ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 627 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 627 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (2)
บทที่ 627 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (2)
ตระกูลถังเพิ่งรับคุณหนูใหญ่อย่างถังฉิ้นเอ๋อกลับคืนสู่ตระกูล ซึ่งกลายเป็นบุคคลสำคัญในเมือง A และชายโสดในเมือง Aมีใครไม่อยากสู่ขอเธอบ้าง?แม้กระทั่งประธานาธิบดียังอยากแต่งงานสานสัมพันธ์กับตระกูลถังเลย
“ต้องเป็นเธอแน่ ไม่ผิดแน่ มีเพียงเวินลั่วฉิงเท่านั้นที่ไร้ยางอายอย่างนี้”คุณปู่เย่ด่าออกมา
“แล้วตอนนี้ทำยังไงดี?แผนการครั้งนี้ล้มเหลว วันหลังพวกเราก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ฉินฉินคงไม่หลงกลอีก”คุณย่าเย่รู้จุดนี้ดี ดังนั้นท่านยิ่งร้อนใจกว่าใครอื่น
ท่านคิดไม่ถึงว่า ท่านอุตส่าห์วางแผนอย่างรัดกุมทุกอย่าง ผลลัพธ์จะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
“ยังมีวิธีอะไรอีก เป็นอย่างที่คุณพูดแหละ เขาไม่มีทางหลงกลพวกเราอีก”คุณปู่เย่ยิงรู้สึกขุ่นเคือง
“หนูว่าหนูเป็นอะไรกัน?เขาโดนวางยาแล้วแท้ๆ หนูยังให้เขาหนีไปได้”เวลานี้คุณปู่เย่ถูกเพลิงโทสะเข้าครอบงำ เห็นกู่หยิงหยิงยืนอยู่ด้านข้าง อดตวาดเสียงใส่หนึ่งประโยคไม่ได้
“ใช่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?ถ้าตามหลักแล้วฤทธิ์ยาของเขาน่าจะออกตั้งนานแล้ว ทำไมหนูยังไม่……”คุณย่าเย่มองกู่หยิงหยิงด้วยแววตาไม่พอใจอยู่หลายส่วน แน่นอนยังมีความสงสัยเจืออยู่หลายส่วนเช่นกัน
“หนูถูกเขาทุบสลบค่ะ”เวลานี้กู่หยิงหยิงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอไม่เต็มใจยอมรับกับผลลัพธ์ที่ได้ แต่คุณชายสามเย่โหดร้ายมาก ทุบเธอให้สลบ แล้วเธอจะทำอะไรได้?
“หนูไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของเธอ สีหน้าพลันเปลี่ยนไป รีบถามขึ้นมา
“ยังดีอยู่ค่ะ ไม่เป็นอะไร”กู่หยิงหยิงก้มหน้าตอบเสียงเบาๆ
“อืม หนูไม่เป็นอะไรก็ดี เพียงแต่ผ่านคืนนี้ไป เกรงว่าหนูกับฉินฉินคง……”คุณย่าเย่ถอนหายใจเบาๆหนึ่งครั้ง ถึงแม้จะพูดไม่หมด แต่ความหมายนั้นชัดเจนมาก
กู่หยิงหยิงเข้าใจสิ่งที่คุณย่าเย่อยากจะสื่อ เพียงแต่เธอไม่เต็มใจยอมรับมัน แต่เธอรู้ดีว่า ถึงจะไม่เต็มใจเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
ขณะที่กู่หยิงหยิงหันหน้าไป ทันใดนั้นก็พบตรงพงหญ้ามีการเคลื่อนไหว
“มีนักข่าวค่ะ”กู่หยิงหยิงเกิดในชาติตระกูลเศรษฐี และเป็นผู้มีชื่อเสียงในเมืองA จึงเป็นเรื่องปกติที่มักจะมีนักข่าวค่อยสะกดรอยตาม เธอจึงเดาความเป็นไปได้นี้ได้ในเวลาฉับพลัน
นักข่าวในพงหญ้าถูกสังเกตพบ ลุกขึ้นยืนเตรียมจะวิ่งหนี
แต่อาจเป็นเพราะนั่งนานไปหน่อย ขาจึงชาไปหมด เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้วิ่งหนี อีกทั้งยังล้มสะเปะสะปะอยู่บนพื้นอีกด้วย
กู่หยิงหยิงเดินเข้าไปโดยเร็ว ก่อนจะแย่งกล้องถ่ายรูปของเขามา
“ทำไมข้างนอกมีนักข่าว?”คุณย่าเย่อุทานด้วยความตกใจ ไม่ใช่ติดต่อนักข่าวให้มาพรุ่งนี้เช้าหรอกเหรอ?
