ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 652 หึงหวงจนโมโห (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 652 หึงหวงจนโมโห (3)
บทที่ 652 หึงหวงจนโมโห(3)
หลิวหยิงขมวดคิ้วแน่น เธอที่เขาพูดถึงคือใคร?หลิวหยิงสงสัยว่าเป็นเวินลั่วฉิงหรือเปล่า?
แต่เธอรู้สึกไม่ใช่
“คุณกลับไปเถอะ ผมไม่เป็นอะไร”ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้อธิบาย มองหลิวหยิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มไล่แขก น้ำเสียงมีความท้อแท้ใจอย่างสิ้นหวัง
หลิวหยิงมองเขา ไม่ได้จากไปและไม่ได้พูดอะไร
สภาพเขาตอนนี้จะให้เธอวางใจออกไปได้อย่างไร?เธอรู้สึกว่าช่วงนี้ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ
แต่ดูจากท่าทีของไป๋ยี่รุ่ยตอนนี้ คงไม่เล่าให้เธอฟังหรอก
เธอรู้สึกว่ายามนี้เขาท้อแท้ใจ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เหมือนกับคนที่รอคอยความตาย รอคอยความตายอย่างหมดอาลัยตายอยาก!!
เกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่มที่อายุไม่ถึงสามสิบปี ถึงกลับรอตายอย่างนี้?
ครั้งที่แล้วหลังเวินลั่วฉิงจากไป เขาก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้ ถึงตอนนั้นเขาจะเสียใจ แต่ก็ให้ความร่วมมือคุณหมอ
รักษาอาการอย่างเต็มที่ เธอดูออกว่าตอนนั้นเขาอยากดีขึ้นเร็วๆ
ดังนั้นที่ไป๋ยี่รุ่ยเป็นอย่างนี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิง
“ช่วงนี้คุณได้ติดต่อฉิงฉิงไหม?”หลิวหยิงรู้ว่าถึงเขาจะไม่สนใจเรื่องอื่น แต่เขาต้องใส่ใจเรื่องเวินลั่วฉิงแน่นอน
หลิวหยิงรู้ว่ามีเพียงเรื่องของเวินลั่วฉิง ถึงสามารถดึงเขาออกจากห้วงการรอตายอย่างสิ้นหวังได้
ดังคาด เมื่อไป๋ยี่รุ่ยได้ยิน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป แต่เขาก็กลับมาเรียบเฉยในไม่ช้า “ไม่ได้ติดต่อ ผมคิดว่าตอนนี้เธอมีความสุขดี ไม่ติดต่อคือสิ่งที่ดีที่สุด”
ท่าทีที่เวินลั่วฉิงปฏิเสธเขาชัดเจนมาก ครั้งก่อนเขาไม่ได้รั้งเธอไว้ เพราะเขารู้ว่าตัวเองควรตายใจได้แล้ว
ต่อมาเขาจ้างคนไปสืบเรื่องเธอกับเย่ซือเฉิน และอีกอย่างเย่ซือเฉินแทรกมือเข้ามาดูแลบริษัทเวินซื่อกรุ้ป เขารู้ว่าเย่ซือเฉินทำเพื่อเธอ
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจวางมือ
“แต่ช่วงนี้เธออยู่ไม่เป็นสุขเลย คุณไม่รู้เหรอ?”อันที่จริงหลิวหยิงรู้ดีว่าเรื่องพวกนั้นไม่เหลือบ่ากว่าแรงเวินลั่วฉิงหรอก หลิวหยิงแค่ไม่อยากให้ไป๋ยี่รุ่ยจมปลักอยู่กับความเศร้าต่อไป
“เธอเป็นอะไร?”ไป๋ยี่รุ่ยตอบสนองในที่สุด สีหน้ามีความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงมีความร้อนใจหลายส่วน ไม่หดหู่เฉกเช่นเมื่อสักครู่นี้แล้ว
เขาคิดว่ามีเย่ซือเฉินอยู่ทั้งคน เธอจะมีความสุข ดังนั้นเขาเลือกที่จะปล่อยมือ
“ช่วงนี้คุณไม่ดูข่าวบ้างเลยเหรอ?”หลิวหยิงได้ยินเขาพูด พลางขมวดคิ้ว ช่วงนี้เรื่องฉิงฉิงเอิกเกริกมากมาย แต่ไป๋ยี่รุ่ยกลับไม่ประสีประสา?
