ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 673 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 673 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (3)
บทที่ 673 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (3)
“เวินลั่วฉิง เธอมาทำอะไร?” ในห้อง เวินจีหยันอึ้งไปเลย มองไปทางหลี่หยุนด้วยความตกใจ
“นางสารเลวนี่ มันเป็นคนทำร้ายหรวนหรวนของพวกเรา ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะแก้แค้นให้หรวนหรวนของพวกเรา ฉันจะให้เธอมีชีวิตแบบตายทั้งเป็น…..” พอหลี่หยุนได้ยินว่าเป็นเวินลั่วฉิง ก็โมโหตาแดงทันที
“เธอสงบสติอารมณ์หน่อย สถานการณ์แบบนี้ในตอนนี้ เวินลั่วฉิงน่าจะยังไม่รู้เรื่อง พวกเราห้ามเปิดโปงออกมา” จนถึงตอนนี้แล้วเวินจีหยันยังใสซื่อคิดว่าคนอื่นไม่รู้เรื่องนี้
“ไม่ เธอน่าจะรู้แล้ว เมื่อคืนตอนแรกเธอตัดสินใจจะกลับห้อง แต่เธอไม่ได้เข้าไป กลับเดินจากไป หลังจากที่เธอจากไป ฉันโทรหาคนข้างนอกพวกนั้น ตามหลักแล้วคนที่ออกไปน่าจะเป็นเธอ ทำไมเขาถึงจับตัวผิดไปเป็นหรวนหรวนล่ะ? ฉะนั้น หรวนหรวนน่าจะออกไปพร้อมกับเธอ ฉะนั้นเธอจึงตั้งใจให้คนพวกนั้นจับหรวนหรวนไป” หลี่หยุนไม่ได้โง่ เดาได้พอๆ กับเรื่องจริง แต่ว่าพึ่งคิดได้ตอนนี้ก็สายเกินไปอย่างเห็นได้ชัดเจนแล้ว
“ความหมายของเธอคือ เวินลั่วฉิงตั้งใจทำร้ายหรวนหรวนของพวกเรา?” เวินจีหยันฟังแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าบนสีหน้ามีความโกรธเพิ่มขึ้น
“อื้ม เป็นแบบนี้แน่นอน ยัยขี้เหร่ที่ไม่เอาหน้านี้โหดร้ายเกินไปแล้วจริงๆ เธอกลับกล้ามาทำร้ายหรวนหรวนของพวกเรา” หลี่หยุนยิ่งกัดฟันด้วยความเกลียด “ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปอย่างเด็ดขาด แน่นอน”
“ถูก ห้ามปล่อยเธอไปเด็ดขาด” เวินจีหยันเองก็พูดด้วยสีหน้าที่เด็ดขาดมาก
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าทั้งสองต่างก็ลืมแล้วว่า นี่เป็นแผนที่พวกเขาวางไว้ว่าจะทำร้ายเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงบริสุทธิ์ตั้งแต่แรก
แววตาของหลี่หยุนประกายขึ้น จากนั้นก็หยิบกระบองไม้ออกมา กระบองไม้เป็นเวินจีหยันที่ไปหามาเมื่อช่วงก่อน ถึงแม้ว่ากระบองไม้จะเป็นสิ่งของที่ห้ามขาย แต่เหมือนว่าคนแบบเวินจีหยันจะสามารถมีวิธีหามาได้
เมื่อก่อนเวินจีหยันจะใส่กระบองไม้นี้ไว้ที่หลังรถ ใช้ทำอะไรกันแน่นั้นเวินจีหยันรู้ดี
ช่วงก่อนหลังจากที่หลี่หยุนเห็นแล้ว จึงนำกลับมาที่ห้อง
ที่จริงแล้ว ในตู้เซฟของเวินจีหยันยังมีปืนอีกด้วย แต่ว่าหลี่หยุนไม่อยากให้เวินลั่วฉิงตายง่ายๆ เธอจะทรมานเวินลั่วฉิง