คุณย่าเย่นึกถึงบทสนทนาเมื่อสักครู่ของพวกท่าน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป“เร็ว ดูว่าเขาบันทึกอะไรไว้ได้บ้าง?”
หากบทสนทนาเมื่อสักครู่ของพวกท่านถูกแพร่กระจายออกไป ถึงเวลานั้นคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นเป็นแน่!
กู่หยิงหยิงเอากล้องถ่ายรูปเดินเข้ามาโดยเร็ว จากนั้นก็ตรวจดูสิ่งที่นักข่าวคนนั้นบันทึกได้
กล้องถ่ายรูปบันทึกทุกการกระทำของเย่ซือเฉินหลังจากออกจากบ้านมาได้ทั้งหมด
รวมไปถึงภาพตอนเย่ซือเฉินจูบเวินลั่วฉิงแรงๆ และรวมถึงภาพเย่ซือเฉินอุ้มเวินลั่วฉิงไปที่มุมใต้ผนัง แน่นอนยังมีรูปจูบกันตอนขึ้นรถแล้วอีกด้วย
แต่จับภาพตอนเย่ซือเฉินกดทับร่างเวินลั่วฉิงอยู่บนหญ้าปูพื้นไม่ได้ เพราะถูกขัดขวางการมองเห็น
ซึ่งในวิดีโอ การกระทำของเย่ซือเฉินนั้นบ้าคลั่ง ห้าวหาญ และทำตามอำเภอใจอย่างไม่ยำเกรงสิ่งใด
และในวิดีโอสามารถมองเห็นใบหน้าเย่ซือเฉินทุกระเบียบนิ้ว แต่กลับบันทึกใบหน้าของเวินลั่วฉิงไม่ได้
ตอนที่เวินลั่วฉิงเดินไปหาเย่ซือเฉิน นักข่าวจับภาพแผ่นหลังของเวินลั่วฉิง จากนั้นเย่ซือเฉินอุ้มเธอแล้วจูบเธอตลอดเวลา ดังนั้นจึงมองไม่เห็นใบหน้าของเธอเลย
คุณย่าเย่ดูวิดีโอ ดวงตาทั้งคู่พลันกะพริบถี่ๆ ทันใดนั้นคิดหาวิธีที่ท่านคิดว่าเป็นวิธีเด็ดสุดๆ
เวินลั่วฉิงขับรถออกจากคฤหาสน์ตระกูลเย่ ส่วนเย่ซือเฉินก็นั่งอยู่ข้างหลัง อยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่เกินสามนาที จากนั้นก็มากอดเธอจากด้านหลังต่อ จูบคอเธอจากด้านหลัง
“เย่ซือเฉิน ฉันขับรถอยู่”เวินลั่วฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว บ้าแล้วจริงๆ
เขามาจูบเธออย่างนี้ เธอจะขับรถยังไง?
“ผมรู้ แต่ ฉิงฉิง ผมทนไม่ไหวแล้ว……”เสียงเย่ซือเฉินในขณะนี้แหบแห้ง เขามองเธอ ได้กลิ่นกายเธอ เขาก็อดบ้าคลั่งไม่ได้
เวินลั่วฉิง“……”
เธอก็รู้ว่าเขาโดนมอมยา ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ดังนั้นเธอโมโหเขาไม่ได้
แต่เวินลั่วฉิงนึกขึ้นมาได้ว่า ฤทธิ์ยาของเขาออกตั้งนานแล้ว
ก่อนหน้านี้ กู่หยิงหยิงอยู่ในห้องของเขา แถมยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอีก ตอนนั้นทำไมเขาถึงทนไหวล่ะ?