มันไม่ถูกนี่?
“คุณยืมมือถือผมหน่อย”ไป๋ยี่รุ่ยลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ประโยคแรกคือยืมมือถือของหลิวหยิง
หลิวหยิงตกใจเล็กน้อย ยิ่งรู้สึกสงสัย ไป๋ยี่รุ่ยยืมมือถือเธอ?แล้วมือถือเขาล่ะ?
แต่หลิวหยิงไม่ได้ตอบ แค่ยื่นมือถือของตนไปให้เขา
ไป๋ยี่รุ่ยรีบรับมือถือมา จากนั้นก็เริ่มค้นหาเรื่องของเวินลั่วฉิง
เห็นวิดีโอพวกนั้น เห็นกล่องแสดงความคิดเห็นพวกนั้น สีหน้าไป๋ยี่รุ่ยก็ดูแย่มาก “ทำไมเป็นแบบนี้?”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันเคยโทรหาฉิงฉิงแล้ว ฉิงฉิงบอกว่าเรื่องหลายๆอย่างเป็นเรื่องปลอม”หลิวหยิงเห็นการตอบสนองของเขา
รู้สึกเจ็บปวดมาก แต่ตอนนี้เธอได้แต่ยิ้มปลอบใจเขา
“เย่ซือเฉินล่ะ เกิดเรื่องมากมายอย่างนี้ เย่ซือเฉินไม่สนใจเหรอ?”ไป๋ยี่รุ่ยหรี่ตา น้ำเสียงมีความเย็นหลายส่วน
“ฉิงฉิงบอกว่าคุณชายสามเย่จะจัดการเอง”เดิมที่หลิวหยิงไม่ได้พูดถึงเย่ซือเฉิน แต่ในเมื่อเขาถามอย่างนี้ เธอก็ต้องตอบไปตามความจริง
อันที่จริงเธอรู้ว่าคุณชายสามเย่เป็นห่วงเวินลั่วฉิงมาก รักเวินลั่วฉิงมาก ดังนั้นคุณชายสามเย่ไม่ปล่อยให้เวินลั่วฉิงเกิดเรื่องร้ายๆหรอกแต่หลิวหยิงไม่ได้พูดประโยคนี้ออกไป
เธอไม่อยากกระทบกระเทือนจิตใจไป๋ยี่รุ่ย
ไป๋ยี่รุ่ยที่กุมมือถือไว้สั่นระริก มุมปากก็สั่นเล็กน้อย“ผมรู้ ความสามารถของเย่ซือเฉิน คงจัดการได้แน่ ผมยังรู้อีกว่าเย่ซือเฉินรักเธอดังนั้นผมจึงตัดสินใจวางมือ”
หลิวหยิงกะพริบเร็วๆ เขาตัดสินใจปล่อยมือ?ปล่อยมือเวินลั่วฉิง?
“หรือชั่วชีวิตนี้สิ่งที่ผมสามารถทำเพื่อเธอได้เพียงอย่างเดียวก็คือ ปล่อยมือ จากนั้นก็มองเธอมีความสุข”มุมปากไป๋ยี่รุ่ยยกขึ้น คล้ายอยากจะยิ้ม แต่ยิ้มไม่ออก
หลิวหยิงรู้ว่าเขาต้องปวดใจมากๆ
รักถึงขั้นยอมปล่อยมือเพื่อเธอ เพื่อให้เธอมีความสุข รักอย่างนี้มันลึกขนาดไหนกัน?