“นายเปิดประตู ให้เธอเข้ามา ฉันจะช็อตจนเธอสลบ แล้วเราก็จับเธอไว้ สิ่งที่หรวนหรวนของเราได้รับ ฉันจะให้เธอรับรู้ดู แล้วจะให้เธอได้รับแย่กว่านั้นด้วย” หลี่หยุนในขณะนี้บ้าไปแล้วจริงๆ แต่ว่า เธอไม่ได้เสียสติไป เธอวางแผนเรื่องนี้ได้ไม่แย่เลย
เพราะว่าเมื่อคืนพวกเขาต่างก็เห็นถึงความเก่งของเวินลั่วฉิงแล้ว ฉะนั้นพวกเขาไม่กล้าทำอะไรมั่วๆ ฉะนั้นจึงอยากจะหลอกเวินลั่วฉิงเข้ามาในห้องก่อน แล้วค่อยซ็อตเวินลั่วฉิงจนสลบ
“ได้” เวินจีหยันพยักหน้า สูดหายใจลึก จากนั้นก็เดินไปยังที่ประตูห้อง เปิดประตูออก
เวินลั่วฉิงยืนอยู่ที่หน้าประตู พอเวินจีหยันเปิดประตูออกมา ก็มองเห็นเวินลั่วฉิง ในตอนที่เห็นเวินลั่วฉิง เวินจีหยันเหมือนว่าเห็นศัตรูเลย กัดฟันแน่นด้วยความเกลียด แต่ว่า เวินจีหยันก็ยังปกปิดความเกลียดของตัวเอง พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ฉิงฉิงหรอ มีเรื่องอะไรก็เข้ามาพูดข้างในเถอะ”
“ไม่ต้องแล้ว คุยที่นี่ละกัน” เวินลั่วฉิงเห็นท่าทีของเขาแล้ว แอบยิ้มในใจ การแสดงของเวินจีหยันนี่ไม่ไหวจริงๆ
แบบนี้ยังอยากจะหลอกเธอเข้าห้อง?
“ฉิงฉิง เธอเข้ามาก่อนเถอะ ยืนอยู่ข้างนอกไม่เหมาะสม” หลี่หยุนได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว ก็กัดฟันแน่นด้วยความเกลียด แต่ว่า ในตอนที่เธอเงยหน้าออกมา สีหน้ากลับมีรอยยิ้มแฝงอยู่
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า การแสดงของหลี่หยุนเก่งกว่าเวินจีหยันมาก ปกปิดได้ถึงขั้นสุด
“คลิปของเวินหรวนหรวนฉันดูแล้ว” เวินลั่วฉิงไม่อยากพูดไร้สาระกับพวกเขา เธอในตอนนี้ไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขา เธอจึงพูดตรงๆ เลย
ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว สีหน้าของเวินจีหยันและหลี่หยุนต่างก็ดูแย่ขึ้นมาทันที
“ฉันเข้าใจ ที่จริงแล้วพวกคุณอยากจะทำกับฉันแบบนี้ เวินหรวนหรวนเป็นตัวแทนของฉันไป” นี่คือเรื่องจริง เวินลั่วฉิงรู้ นี่คือเรื่องจริงที่เวินจีหยันและหลี่หยุนไม่มีทางเผชิญหน้าด้วยอย่างเด็ดขาด
ฉะนั้น เธอจึงตั้งใจพูดแบบนี้ ตั้งใจกระตุ้นพวกเขา หวังว่าจะสามารถได้ข่าวบางอย่างที่มีประโยชน์จากปากของพวกเขา
“เวินลั่วฉิง ยัยสารเลว คือแก แกเป็นคนทำร้ายหรวนหรวน เวินลั่วฉิง ฉันจะฆ่าแก” หลี่หยุนบ้าไปทันที เธอตะโกน แล้วพุ่งมาทางเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงหลบออกทันที หลิงหลินที่ยืนอยู่ข้างหลังของเวินลั่วฉิงรีบเดินขึ้นมา ขวางอยู่ที่หน้าของหลี่หยุน
หลิงหลินยื่นมือออกมา จับแขนของหลี่หยุนได้อย่างง่ายดาย ทำให้หลี่หยุนไม่สามารถขยับได้
