ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 671 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 671 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (1)
บทที่ 671 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (1)
ถึงแม้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเวินหรวนหรวนจะไม่ดีมาโดยตลอด เวินหรวนหรวนก็ต่อต้านเธออยู่ทุกๆ เรื่อง แต่ว่าเธอไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเวินหรวนหรวนจริงๆ!
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ เธอคิดว่าคนพวกนั้นลักพาตัวคนผิดแล้ว หลี่หยุนจะต้องเห็นทันทีแน่นอน
“เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า หลี่หยุนไม่อยากเหลือโอกาสให้เธอแม้แต่น้อย พอเธอได้ยินว่าคนพวกนั้นจับเธอไว้แล้ว ถึงขั้นอยากจะให้คนพวกนั้นจัดการเธอในเวลานั้นเลย คงจะกลัวว่าถามเพิ่มไม่กี่คำจะเสียเวลาเอา……” ถึงแม้ว่าถังหลินจะไม่ใช่นักจิตวิทยา แต่กลับสามารถเดาใจของหลี่หยุนออก
หลี่หยุนโหดเกินไปแล้วจริงๆ แต่เธอคิดไม่ถึงว่ากลับกลายเป็นการทำร้ายลูกสาวของตัวเอง
เวินลั่วฉิงสูดหายใจลึก ที่จริงพวกเขาจับคนผิดแล้ว เรื่องนี้หลี่หยุนเห็นได้ง่ายมาก ไม่ว่ายังไงแล้วขณะที่จับคนอยู่ก็มีจุดน่าสงสัยมากมาย ไม่ว่ายังไงแล้วเวินหรวนหรวนยังตะโกนว่าเธอไม่ใช่เวินลั่วฉิงอีกด้วย
ตอนนั้น ขอแค่หลี่หยุนถามเพิ่มอีกประโยคหนึ่ง พวกนักเลงพวกนั้นจะต้องนำเรื่องราวสถานการณ์ในตอนนั้นบอกกับหลี่หยุน หลี่หยุนก็ต้องรู้ว่าพวกเขาจับคนผิดไปแน่นอน
ขณะนั้นเวินลั่วฉิงก็นึกเรื่องพวกนี้ได้ ฉะนั้นไม่มีอันตรายกับเวินหรวนหรวนแน่นอน เธอจึงไม่ได้ตามไปในขณะนั้น
แต่ว่าหลี่หยุนไม่ได้ถามอย่างเห็นได้ชัดเจน
เรื่องราวสถานการณ์ที่เป็นความจริงคือ นักเลงพวกนั้นอยากจะบอกสถานการณ์ ณ ตอนนั้นกับหลี่หยุน อยากจะถามให้ชัดเจน แต่ว่าหลี่หยุนไม่ให้เขาเปิดปากพูดเลย
แน่นอนว่า ก่อนหน้านี้เวินลั่วฉิงคิดไม่ถึงว่าหลี่หยุนจะโหดร้ายขนาดนี้? คิดว่าถึงว่าแผนการของหลี่หยุนจะเป็นแบบนี้…..
“ตอนนี้เวินหรวนหรวนยังไม่ถูกปล่อยตัวกลับมา น่าจะยังอยู่ในมือของคนพวกนั้นอยู่” ถังหลินค่อยๆ พูดเสริมเพิ่มอีกหนึ่งประโยค
“ยังไม่ปล่อยกลับมา?” เวินลั่วฉิงอึ้งไปเลย น้ำเสียงถึงขั้นอดสูงขึ้นเล็กน้อยไม่ได้
หรือว่าไม่ใช่แค่ถ่ายคลิปหรอ?
“ฉันสงสัยว่า หลี่หยุนน่าจะบอกพวกเขาตั้งแต่แรกแล้วว่า ให้ทำคนตาย……” ถังหลินสูดหายใจเบาๆ น้ำเสียงสุขุม จุดนี้ ก็ไม่ยากที่จะคาดเดา
คนพวกนั้นคือคนที่รับเงินแล้วจึงจะทำงาน หากเจ้านายไม่ได้สั่ง พวกเขาไม่มีทางทำร้ายชีวิตคนแน่นอน
ถ้าหากแค่ถ่ายคลิป เวลานี้ ฝ่ายตรงข้ามน่าจะส่งคนกลับมาตั้งนานแล้ว
“ยังหาคนพวกนั้นไม่เจออีกหรอ?” เวินลั่วฉิงหรี่ตา จุดนี้ แน่นอนว่าเธอเองก็นึกถึงแล้ว ฉะนั้น ตอนนี้ขอแค่ต้องหาคนพวกนั้นให้เจอ จึงจะสามารถช่วยเวินหรวนหรวนออกมา
ถึงแม้ว่าเธอและเวินหรวนหรวนจะมีความโกรธแค้นกัน ตอนนี้ก็ต้องคิดหาวิธีช่วยเวินหรวนหรวนกลับมาก่อน อีกอย่าง ถึงแม้ว่าเวินหรวนหรวนจะต่อต้านเธอในทุกๆ เรื่อง แต่เธอไม่เคยเห็นเวินหรวนหรวนเป็นศัตรู
สิ่งสำคัญในตอนนี้จะหานักเลงพวกนั้นเจอได้อย่างไร!