“เธอต้องมีความสุขแน่”หลิวหยิงรู้ว่าเวินลั่วฉิงต้องมีความสุขแน่ๆ
แต่ไป๋ยี่รุ่ยล่ะ?เขาปล่อยมือเพื่อความสุขของเวินลั่วฉิง แล้วตัวเขาล่ะ?
เธอล่ะ?สัญญาห้าปีระหว่างเธอกับมู่หรงซือถูใกล้จะถึงแล้ว อนาคตเธอจะเป็นแบบไหนกัน?
เธอรักไป๋ยี่รุ่ยมาตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับรู้ว่า เธอไม่อาจเข้าไปอยู่ในใจของไป๋ยี่รุ่ยได้ ไม่มีทางตลอดกาล เพราะในใจไป๋ยี่รุ่ยมีเวินลั่วฉิงเต็มหมดแล้ว ไม่มีที่ให้คนอื่นอีก
“หลิวหยิง คุณช่วยผมซื้อมือถือหน่อยได้ไหม?”
ความคิดหลิวหยิงกำลังแล่นพล่าน ได้ยินคำพูดของไป๋ยี่รุ่ยก็ต้องชะงัก
ไป๋ยี่รุ่ยจะให้เธอช่วยซื้อมือถือ?
แล้วมือถือของเขาล่ะ?มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ช่วงนี้ไป๋ยี่รุ่ยผ่านอะไรมากันแน่?
“ได้ เดี๋ยวฉันไปช่วยคุณซื้อ คุณอยากได้แบบไหน?”หลิวหยิงเก็บความสงสัยไว้ รีบตอบรับ
“อะไรก็ได้ เข้าเน็ตได้ก็พอ”ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้เรียกร้องสูง ไม่สูงเลยจริงๆ
แต่หลิวหยิงไม่เข้าใจ เขาเป็นถึงระดับประธานบริษัททำไมไม่มีกระทั่งมือถือ?
“วันหลังผมจะคืนเงินที่ซื้อมือถือให้”ไป๋ยี่รุ่ยลังเลสักพัก จากนั้นก็เสริมขึ้นมาหนึ่งประโยคอย่างลำบากใจ
หลิวหยิงยิ่งตกตะลึง เธอไม่ได้อยากให้เขาคืนเงิน แต่ฟังจากความหมายที่เขาพูด เขาที่เป็นประธานบริษัทไม่มีแม้กระทั่งเงินซื้อมือถือ?
ช่วงนี้ไม่ได้ยินว่าบริษัทของเขาเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรเลย?ตามหลักแล้วไม่น่าเป็นเช่นนี้นี่?
แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“รบกวนคุณแล้ว”แต่ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้อธิบาย เห็นได้ชัดว่าไม่อยากพูดมาก
หลิวหยิงจึงเข้าใจว่าต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่ๆ และเธอคิดว่าปัญหานี้รุนแรงมาก
คนแบบไหนเอามือถือของไป๋ยี่รุ่ยไป?ใครยึดเงินของไป๋ยี่รุ่ย?
อาการท้อแท้อย่างสิ้นหวังของไป๋ยีรุ่ยก่อนหน้านี้ มันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่?
ใครที่โหดร้ายเพียงนี้?คนนั้นทำอะไรกับไป๋ยี่รุ่ย?
“ช่วงนี้คุณไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหม ฉันช่วยคุณซื้อนะ”หลิวหยิงเห็นหน้าที่ซีดขาว ร่างกายที่ผอมแห้งของเขา เธอก็รู้สึกเจ็บปวด
“ได้”ครั้งนี้ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้ปฏิเสธ ไม่รอคอยความตายเฉกเช่นเมื่อสักครู่นี้แล้ว
“อยากกินอะไร?”หลิวหยิงอมยิ้ม เธอรู้ว่าที่เขายืนขึ้นมาสู้อีกครั้งเพราะเวินลั่วฉิง เธอคิดว่า เขาอยากเห็นเวินลั่วฉิงมีความสุข เขาคงต้องอยากมีชีวิตต่อไปแน่นอน