“ไม่ ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคุณที่ทำร้ายเธอ” เวินลั่วฉิงมองไปทางหลี่หยุน พูดออกมาแต่ละคำด้วยเสียงเบา แต่กลับทำให้ร่างกายของหลี่หยุนแข็งทื่อไปเลย
“เวินลั่วฉิง เธออยากทำอะไร? เธออยากทำอะไร?” หลังจากที่หลี่หยุนดึงสติกลับมาได้ ก็ตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ เสียงของหลี่หยุนมีความสั่นอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ฉันอยากไปช่วยเวินหรวนหรวน สถานการณ์ตอนนี้ของเวินหรวนหรวนเป็นยังไง คุณน่าจะรู้ดีกว่าฉัน หากยังถ่วงเวลาแบบนี้ต่อไป เธออาจจะไม่มีชีวิตก็ได้” ครั้งนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดกระตุ้นหลี่หยุน
สิ่งที่เธอพูดคือความจริง
“แกจะช่วยหรวนหรวน? แกจะใจดีขนาดนี้เลยหรอ?” หลี่หยุนอึ้งไปเลย มองหน้าเวินลั่วฉิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธอไม่เชื่อว่าเวลานี้เวินลั่วฉิงจะช่วยหรวนหรวน
เวินลั่วฉิงรู้เรื่องหมดแล้วไม่ใช่หรอ?
“เวินลั่วฉิง แกอย่ามาทำตัวเป็นคนดี” เวินจีหยันเองก็ไม่เชื่อเวินลั่วฉิง
“ก่อนที่ฉันจะมา ได้ให้คนไปปิดข่าวที่เกี่ยวกับเวินหรวนหรวนทั้งหมดแล้ว ตอนนี้พวกคุณสามารถไปดูได้ ในอินเทอร์เน็ตน่าจะไม่มีเนื้อหาพวกนั้นแล้ว” เวินลั่วฉิงรู้ว่าพวกเขาไม่เชื่อเธอ แต่ว่า ตอนนี้เธอกำลังคิดหาวิธีทั้งหมดที่จะช่วยเวินหรวนหรวนกลับมาจริงๆ
เวินหรวนหรวนจะร้ายแค่ไหน นั่นก็คือชีวิตของคนหนึ่งคน เธอไม่ใช่พระแม่มารีย์ แต่ก็ไม่สามารถมองดูชีวิตคนเป็นๆ ของหนึ่งคนมาถูกทรมานไปแบบนี้ด้วยตาเต็มๆ ของเธอ
หลี่หยุนได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว ก็เข้าไปที่ห้อง หยิบโทรศัพท์ออกมา รีบเปิดหน้าเว็บ ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับเวินหรวนหรวนแล้วจริงด้วย
พวกเขาต่างก็รู้ว่า นี่เป็นวิธีที่จะสามารถปกป้องเวินหรวนหรวนได้ดีที่สุดในตอนนี้ ตอนแรกพวกเขาก็คิดอยากจะทำแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีอำนาจ และไม่มีเงิน ไม่สามารถทำได้เลย
แต่ว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงกับช่วยพวกเขาทำได้แล้ว
“ไม่มีแล้วจริงๆ ด้วย ต่างก็ไม่มีแล้ว” เวินจีหยันก็รีบสืบหาดู เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสีหน้าดูดีใจขึ้นเยอะ
เวินจีหยันรู้ดี หากเรื่องของเวินหรวนหรวนยังคงอยู่ต่อไปแบบนี้ แม้กระทั่งพวกเขาก็ไม่สามารถออกจากบ้านได้แล้ว
“เธอช่วยพวกเราทำไม ทั้งที่เธอรู้เรื่องหมดแล้ว……” ในตอนที่หลี่หยุนมองไปทางเวินลั่วฉิงอีกครั้ง ไม่ได้กัดฟันด้วยความโกรธเหมือนตอนแรกแล้ว แค่ยังมีความสงสัยมากมาย