ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 668 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 668 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (2)
บทที่ 668 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (2)
“หลานตกลงก็พอ ขอแค่หลานตกลงก็พอแล้ว”คุณย่าเย่คิดว่าเย่ซือเฉินโทษพวกท่านที่ตัดสินใจแทนก่อน แต่ขอเพียงเขาตอบตกลงก็พอ ขอแค่เขาตกลงทุกอย่างก็ง่ายแล้ว
“ผมตกลงหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นคือเรื่องนี้ตระกูลถังไม่ยอมผ่อนปรนแน่……”มุมปากเย่ซือเฉินเผยรอยยิ้มออกมาเป็นยิ้มที่แปลกประหลาดมาก
“ฉินฉิน?หลานพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลถังได้ยังไง?”คุณย่าเย่หยุดชะงัก ใบหน้ามีความสงสัยหลายส่วน
คุณปู่เย่ก็มีใบหน้าที่ข้องใจ
เย่ซือเฉินเงยหน้ามองไปยังทั้งสองท่านที่ยังยืนอยู่บนบันได จากนั้นก็ค่อยๆเปิดปากพูดว่า “พวกท่านรู้อยู่เต็มอกว่า ผู้หญิงในวิดีโอไม่ใช่กู่หยิงหยิง”
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ได้ยินเย่ซือเฉินพูดก็ชะงัก แต่รับรู้ได้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินไม่ได้มีทีท่าจะต่อว่ามากนัก
“ใช่ พวกย่ารู้ว่าไม่ใช่กู่หยิงหยิง แต่ก็ไม่ใช่เวินลั่วฉิงอย่างแน่นอน”คุณย่าเย่กะพริบตา พลางตอบหนึ่งประโยค
เย่ซือเฉินมองหน้าท่าน ทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้นมา มุมปากของเขาอ้าขึ้น เปล่งทีละคำช้าๆ “ผู้หญิงคนนั้นคือถังฉิ้นเอ๋อ คุณหนูใหญ่ที่ตระกูลถังเพิ่งตามหาเจอ”
เย่โป๋เหวินที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆมาโดยตลอด เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉิน หน้าเปลี่ยนสี แต่เขาเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ สีหน้าตกใจจึงลบเลือนไปได้ แววตามีความมืดครึ้มหลายส่วน เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่!
“หลาน?หลานว่าอะไรนะ?หลานบอกว่าผู้หญิงคนนั้นคือถังฉิ้นเอ๋อ?มัน?มันเป็นไปได้ยังไง?”ชั่วฮึดใจเดียว คุณย่าเย่ก็ตะลึงงัน ท่านรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่กู่หยิงหยิง ท่านยังดูออกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เวินลั่วฉิงอีกด้วย
แต่ท่านคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นถังฉิ้นเอ๋อไปได้?
มันเป็นไปได้ยังไง?เป็นถังฉิ้นเอ๋อได้ยังไง?
เย่ซือเฉินไม่ได้พูดจา เพียงแต่ยิ้มบางๆ ความหมายชัดเจนมาก
“ไม่ ไม่ถูกสิ ทำไมถังฉิ้นเอ๋อต้องมาบ้านตระกูลเย่ในเวลาตอนนั้นด้วย?”คุณย่าเย่ยังคงไม่เชื่อ ถังฉิ้นเอ๋อเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง เธอจะมาที่บ้านตระกูลเย่ในเวลาอย่างนั้นได้ยังไง?จะ……กับเย่ซือเฉินได้ยังไง
“ฮือ?ผมโทรหาเธอเอง”คิ้วเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อย ตอบกลับอย่างสบายๆ
คุณย่าเย่ถอนหายใจแรงๆหนึ่งครั้ง“หลาน?ทำไมหลานต้องโทรหาถังฉิ้นเอ๋อด้วย?”
“ผมโดนยาพิษแบบนั้น?ไม่ใช่ต้องการผู้หญิงมาช่วยหรอกเหรอ?ผมเลยโทรหาถังฉิ้นเอ๋อ”คุณชายสามเย่พูดถูกหลักการ เวลานี้สิ่งที่คุณชายสามพูดนั้นเป็นความจริง ไม่มีลวงโลกเลยสักนิด
เพียงแต่คนอื่นไม่เข้าใจ คุณชายสามเย่ก็ไม่อยากให้พวกเขาเข้าใจด้วย
“พวกท่านวางยาอะไรให้ผม พวกท่านรู้ดีที่สุด ดังนั้นคืนนั้นผมกับคุณถังเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกท่านก็น่าจะรู้ดีมากที่สุด”เย่ซือเฉินมองหน้าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ที่หน้ามึนตึ้บ เสริมประโยคที่ไม่สะเทือนก็ไม่ยอมราวีขึ้นมา
ร่างกายคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่แข็งค้าง
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คิดอยู่ในใจตรงกัน ซึ่งก็คือเย่ซือเฉินโดนยาอย่างนั้น จากนั้นก็โทรหาถังฉิ้นเอ๋อ จากนั้นเย่ซือเฉินก็ย่ำยีคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง!!
สถานการณ์อย่างนี้ ถึงคุณหนูตระกูลถังจะฟ้องเย่ซือเฉินในโทษฐานข่มขืนก็ถือว่ามีมูล?!
