ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 670 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 670 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (4)
บทที่ 670 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (4)
ทางเลือกของพวกเขาคือหาวิธีทำดีกับตระกูลถัง ละทิ้งตระกูลกู่ทิ้ง ซึ่งพวกเขารู้ดีว่าการยกเลิกงานแต่งกับตระกูลกู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หากตระกูลเย่ไปถอดหมั้นโดยตรง คงต้องถูกเยาะเย้ยแน่ๆ ดังนั้นด้วยนิสัยของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ พวกเขาต้องผลักความผิดและความรับผิดชอบให้กับตระกูลกู่เป็นแน่
แน่นอน ตระกูลกู่ไม่ใช่จะรังแกกันได้ง่ายๆ ต่อจากนี้ต้องเกิดศึกดุเดือดเป็นแน่!
“ฉินฉิน เรื่องนี้หลานไม่ต้องสนใจ พวกเราจะจัดการเอง”คุณย่าเย่มองหน้าเย่ซือเฉิน เวลานี้ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความโหดร้าย
ซึ่งความโหดร้ายนี้มีให้สำคัญตระกูลกู่นั่นเอง
ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มเปิดสงครามกับตระกูลกู่อย่างเห็นได้ชัด
เย่ซือเฉินคาดคะเนไว้ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ได้ยินคำพูดของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ มุมปากของเขาก็เผยยิ้มเย็นขึ้น
เห็นทีละครเด็ดใกล้จะเริ่มแล้ว
เมื่อวานตอนที่กู่หยิงหยิงเผยแพร่ข่าวปลอม เย่ซือเฉินก็สามารถปฏิเสธได้ทันที แต่เมื่อดูจากวิดีโอก็ง่ายต่อการคิดว่าคนนั้นไม่ใช่เวินลั่วฉิง
และสถานะของตระกูลถังก็พิเศษ ไม่อาจเปิดเผยสถานะที่เวินลั่วฉิงเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้ อีกอย่าง เขาออกมาปฏิเสธก็ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ
ดังนั้น เย่ซือเฉินจึงคิดหาวิธียิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไม่ ไม่ใช่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่เป็นยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวต่างหาก
ให้พวกคุณปู่กับตระกูลกู่กัดกัน ทำร้ายกัน ให้เสียหายทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวของเขา
เป้าหมายหลักของเขาคือช่วยสั่งสอนแทนผู้หญิงของเขาให้หลาบจำเท่านั้น
ช่วงนี้พวกคุณปู่ทำให้ผู้หญิงของเขาได้รับความลำบากแบบไหน เขาก็จะให้มอบคืนกลับไปเช่นนั้น
เขารู้จักคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ดี พวกเขารู้ว่าผู้หญิงคืนนั้นเป็นถังฉิ้นเอ๋อแล้วก็จะตัดขาดกับตระกูลกู่ พวกเขาต้องหาหนทางประจบถังฉิ้นเอ๋อเป็นแน่……
ภาพอย่างนั้น……
เขารอชมอยู่ มองดูอยู่
“ฉินฉินตอนว่างก็ไปดูคุณหนูถังบ้างนะ ไปปลอบใจคุณหนูถังบ้าง ผู้หญิงต้องการการเอาใจใส่”คุณย่าเย่คิดแล้วอดกำชับเย่ซือเฉินไม่ได้ ซึ่งคำพูดนี้ เพียงพอที่จะแสดงท่าทีของท่านได้แล้ว
ไม่ว่าไม่ได้เลย ท่าทีคุณย่าเย่ก่อนและหลังเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย
เย่ซือเฉินมองคุณย่าเย่แวบหนึ่ง รู้สึกแดกดันยิ่งนัก แต่มันคือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาไม่ได้พูดอะไรอีก
เย่ซือเฉินบรรลุเป้าหมายแล้ว จึงลุกขึ้นจากไป บ้านหลังนี้เขาไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว
และระหว่างนั้น เย่ซือเฉินไม่ได้มองเย่โป๋เหวินอีกเลย นับจากวันนี้คำว่า พ่อ มันช่างเป็นคำที่ห่างไกลเขาเหลือเกิน
เขาไม่ได้คาดหวังอะไรอีกต่อไป
คฤหาสน์ตระกูลถัง
เมื่อคืนเวินลั่วฉิงกลับมาดึกมาก ดังนั้นเช้านี้จึงตื่นสาย
ลูกทั้งสองคนเป็นเด็กดีมาก หลังตื่นนอน เห็นเธอนอนอยู่อย่างเพลิดเพลิน ลูกๆเลยไม่ได้รบกวนเธอ
เด็กทั้งสองไปล้างหน้าแปรงฟันเอง แบบเคลื่อนไหวเบาๆ
“พี่ชาย เมื่อคืนแม่ไปหาพ่ออีกแล้วใช่หรือเปล่า?”ถังจื่ดซีแปรงฟัน ระงับความอยากรู้ในใจไม่อยู่
“ไม่ใช่ เมื่อคืนแม่ไปหาปู่ทวด”ก่อนหน้านี้ได้ยินเวินลั่วฉิงคุยโทรศัพท์ ดังนั้นถังจื่อโม่จึงรู้เรื่อง
ตอนที่ถังจื่อโม่พูดคำนี้ คิ้วก็ขมวดมุ่น เมื่อคืนแม่บอกว่าจะไม่กลับมา แต่ทำไมเช้านี้ถึงนอนอยู่ที่เตียงของพวกเขากันล่ะ?
เมื่อคืนคุณแม่กลับมาเมื่อไหร่?เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?
