ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 626 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 626 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (1)
บทที่ 626 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (1)
เธอรู้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินไม่มีสติ กำลังคลุ้มคลั่งกับอารมณ์ใคร่อยู่ เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ และเป็นไปได้ที่เขาจะเอาเธอที่นี่
เวินลั่วฉิงใช้พละกำลังทั้งหมด กดสองมือของเขาไว้ จากนั้นความคิดแล่นพล่าน ควรจะพาเขาขึ้นรถก่อน แต่ก็อยู่ห่างจากรถมาก หากคุณชายสามเย่ไม่ให้ความร่วมมือ เวินลั่วฉิงก็ไม่อาจพาเขาไปได้เลย
เวินลั่วฉิงจับข้อมือของเขาไว้ ร่างกายเธอถอยหลังเล็กน้อย ซึ่งทำให้คุณชายสามเย่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาใช้แรงสะบัดมือของเธอออก จากนั้นก็โถมกายเข้าหาเธอด้านหน้า จนกดทับเธอล้มไปนอนที่พื้น โชคดีบริเวณนี้มีแต่หญ้าปูพื้น ถือว่าพื้นยังพอนุ่มอยู่บ้าง
ไม่เช่นนั้น เวินลั่วฉิงถูกเขาผลักไปกับพื้น คงต้องได้รับบาดเจ็บเป็นแน่
หลังทับเธอไว้ใต้ร่าง เย่ซือเฉินก็เริ่มทำตามอำเภอใจอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่ยั้งคิด
เวลานี้เวินลั่วฉิงกำลังคิดอยู่ว่าควรทุบเขาให้สลบ จากนั้นก็ลากตัวเขากลับไปดีหรือไม่?
ไม่ว่าจะยังไง ทำอย่างนี้ที่นี่ไม่ได้……
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ถึงแม้ไม่ทุบให้สลบ แต่อย่างน้อยๆก็ควรทำให้เขามีสติบ้าง เวินลั่วฉิงเอื้อมมือไปข้างตัว ในที่สุดก็จับก้อนหินได้หนึ่งก้อน
เวินลั่วฉิงเอาก้อนหินขึ้นมา พลางถอนหายใจแรงๆหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ยกมือทุบใส่เย่ซือเฉิน แน่นอนเธอไม่ได้ทุบบนศีรษะของเย่ซือเฉิน แต่ทุบบนแขนของเขาแทน
ครั้งนี้เวินลั่วฉิงใช้แรงไม่น้อย เพราะเธอกลัวจะทุบให้คุณชายสามเย่ได้สติกลับคืนมาไม่ได้
ความเจ็บปวดที่มาอย่างกะทันหัน เย่ซือเฉินร้อง โอ๊ย หนึ่งคำ เขาหยุดการกระทำของตัวเอง ยกตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับมองใบหน้าเธอ
“ฉิงฉิง”เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาฟื้นฟูประสาทการรับรู้ได้เล็กน้อยแล้ว เขามองเธอด้วยใบหน้ามึนเบลอ จำการกระทำก่อนหน้านี้ของตนไม่ได้
เวินลั่วฉิงไม่ได้อธิบายให้เขาทราบ เพราะเธอกลัวว่านาทีต่อไปเขาจะกลับมาบ้าคลั่งอีกครั้ง
“ไป ขึ้นรถก่อน”เวินลั่วฉิงดันเขาให้ลุกขึ้น
เย่ซือเฉินเงยหน้า รับรู้ว่ากำลังอยู่ด้านนอก ดังนั้นจึงลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง เขาเอื้อมมือออกไปกอดเธออีกครั้ง พลางเอียงหน้าเข้าหา อยากจูบเธอต่อ
เวินลั่วฉิงใช้แรงผลักเขาออก ลากเขาไปที่รถอย่างรวดเร็ว
เวินลั่วฉิงคิดจะไปเปิดประตูรถ แต่ประตูรถยังไม่ทันเปิด เย่ซือเฉินก็มากดร่างเธอไว้บนรถ ก่อนจะเริ่มจูบแรงๆต่อ
เวินลั่วฉิงผลักเขาออก แต่ผลักไม่เป็นผล เธอจึงได้แต่เอื้อมมือไปเปิดประตูรถ จากนั้นก็เบียดมาอยู่ด้านข้างอย่างสุดชีวิต แล้วสามารถยัดเย่ซือเฉินเข้ารถได้ในที่สุด
หลังเวินลั่วฉิงดันเขาเข้าไปภายในรถเสร็จ อยากอ้อมไปด้านหน้าเพื่อไปขับรถ แต่วินาทีต่อมา เธอถูกเย่ซือเฉินดึงเข้าไปในรถกับเขา
พื้นที่ภายในรถไม่กว้าง เย่ซือเฉินกอดแน่นมาก และทับตัวแน่นมากด้วย เธอไม่มีพื้นที่ให้ดิ้นหลุดได้เลย
“ฉิงฉิง ฉิงฉิง ฉิง……”เย่ซือเฉินจูบเธอพร้อมกับเอ่ยชื่อเธอไม่หยุด
เสียงของเขาเร็วและหอบแห้ง เวินลั่วฉิงรู้ว่ายาออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว เวลานี้เกรงว่าทนไม่ไหว ควบคุมไม่ไหวจริงๆ
แต่ที่ตรงนี้คือด้านหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเย่ เธอรู้ว่าคุณปู่เย่วางยาอย่างนี้กับเย่ซือเฉิน แล้วให้กู่หยิงหยิงมา คงต้องติดต่อนักข่าวไว้ด้วย เธอจึงกลัวนักข่าวจะเก็บภาพไว้ได้
และอีกอย่าง เธอก็กลัวว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จะออกมาตามหา เมื่อรู้ว่าเย่ซือเฉินไม่อยู่แล้ว