“ทำไมถึงเป็นถังฉิ้นเอ๋อ?อาการของหลาน ทำไมถึงคิดโทรหาถังฉิ้นเอ๋อได้?”คุณย่าเย่ได้สติ รีบถามอีกหนึ่งประโยคโดยพลัน
ยามนี้น้ำเสียงของท่านมีความสั่นเทาหลายส่วน
“ย่าถามผม?”เย่ซือเฉินมองหน้าท่าน จงใจยกคิ้วสูงขึ้น“ย่าถามผม ผมไปถามใคร?แต่วันรุ่งขึ้นผมตื่นมา ถังฉิ้นเอ๋อก็นอนอยู่ข้างกายผมแล้ว……”
ไม่มีคำพูดไหนหนักกว่าคำพูดของคุณชายสามเย่นี้แล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมา คนก็นอนอยู่ข้างกายเขาแล้ว!!
คนก็นอนอยู่ข้างกายเขา!
แน่นอน เวลานี้เย่ซือเฉินพูดเช่นนี้ คุณย่าเย่ยิ่งเชื่อเสียสนิทใจ เพราะคุณย่าเย่รู้ว่าเมื่อกินยาแบบนั้นแล้ว จะสูญเสียความทรงจำได้ชั่วคราว
คุณย่าเย่คิดว่า อาจเป็นเพราะเย่ซือเฉินกดโดนเบอร์ของถังฉิ้นเอ๋อ
“หลานไม่น่าจะสนิทกับถังฉิ้นเอ๋อนะ คืนนั้น ถังฉิ้นเอ๋อได้รับสายของหลานก็มาหา มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?”คุณย่าเย่รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจทางด้านถังฉิ้นเอ๋อเล็กน้อย
“พวกท่านน่าจะรู้ ถังฉิ้นเอ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรม คนอย่างเธอชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมากอยู่แล้ว……”เย่ซือเฉินยักไหล่อย่างแบบธรรมชาติ
คุณชายสามเย่เป็นสุนัขจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์ที่สุด ประโยคนี้ของเขา สามารถจี้จุดสงสารของคุณย่าเย่กับคุณปู่เย่ได้อย่างหมดจด
ตอนที่คุณปู่เย่แกล้งเจ็บขา เพื่อใส่ร้ายเวินลั่วฉิง พวกท่านก็ถูกถังฉิ้นเอ๋อเป็นผู้เปิดโปงเรื่องนี้
ดังนั้นพวกเขาเห็นด้วยกับคำที่ว่า ถังฉิ้นเอ๋อชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน เพราะพวกเขาสัมผัสมาแล้ว!
“เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น เดิมที่คุณหนูถังจะฟ้องผม”เย่ซือเฉินไม่ปล่อยให้พวกเขามีเวลาคิดนาน จากนั้นก็โยนระเบิดลงมาอีกหนึ่งลูก
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่หน้าเปลี่ยนสี สถานการณ์เช่นนั้น หากคุณหนูถังจะฟ้อง เกรงว่า……
หากเป็นลูกสาวบ้านคนทั่วไปก็ยังพอว่า แต่นั่นมันคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลถังเลยนะเนี้ย……
นั่นมันตระกูลถัง!
เย่ซือเฉินเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาก็แอบหัวเราะในใจ จากนั้นก็พูดต่อว่า “เมื่อวันทั้งวัน ผมเอาของไปขอขมา ทั้งขอโทษทั้งเกลี้ยกล่อม ทั้งเอาใจ ดูดีด้วยทุกอย่าง ผมบอกว่าจะรับผิดชอบเธอ ผมจะสู่ขอเธอ คุณหนูตระกูลถังจึงรับปากไม่ฟ้องผมแล้ว……”
เย่ซือเฉินจงใจหยุดพูดชั่วคราว จากนั้นสีหน้าก็เคร่งขรึมทันที“แต่ผมคาดไม่ถึงว่าพวกท่านจะหมั้นหมายผมกับตระกูลอื่น และยังกำหนดฤกษ์ไว้แล้ว แถมยังประกาศออกสู่สาธารณะแล้วอีกด้วย”
ร่างกายที่แข็งค้างของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่อดสั่นเทาไม่ได้ ที่พวกเขาทำอย่างนั้น เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคืนนั้นเป็นถังฉิ้นเอ๋อ
หากพวกเขารู้ จะไม่ยอมประกาศเรื่องงานแต่งกับตระกูลกู่เด็ดขาด
“พวกท่านน่าจะรู้ว่าตระกูลถังหวงแหนและให้ความสำคัญกับคุณหนูใหญ่ที่เพิ่งตามตัวกลับมาได้ยังไง ตอนนี้ตระกูลถังเลี้ยงดูคุณหนูถังคนนี้แบบมดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม แต่ผมกลับได้คุณหนูถังแล้วทิ้ง……”สิ่งที่เย่ซือเฉินต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้ เวลานี้ถือว่าเขาพอใจแล้ว แต่บางคำเขายังจำเป็นต้องพูดต่อ “อืม พวกท่านน่าจะรู้ผลที่จะเกิดขึ้นนะ?”
คุณชายสามเย่ใช้คำว่า ได้แล้วทิ้ง ซึ่งฟังดูแล้วยิ่งซับซ้อนวุ่นวายเข้าไปใหญ่
ยามนี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ตกใจจนเอ๋อไปเลย ทั้งสองยืนอยู่ที่บันไดอย่างมึนๆงงๆ ลืมตอบสนองไปชั่วครู่