“ไม่มี เมื่อคืนฉันได้จัดคนให้ไปสืบแล้ว แต่ว่าไม่เจออะไรเลย พวกเราตรวจสอบกล้องวงจรของเมืองAทั้งหมดแล้ว ต่างก็ไม่เห็นรถคันที่เธอบอก เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า พวกเขาหลบหนีกล้องวงจรปิดทั้งหมด นี่แสดงว่าพวกเขารู้ดีเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดในเมืองA พวกมันเจ้าเล่ห์มาก ต่างก็เป็นผู้ที่เคยกระทำผิดมีโทษติดตัว” น้ำเสียงในตอนนี้ของถังหลินเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีความเคร่งขรึม “ทางตำรวจไม่มีเบาะแสอะไรเลย”
“หลี่หยุนเคยติดต่อกับพวกเขา ต้องรู้เบาะแสบางอย่างแน่นอน” เวินลั่วฉิงนึกถึงหลี่หยุน ตอนนี้คนที่คนพวกนั้นจับไปคือเวินหรวนหรวน เวินหรวนหรวนคือลูกสาวแท้ๆ ของหลี่หยุนเลย ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หลี่หยุนน่าจะให้ความร่วมมือกับตำรวจ คิดหาวิธีช่วยเวินหรวนหรวนอยู่มั้ง?
เวินลั่วฉิงในตอนนี้คิดได้ว่าเวินหรวนหรวนอาจจะยังต้องรับการ ‘ถูกทำร้าย’ จากผู้ชายพวกนั้น ในใจของเธอก็รู้สึกไม่สบายใจมาก
เวินลั่วฉิงเองก็รู้ ถ้ายังลีลาต่อไป จะต้องเกิดอันตรายขึ้นทางชีวิตกับเวินหรวนหรวนแน่นอน จากเมื่อวานจนถึงตอนนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว…..
จะมีผู้หญิงแบบไหนที่จะสามารถรับการ ‘ถูกทำร้าย’ แบบนั้นอย่างติดต่อกันได้?
ยิ่งไปกว่านั้นคือผู้ชายพวกนั้นแต่ละคนต่างก็เป็นคนที่โหดๆ เหี้ยมๆ จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่มีทางมีความสงสารแม้แต่น้อยแน่นอน และไม่มีทางออมมือให้แน่นอน จากคลิปนั้นก็สามารถมองออกได้แล้ว
“ใช่ว่าหลี่หยุนจะให้ความร่วมมือ” ถังหลินค่อยๆ หรี่ตาเล็กน้อย น้ำเสียงหนักขึ้นเล็กน้อย ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องนี้หลี่หยุนก็เป็นคนวางแผนเอง นี่เป็นการทำผิด และส่งผลกระทบที่อันตรายมาก
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตลูกสาวเธอ หากเธอไม่ให้ความร่วมมือก็ช่างไร้ซึ่งความเป็นคนเกินไปแล้ว” เวินลั่วฉิงสูดหายใจลึกเบาๆ
“หากเขามีความเป็นคน ก็จะไม่วางแผนจัดการเธอแบบนี้แล้ว” ถังหลินรีบพูดต่อไปประโยคหนึ่ง “และหากเขาให้ความร่วมมือในตอนนี้ก็แสดงว่ายอมรับในความผิดของตัวเองแล้ว ฉะนั้น ฉันรู้สึกว่าเธอน่าจะไม่ให้ความร่วมมือ”
แววตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้นทันที ในที่สุดสมองก็แจ่มแจ้งได้สติขึ้น หลี่หยุนสามารถพูดได้ว่าไร้ซึ่งความเป็นมนุษยธรรมจริงๆ ตอนนี้เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว เวินหรวนหรวนถูกทำร้ายจนเป็นแบบนี้แล้ว
