ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 632 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (7)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 632 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (7)
บทที่ 632 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (7)
“ผมตั้งใจสังเกตผู้หญิงในวิดีโอดูแล้วครับ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เวินลั่วฉิงจริงๆครับ”เห็นได้ชัดว่ามีคนไปพิสูจน์วิดีโอมาแล้ว ซึ่งคนนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจเป็นอย่างยิ่ง
“ใช่ ไม่ใช่เวินลั่วฉิงแน่ๆ ถึงแม้วิดีโอจะจับภาพหน้าตรงๆไม่ได้ แต่ใบหน้าด้านข้างชัดเจนมาก ในวิดีโอ หางตาผู้หญิงกว้างมาก ดังนั้นดวงตาน่าจะใหญ่กลม แต่หางตาของเวินลั่วฉิงยกขึ้น ดวงตาก็เล็ก ซึ่งทั้งสองคนมีดวงตาไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง”
“อีกอย่างผมแคปภาพมาขยายดู แน่ใจว่าใบหน้าผู้หญิงคนนั้นไม่มีกระ ดังนั้นผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เวินลั่วฉิงครับ”เห็นได้ชัดว่ามีนักข่าวลงทุนลงแรงมาก สังเกตได้อย่างละเอียดมาก
“ไม่ผิดหรอกค่ะ ผู้หญิงในวิดีโอไม่ใช่เวินลั่วฉิงจริงๆ”มีคนเริ่มเห็นด้วยกับนักข่าวที่เพิ่งพูดก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนไม่น้อยก็สังเกตถึงจุดนี้ได้
“ผมไปค้นรูปถ่ายใบหน้าด้านข้างของคุณกู่มาครับ พบว่ามีความคล้ายคลึงกันมากครับ บวกกับเสื้อผ้าและทรงผม ผู้หญิงในวิดีโอน่าจะเป็นคุณกู่นะครับ”หน้าที่ของนักข่าวก็คือขุดร่องรอยทุกอย่างที่สามารถขุดออกมาได้
แต่สิ่งที่นักข่าวไม่รู้ก็คือ รูปถ่ายด้านข้างของกู่หยิงหยิง อันที่จริงเพิ่งถ่ายเมื่อคืน พอผ่านการปรับแต่งเสร็จค่อยนำไปลงบนโซเชียล
“เฮ้อ คำพูดผู้ชายเชื่อถือไม่ได้เลยจริงๆ คิดไม่ถึงว่าคุณชายสามเย่จะเป็นคนแบบนี้”นักข่าวสาวคนหนึ่งเผยความผิดหวังออกมาหลายส่วน
“เรื่องนี้จะไปโทษคุณชายสามเย่ได้ยังไง คุณดูคุณกู่ แล้วดูเวินลั่วฉิงอีกทีสิ คนหนึ่งดั่งเทพธิดา ส่วนอีกคนเหมือนกับแก้วหน้าม้า ขอแค่ตาไม่บอดก็ต้องเลือกคุณกู่กันทั้งนั้นแหละ”มีคนโต้แย้งช่วยคุณชายสามเย่พูดทันที จะว่าไป คนนี้ก็พูดถูกเหมือนกัน
“แล้วการสารภาพรักของคุณชายสามเย่หมายความว่ายังไงล่ะ?”นักข่าวสาวไม่ยอมแพ้ คุณชายสามเย่มีสิทธิ์เลือก แต่ทำไมตอนกลางวันถึงได้พูดเช่นนั้น?
“ผู้ชายแค่แสดงละครเล่นๆ มีเพียงผู้หญิงโง่ๆอย่างพวกคุณถึงจะคิดเป็นจริง เชื่อมั่นในความรัก ความรักคืออะไร?กินแทนข้าวได้ไหม?”มีคนอดหัวเราะเยาะไม่ได้
ใบหน้านักข่าวสาวแดงระเรื่อ ไม่ได้โต้เถียงอีก
“คุณย่าเย่ครับ ได้หาฤกษ์แต่งงานของคุณชายสามเย่กับคุณกู่หรือยังครับ?”มีคนเริ่มถามกำหนดการแต่งงาน แน่นอนมันคือสิ่งที่ทุกคนอยากทราบ
“ดูไว้แล้วค่ะ สักครู่จะประกาศออกมานะคะ”คุณย่าเย่ยังคงอมยิ้ม สำหรับคำถามนี้ ท่านยิ่งไม่หลีกเลี่ยง แต่ตอบอย่างแน่ชัดมากมาย
เวินลั่วฉิงอดหัวเราะไม่ได้ หาฤกษ์แต่งงานแล้ว?ไม่รู้ว่าใครกับใครไปหามา?