“เมื่อกี้ตอนคุณอยู่ในห้องก็ยังทนไหวไม่ใช่เหรอ?คุณทนเหมือนก่อนหน้านี้อีกหน่อยสิ……”เวินลั่วฉิงอยากให้เขาอดกลั้นเฉกเช่นเมื่อสักครู่นี้
“ฉิงฉิง คุณพูดอย่างนี้ไม่มีหัวใจกันเลย”เย่ซือเฉินกอดเธอจากด้านหลัง ริมฝีปากเขาจูบที่ข้างหูเธอ ซึ่งมีลมหายใจเร่าร้อนที่ผิดปกติ
เวินลั่วฉิง“……”
เธอพูดอย่างนี้ทำไมถึงไม่มีหัวใจไปได้ล่ะ?
“คุณอยู่ข้างกายผม ผมทนไม่ได้เลยสักวินาทีเดียว และไม่อยากทนด้วย……”เย่ซือเฉินจูบใบหูของเธอไม่หยุด มือของเขากอดเธอไว้แน่นขึ้นเรื่อยๆ
ความหมายของเขาชัดเจนมาก ผู้หญิงคนอื่นถึงไม่ใส่เสื้อผ้ามายั่วเขา เขาก็ทนไหว แต่หากเปลี่ยนเป็นเวินลั่วฉิง เขาทนไม่ไหวแน่
ร่างกายเวินลั่วฉิงอดสั่นเทาไม่ได้ รู้สึกว่าลมหายใจเขาแพร่กระจายอยู่รอบหูของเธอไม่หยุดหย่อน ยิ่งไปกว่านั้นมีกลิ่นอายความเร่าร้อนส่งมาตามร่างกายของเขา จนทำให้เธอเริ่มร้อนตามไปด้วย
เวินลั่วฉิงแอบด่าทออยู่ในใจ จากนั้นก็เหยียบคันเร่งกะทันหัน โชคดีที่เธอเคยฝึกฝนเทคนิคการขับรถขั้นเทพมาก่อน แน่นอนว่าเคยฝึกฝนความอดทนกับการควบคุมตัวเองด้วยเช่นกัน
เวินลั่วฉิงใช้ความเร็วสูงสุดขับเคลื่อนรถยนต์ไปยังวิลล่าของเย่ซือเฉิน เธอจอดรถ เย่ซือเฉินชะงัก จากนั้นก็ปล่อยตัวเธอ
เวินลั่วฉิงรีบลงจากรถ เย่ซือเฉินก็ลงตามเธอไปด้วย จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมา เดินไปยังประตูทางเข้า
ประตูเปิดได้ด้วยรหัส เย่ซือเฉินอุ้มเธอ พลางยื่นนิ้วมือออกไปกดเสร็จ ประตูก็เปิดออก เขาจึงอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน เท้าขวาถีบปิดประตู
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีอุปสรรคเลยสักนิด
ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบเร็วๆ ตอนนี้คุณชายสามเย่มีสติอีกแล้ว?
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า เวลาที่คุณชายสามเย่ควรมีสติก็มี ควรมึนเบลอก็เบลอจริงๆ ทำไมถึงรักษาสมดุลได้อย่างเหมาะสมจัง
ความคิดเวินลั่วฉิงกำลังแล่นพล่าน เย่ซือเฉินก็กดเธอไว้ที่ผนัง จากนั้นก็จูบเธออย่างบ้าบิ่น
เขาทนมานานแล้ว ตอนนี้ถึงบ้านเสียที เขาไม่ต้องทนอีกต่อไปแล้ว
ครั้งนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้ดิ้นออกจากเขา และไม่ได้ห้ามเขา ตอนนี้ถึงเธออยากห้ามเขาก็ห้ามเขาไม่อยู่เป็นแน่
เขาสามารถทนมาถึงตอนนี้ได้ ถือว่ามีความอดกลั้นที่น่าตะลึงมากแล้ว