของเธอเข้าใจ
ถังจื่อซีมองหน้าเธอ ทำปากบู้“แต่คุณแม่บอกว่าคืนนี้จะนอนเป็นเพื่อนหนูนะ”
เวินลั่วฉิง“……”
ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เธอรับปากลูกจื่อซีว่าจะนอนด้วยกัน ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าไม่มีธุระอะไรสำคัญไปกว่าการนอนกับลูกรักของเธอแล้ว แต่…