“คุณย่าเย่คนนี้จัดการเก่งจริงๆเลย”ท่านย่าถังคลายคำหยาบออกมา“หล่อนไม่กลัวจะถูกตบหน้า(ถูกเปิดโปง)หรือไง”
“หล่อนมั่นใจว่าผู้หญิงในวิดีโอไม่ใช่เวินลั่วฉิง ดังนั้นเรื่องนี้จึงอยู่ในการควบคุมของหล่อน”ความคิดความอ่านของคุณย่าเย่นั้นดูไม่ยาก เฟิ่งเหมียวเหมียวอดเสริมอีกหนึ่งประโยคไม่ได้“หากให้คุณย่าเย่ทราบว่าผู้หญิงเมื่อคืนก็คือเวินลั่วฉิง ไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไงบ้าง?”
“เรื่องวุ่นวายขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่เห็นเย่ซือเฉินออกมาพูดอะไรเลย?เขาหมายความว่ายังไง?”ท่านย่าถังก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของตาเฒ่าแก่ตระกูลเย่ทั้งสองคน แต่เย่ซือเฉินล่ะ?เขาไม่ออกมาแก้ไขหน่อยเหรอ?
“ใช่แล้ว เกิดเรื่องอย่างนี้ ตามหลักแล้วเย่ซือเฉินไม่น่าจะเงียบอย่างนี้นะ”ใบหน้าเฟิ่งเหมียวเหมียวมีความสงสัยหลายส่วน
ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบเร็วๆ คาดว่าเวลานี้เย่ซือเฉินยังไม่ตื่นนอน เมื่อคืนเขาเหนื่อยมาก ก่อนหน้านั้นเขากลั้นอารมณ์ใคร่ไว้อย่างนั้นมันเป็นผลเสียต่อร่างกายมาก
“อาจเป็นเพราะเมื่อคืนเหนื่อยมาก ยังไม่ตื่นมั้ง”ถังหลินมองเวินลั่วฉิง พูดตรงเหลือเกิน
“เป็นไปได้ยังไง?ฉิงฉิงก็กลับมาแล้ว เขายังไม่ตื่นเหรอ?ร่างกายเขาแย่มากเลยนะ”เฟิ่งเหมียวเหมียวว่าไปตามเนื้อผ้าหนึ่งประโยค
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียว ใบหน้าก็แดงขึ้นมาทันที……
ดวงตาเวินลั่วฉิงค่อยๆมองต่ำ ไม่กล้าสบตากับใคร เห็นได้ชัดว่ารู้สึกละอายใจ
ถังจื่อโม่เม้มปาก จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆหนึ่งเฮือก ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้ก็คือแม่ของเขาไปช่วยคนทั้งคืน เมื่อช่วยตลอดทั้งคืนแล้ว จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็กลายเป็นคนอื่น?
เวลาต่อมา มีข่าวใหม่รายงานเข้ามาไม่ขาดสาย ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับข่าวแต่งงานตระกูลเย่กับตระกูลกู่ทั้งสิ้น
เมื่อวานคุณกู่ไปเป็นแขกบ้านตระกูลเย่ นอกประตูใหญ่ตระกูลเย่ คุณชายสามเย่กับเธอจุมพิตกันอย่างอาลัยอาวรณ์
คุณกู่กับคุณชายสามเย่นัวเนียกันทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นถึงออกจากโรงแรม
ข่าวดีของคุณชายสามเย่กับคุณกู่ใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งได้รับข่าวจากคุณย่าเย่ว่าจะจัดงานเมื่อไหร่
กำหนดการแต่งงานระหว่างตระกูลเย่กับตระกูลกู่
สื่อทุกแขนงต่างรายงานเรื่องนี้อย่างยาวเหยียด
แน่นอน สถานการณ์เช่นนี้ เวินลั่วฉิงก็พลอยโดนวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย
แค่หัวข้อรายงานข่าวจากสื่อต่างๆก็มากมายเกินพอ
คุณหนูเวินกลายเป็นภรรยาถูกทอดทิ้งชั่วค่ำคืน
คุณหนูเวินเป็นแค่แก้วหน้าม้า จะไปสู้ความโปรดปรานกับคุณกู่ที่สวยดั่งเทพธิดาได้อย่างไร?