“ปู่ทวด?ปู่ทวดอีกคนเหรอ?เป็นฝ่ายคุณแม่เหรอ?”ดวงตาอันสวยงามของถังซื่อซีกะพริบ น้ำเสียงสูงขึ้นเล็กน้อย
สำหรับเรื่องปู่ทวดอีกคน คุณแม่ก็เคยบอกแล้ว คุณแม่ยังเคยบอกว่าจะหาโอกาสรับปู่ทวดมาเจอหน้าพวกเขา
“อืม ฝ่ายคุณแม่”ถังจื่อโม่จับหัวเธอ พลางอดหัวเราะไม่ได้
“คุณแม่บอกว่า คุณปู่ทวดคนนั้นใจดีมาก ไม่เหมือนคุณปู่ทวดบ้านคุณพ่อที่ดุมาก ดุมาก”เด็กน้อยถังจื่อซีดูประโยคนี้ก็เปลี่ยนสีหน้า ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง
ฟังคำพูดของถังจื่อซีแล้วซับซ้อนหน่อยๆ แต่ถังจื่อโม่กลับเข้าใจความหมายของเธอ ครั้งนี้ถังจื่อโม่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขารู้ว่าคนแก่บ้านตระกูลเย่ ช่วงนี้ทำเรื่องที่ทำร้ายคุณแม่มากมาย พวกเขาดุจริงๆ เกินไปจริงๆ
และเวลานี้ มือถือของเวินลั่วฉิงก็ดังขึ้น
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ลืมตาขึ้น จับมือถือมาก็เห็นเป็นเบอร์ของถังหลิน เธอจึงรีบรับสาย เธอคิดว่าถังหลินจับตัวผู้ร้ายเมื่อคืนได้แล้ว
“ฉิงฉิง ดูวิดีโอ”เมื่อรับสาย เสียงของถังหลินก็ส่งมา ซึ่งฟังดูแล้วแปลกๆ
“หา?อะไร?”เวินลั่วฉิงเพิ่งตื่น และถูกปลุกด้วยสายของเขา ดังนั้นจึงรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
“เปิดดูลิ้งค์ที่พี่ส่งให้น้องเมื่อกี้”ถังหลินรีบอธิบายหนึ่งประโยคด้วยลมหายใจที่หนักอึ้ง
แน่นอน เวลานี้เวินลั่วฉิงมองไม่เห็นสีหน้าของเขา หากเห็นจริงๆคงต้องตกใจแน่ๆ
ยามนี้สีหน้าถังหลินเปี่ยมไปด้วยไอสังหาร เป็นไอสังหารที่จะเปิดศึกฆ่าฟันครั้งยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว
เวินลั่วฉิงฟังความผิดปกติของเสียเขาออก รีบเปิดวิดีโอที่เขาส่งมาให้ เมื่อเห็นวิดีโอ เวินลั่วฉิงก็ต้องตกใจ ตอนแรกไม่เห็นหน้าผู้หญิง
ผู้ชายพวกนั้นสวมหน้ากาก แต่เวินลั่วฉิงก็จำลักษณะเด่นของร่างกายผู้ชายคนหนึ่งได้
ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือหนึ่งในผู้ชายที่มัดตัวเวินหรวนหรวนไปเมื่อคืน
“ใช่ ใช่เวินหรวนหรวนหรือเปล่า?”เวินลั่วฉิงถอนหายใจแรงๆ บัดนี้เธอรับรู้ได้ถึงการสั่นเทาของมือตัวเอง
ภาพนี้ช่างโหดร้าย ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“ใช่”อีกฝั่งหนึ่งของสาย เสียงของถังหลินยิ่งเคร่งขรึม ไอสังหารยิ่งปรากฏเด่นชัดบนใบหน้า
เวินลั่วฉิง“……”
เวลานี้เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ลมหายใจหนักอึ้งขึ้นอย่างชัดเจน
เวลานี้ถังหลินก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเวลานี้เขาอยากจะฆ่าคนมากกว่า
เวลานี้พวกเขารู้ดีว่า เป็นแผนการของหลี่หยุน หลี่หยุนจัดคนพวกนั้นมา ซึ่งเจตนาคิดจะจับตัวเวินลั่วฉิง
เรื่องทีเกิดขึ้น คือสิ่งที่หลี่หยุนอยากทำกับเวินลั่วฉิง
หากเมื่อวานคนที่พวกเขาจับไปไม่ใช่เวินหรวนหรวน แต่เป็นเวินลั่วฉิง เช่นนั้น เรื่องทุกอย่างในวันนี้ก็จะเกิดขึ้นกับเวินลั่วฉิง
เหตุการณ์เช่นนั้น ทั้งสองไม่กล้าจินตนาการเลย
“พวกเขาจับตัวเวินหรวนหรวนได้แล้ว ต้องโทรหาหลี่หยุนสิ ต้องรู้ว่าจับผิดคนสิ ถ้าเช่นนั้นแผนการของพวกเขาน่าจะล้มเหลวไม่ใช่เหรอ จบแล้วไม่ใช่เหรอ?ทำไมไปถึงขั้นนั้นได้?”เวินลั่วฉิงได้สติ อดถามหนึ่งประโยคไม่ได้ ยามนี้ ไม่รู้เธอเป็นอะไร รู้สึกสมองขาวโพลน ไม่อาจใช้ความคิดได้ เธอรู้เพียงว่าเรื่องนี้สะเทือนขวัญมาก น่ากลัวมาก
ถึงแม้เธอกับเวินหรวนหรวนจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนัก เวินหรวนหรวนก็มักจะเป็นอริกับเธอเสมอ แต่เธอก็ไม่อยากให้เวินหรวนหรวนต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้เลยจริงๆ