ตอนนี้เวินหรวนหรวนเหมือนว่าถูกทำร้ายจนหมดจดแล้ว
ตามความโหดร้ายของหลี่หยุนแล้วเธอไม่มีทางเปิดโปงตัวเองเพื่อที่จะช่วยเวินหรวนหรวนจริงๆ หรอก
“เอาอย่างนี้ละกัน ตอนนี้ฉันจะกลับไปที่บ้านตระกูลเวิน ดูว่าจะสามารถรู้ข่าวอะไรจากปากของหลี่หยุนได้หรือเปล่า” เวินลั่วฉิงรู้ว่าถ้าหากตำรวจไปถาม หลี่หยุนจะไม่ให้ความร่วมมือแน่นอน แต่หากเธอไปด้วยตัวเอง ไม่แน่อาจจะได้ข่าวบางอย่างมา
“พวกนายหากันต่อเลย ต้องรีบหาคนพวกนั้นให้เจอ ตั้งแต่เมื่อวานถึงตอนนี้ ผ่านไปแปดชั่วโมงกว่าแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งแบกรับเรื่องแบบนี้ไม่ไหว……” แน่นอน เวินลั่วฉิงก็จะไม่นำความหวังทั้งหมดไว้บนตัวของหลี่หยุน หวังว่าตำรวจหรือคนของถังหลินจะสามารถหาคนพวกนั้นเจอได้เร็วที่สุด แล้วหาวิธีช่วยเวินหรวนหรวนออกมา
“เธอกลับไปตอนนี้เกรงว่าจะอันตราย” ในแววตาของถังหลินมีความเป็นห่วงเพิ่มมากขึ้น “หลี่หยุนไม่มีความเป็นคนตั้งนานแล้ว ตอนนี้เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ ฉันกลัวว่าเขาจะเหมือนสุนัขจนตรอก เมื่อหมดทางถอยไม่ว่าอะไรก็ล้วนทำได้ทั้งนั้น จะกลายเป็นคนบ้าคลั่งได้….”
“ฉันจะระวังตัวแน่นอน” ที่จริงแล้วเวินลั่วฉิงเองก็นึกถึงสถานการณ์นี้ แต่ว่า ตอนนี้ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว พวกเขาต้องรีบหาคนพวกนั้นให้เจอ
“บอดี้การ์ดที่เมื่อวานเธอจะเอา ฉันหาให้แล้ว ฉันให้พวกเขารีบไป ไปที่บ้านตระกูลเวินเลย” ถังหลินก็ยังคงไม่วางใจ สองคนที่เขาส่งไปตอนนี้ที่จริงแล้วคือคนที่ปกป้องเขาในวันปกติ
“อื้ม ได้” เวินลั่วฉิงตอบกลับด้วยเสียงเบา ริมฝีปากอดเบ้ปากขึ้นไม่ได้ ถังหลินเป็นพี่ชายที่ดีแห่งชาติจริงๆ
หลังจากเวินลั่วฉิงวางสายแล้ว ก็รีบลุกขึ้น ใช้เวลาเร็วที่สุดในการเปลี่ยนเสื้อผ้า
“หม่ามี๊ หม่ามี๊จะออกไปหรอคะ?” ถังจื่อซีเดินออกมาจากห้องน้ำ มองเธอ บนใบหน้าเล็กๆ มีความไม่อยากให้ไปอยู่
“อื้ม คุณแม่มีธุระด่วนที่ต้องจัดการ จื่อซีเด็กดีนะ รอคุณแม่อยู่ที่บ้านนะ” เวินลั่วฉิงเดินไปยังข้างหน้าของถังจื่อซี แล้วจูบเธอ
“ค่ะ คุณแม่ระวังความปลอดภัยด้วยนะคะ” ที่จริงแล้วเมื่อกี้เจ้าเด็กถังจื่อซีได้ยินคำพูดที่คุณแม่พูดตอนคุยโทรศัพท์แล้ว เมื่อกี้ที่เธอไม่อยากให้คุณแม่จากไปก็เพราะว่าเป็นห่วงคุณแม่
แต่ว่าคุณแม่บอกว่าเรื่องนี้เป็นธุระด่วน ฉะนั้น เธอต้องเชื่อฟัง ห้ามทำให้งานของคุณแม่ล่าช้า!