เวลานี้คุณหนูเวินร้องไห้เป็นลมอยู่กลางห้องน้ำ
คุณหนูเวินจะออกมาแย่งชิงไหม เพราะเมื่อวานคุณชายสามเย่เพิ่งสารภาพผ่านสื่ออยู่หมาดๆ
รอคอยคุณหนูเวินกลับมาอย่างแข็งแกร่ง ใช้ใบหน้าแก้วหน้าม้าสยบศัตรูความรักให้สิ้นซาก
ใบหน้าแก้วหน้าม้าของคุณหนูเวินไม่เพียงแต่ทำให้ศัตรูความรักตกใจหนี แม้แต่คุณชายสามเย่ก็ใช่ ใบหน้าไดโนเสาร์ของคุณหนูเวิน คาดว่าสามารถทำให้คุณชายสามเย่ตกใจ จน‘เข่าอ่อน’ไปเลย
สรุปก็คือพูดทุกอย่าง ซึ่งล้วนเป็นการแดกดันและเย้ยหยันเวินลั่วฉิงทั้งหมด
“ดูท่าจะไม่หยุดง่ายๆแน่ แล้วตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี?”เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดประโยคนี้ออกมา พลางเงยหน้ามองเวินลั่วฉิง
เพราะเรื่องนี้ต้องดูว่าฉิงฉิงจะทำอย่างไร
“ฉิงฉิง หรือหนูประกาศสถานะของหนูออกไปเลย?”หากสถานการณ์ในตอนนี้ เวินลั่วฉิงใช้ใบหน้าที่แท้จริงพบปะสังคม คงต้องทำให้พวกเขาตบปากตัวเองเป็นแน่
“ไม่ได้”เวินลั่วฉิงส่ายหัว หากเธอเปิดเผยสถานะในเวลานี้ ต้องลากตระกูลถังเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และสถานะของตระกูลถังนั้นไม่ธรรมดา มีคนจ้องจับตามองตระกูลถังอยู่ตลอดเวลา รอจับพิรุธของตระกูลถัง
“ให้ตระกูลเย่วุ่นวายต่อไป ดูสิว่าไอ้แก่บ้านตระกูลเย่จะทำถึงขั้นไหน?”เห็นได้ชัดว่าท่านย่าถังโกรธจัด เพราะผู้ใหญ่ตระกูลเย่ทั้งสองทำเกินไปจริงๆ
“ฉิงฉิง หากเรื่องบั่นทอนจิตใจยังไม่แก้ไข หนูห้ามไปเจอหน้าเย่ซือเฉินอีก”ท่านย่าถังมองไปยังเวินลั่วฉิง เสริมอีกหนึ่งประโยค
เจตนารมณ์ของท่านย่าถังชัดเจนมาก ไม่ให้เวินลั่วฉิงออกหน้าคลี่คลายสถานการณ์เอง แต่มอบหน้าที่นี้ให้เย่ซือเฉินเป็นคนจัดการแก้ไขปัญหาทั้งหมด
เรื่องภายในบ้านตระกูลเย่ เดิมทีก็ควรเป็นเย่ซือเฉินแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว
เวินลั่วฉิงเข้าใจเจตนารมณ์ของท่านย่าถังดี เมื่อวานเป็นกรณีพิเศษ แต่เรื่องเย่ซือเฉินถูกวางยาปลุกเซ็กส์ เวินลั่วฉิงก็สะดวกพูดต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ เพราะเวลานี้ถังจื่อโม่ยังจ้องตาโตเธออยู่
เวินลั่วฉิงกลับเข้าห้องก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว ซึ่งเวลานี้เย่ซือเฉินตื่นนอนพอดี……