เวินลั่วฉิงกำลังคิดใคร่ครวญ ก็เห็นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เดินออกมาจริงๆ ยังมีกู่หยิงหยิงเดินร่วมพวกเขามาด้วย เป็นดังคาด เป็นอย่างที่เธอคาดเดาทุกประการ
“เย่ซือเฉิน ปล่อยฉัน พวกเราจำเป็นต้องไปจากที่นี่”เวินลั่วฉิงผลักเย่ซือเฉินออก ใบหน้ามีความร้อนรนหลายส่วน
“ไม่ ไม่ปล่อย”เวลานี้เย่ซือเฉินต้องไม่เชื่อฟังอย่างแน่นอน ตอนนี้ในสมองเขาไม่รับรู้เรื่องอื่นเลย
“เย่ซือเฉิน หากคุณไม่ปล่อยฉัน วันหลังก็อย่าคิดจะได้จูบฉันอีกเลย……”เวินลั่วฉิงรู้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินสติฟั่นเฟือน แต่เขายังคงได้ยินคำพูดของเธออยู่ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนวิธีสื่อสารในรูปแบบใหม่ วิธีหลอกล่อและข่มขู่ในเวลาเดียวกัน เพราะตอนนี้เวินลั่วฉิงก็ไม่มีวิธีอื่นให้ใช้แล้ว
แน่นอนเธอก็ไม่ได้คาดหวังกับวิธีการของเธอมากนัก
เวินลั่วฉิงคาดไม่ถึง เมื่อเย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเธอก็หยุดการกระทำลง ดวงตาทั้งคู่จ้องมองเธอ ใบหน้ามีความอยุติธรรมเจืออยู่หลายส่วน
“พวกเราไม่ทำตรงนี้ พวกเราไปหาที่ใหม่กัน”เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางของเขา รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมากะทันหัน
“เปลี่ยนที่แล้ว จูบได้เหรอ?”เย่ซือเฉินกะพริบตารัวๆ แววตามึนเบลอ ถามอย่างหัวรั้น
“อืม จูบได้”เวินลั่วฉิงพยักหน้าโดยเร็ว กลัวเขาไม่เชื่อ เธอเสริมอีกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว “ให้คุณจูบจนพอใจเลย”
“วันหลังอยากจูบก็ได้จูบเหรอ”เย่ซือเฉินมองหน้าเธอ ดวงตากะพริบรัวๆอีกครั้ง ถามอีกหนึ่งประโยค
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก หางคิ้วกระตุก คนนี้สมองมึนเบลอจริงๆ หรือเสแสร้งกันแน่?
ตรรกะการรับฟังครั้งนี้ชัดเจนมาก
เวินลั่วฉิงมองแววตาสะลึมสะลือของเย่ซือเฉิน และเห็นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เดินเข้ามาใกล้ทุกที จึงได้แต่พยักหน้าอีกครั้ง “อืม อยากจูบก็จูบได้”
ซึ่งขณะที่เวินลั่วฉิงพูดประโยคนี้ พลางกัดฟันกรอด รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล แต่ตอนนี้เธอสนใจอะไรมากไม่ได้
“ได้”จากนั้น เวินลั่วฉิงได้ยินเย่ซือเฉินรับปาก เย่ซือเฉินก็ปล่อยเธอออก
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก มุมปากกระตุกแรงๆ ไอ้บ้า เขาเสแสร้งจริงๆใช่ไหมเนี่ย?
แต่เวลานี้เวินลั่วฉิงไม่มีเวลาพิสูจน์ เขาปล่อยเธอออก เธอจึงรีบเดินไปด้านหน้ารถ แล้วขับรถออกไป
เมื่อคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่วิ่งออกมาถึงนอกประตูใหญ่ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงารถ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?ใช่เวินลั่วฉิงหรือเปล่า?”คุณปู่เย่เห็นทิศทางที่รถจากไป โกรธจนตาแดงเลยทีเดียว “ไอ้เวินลั่วฉิง
ไร้ยางอายจริงๆ มายั่วเย่ซือเฉินถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่เลย”
“หยิงหยิง คนนั้นเป็นเวินลั่วฉิงหรือเปล่า?”เมื่อสักครู่คุณย่าเย่ก็เห็นไม่ชัดเจน เพราะตอนพวกท่านออกมาถึง เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงก็ขึ้นรถแล้ว……
เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงเดินจากรถด้านหลังไปด้านหน้ารถด้วยความรวดเร็ว พวกเขาก็อยู่ห่างเล็กน้อย จึงเห็นไม่ชัดเจน
แต่ตอนที่พวกท่านเดินออกมา กู่หยิงหยิงอยู่ในลานบ้านแล้ว กู่หยิงหยิงน่าจะเห็นแล้ว
“หนูก็มองไม่ชัดค่ะ ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า?”กู่หยิงหยิงกะพริบตาปริบๆ อันที่จริง เมื่อสักครู่เธอเห็นชัดเจนมาก ผู้หญิงคนนี้คือถังฉิ้นเอ๋อ
แต่เธอไม่บอกคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เด็ดขาด
หากให้พวกท่านรู้ว่าเย่ซือเฉินกับถังฉิ้นเอ๋อคบกัน ถ้าเช่นนั้นเธอก็หมดสิทธิ์ไปโดยปริยาย
ตระกูลกู่ของพวกเธอเทียบกับตระกูลถังไม่ติด และเธอก็เทียบกับถังฉิ้นเอ๋อไม่ได้