ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 688 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 688 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (6)
บทที่ 688 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (6)
ถังหลินถึงรู้สึกโล่งอก เมื่อเห็นความโหดร้ายของคนพวกนี้ เมื่อกี้เขากลัวจริงๆ!
“พี่สะใภ้สามเก่งจังเลย เขาไม่ได้พูดอะไรแท้ๆ แต่พี่สะใภ้สามก็สันนิษฐานทุกอย่างออกมาได้”ยามนี้คุณชายห้าฉิงเลื่อมใสในตัวเวินลั่วฉิงเป็นอย่างยิ่ง
“ยังมีหลายเรื่องที่ฉันสันนิษฐานไม่ออก ดูจากการตอบสนองของคนนั้น พวกเขาต้องเคยจับตัวแม่ของฉันแน่ๆ แต่ฉันวิเคราะห์ไม่ออกว่าทำไมพวกเขาต้องจับตัวแม่ของฉันด้วย?ทำไมไม่ได้ทำร้ายก็ปล่อยตัวแม่ของฉัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ฉันก็ไม่รู้”ดวงตาเวินลั่วฉิงค่อยๆเคร่งขรึมขึ้น น้ำเสียงก็หนักอึ้งหลายส่วน
การพบเบาะแสเรื่องแม่กะทันหันเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก เธอไม่รู้ว่าเคยเกิดเรื่องอะไรกับคุณแม่เธอบ้าง
“พี่สะใภ้สาม ผมจะไปสอบปากคำเขา คุณยังไม่ทันถามก็รู้มากขนาดนี้แล้ว หากสอบปากคำดีๆคงได้รับคำตอบแน่ๆ”คุณชายห้าฉิงชะงัก รีบเสนอแนะทันที
แต่เวินลั่วฉิงกลับส่ายหัวช้าๆ“เขาไม่พูดหรอก เรื่องเวินหรวนหรวนวันนี้ พวกเราจับเขาได้คาหนังคาเขา แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคดีของแม่ที่เกิดขึ้นหลายปีแล้ว”
ตอนที่อยู่ในห้องสอบสวน เวินลั่วฉิงก็รับรู้สิ่งนี้ได้ เธอจึงไมได้ถามต่อ
“คนนี้ปากแข็งมาก”คุณชายห้าฉิงถอนหายใจเบาๆ“ตอนแรกผมยังอยากให้พี่สะใภ้สามช่วยไต่สวนหาพวกของเขาที่เหลือ……”
“ไม่มีประโยชน์ อย่าพูดถึงเรื่องที่ตอนนี้เขาไม่พูดอะไรเลย ถึงเขาจะพูดก็ไม่มีประโยชน์”เวินลั่วฉิงมองหน้าคุณชายห้าฉิงแวบหนึ่ง
ใบหน้ากลับมาสงบเฉกเช่นปกติแล้ว
“ทำไม?”คุณชายห้าฉิงหยุดชะงัก อะไรที่เรียกว่าก็ไม่มีประโยชน์?
“คนอย่างพวกเขาเป็นผู้ร้ายหลบหนี ส่วนมากคงไม่บอกชื่อนามสกุลจริงหรอก ดังนั้นถึงแม้จะถามข้อมูลกับสองคนนี้ได้ แต่ก็ใช้ไม่ได้ ถึงแม้จะบอกแหล่งกบดานโจรที่อื่น แต่สถานการณ์อย่างนี้ คนพวกนั้นคงไม่ไปที่นั่นหรอก”เวินลั่วฉิงอธิบายละเอียดมาก เมื่อกี้เธอคิดเรื่องพวกนี้ออกแล้ว
“ดังนั้น ยังต้องพึ่งพวกคุณหาวิธีไปจับตัวเอง ถึงแม้ในวิดีโอคนพวกนั้นจะสวมหน้ากาก แต่ก็สามารถดูลักษณะเด่นบนร่างกายของพวกเขาออก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการตามล่าตัวมาก”เวินลั่วฉิงเตือนคุณชายห้าฉิงหนึ่งประโยค
“พี่สะใภ้สาม งั้นช่วยผมดูและวิเคราะห์ลักษณะเด่นของร่างกายพวกมันหน่อยสิ”ดวงตาคุณชายห้าฉิงวาววับ รีบคว้ามือถือขึ้นมาจากนั้นก็เปิดวิดีโอของเหตุการณ์
“ช่างเถอะ ผมค่อยๆหาเอง”ทันใดนั้นคุณชายห้าฉิงนึกได้ว่าผู้ชายพวกนั้นไม่ได้ใส่เสื้อผ้า หากเขาให้พี่สะใภ้สามช่วยเรื่องนี้จริงๆพี่สามคงต้องฆ่าเขาแน่ๆ!!
เวลานี้ในคฤหาสน์ตระกูลเย่
เย่โป๋เหวินกลับเข้าห้องตัวเอง จากนั้นก็เอามือถือออกมาเปิดเว็บเบราว์เซอร์ แล้วพิมพ์ชื่อของถังฉิ้นเอ๋อ
ซึ่งมีข่าวมากมายจากผลการค้นหา
ถังฉิ้นเอ๋อ คือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลถัง เพิ่งตามหาตัวเจอ ช่วงนี้โด่งดังในเมืองAที่สุด
มือของเย่โป๋เหวินแข็งค้าง จากนั้นก็เปิดหน้าอื่น แล้วเห็นรูปถ่ายของถังฉิ้นเอ๋อ ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อในพริบตา ดวงตาพลันเบิกกว้าง
“ไม่ ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้หรอก……”ริมฝีปากเย่โป๋เหวินสั่น พูดพึมพำเสียงต่ำ ใบหน้ามีความไม่อยากจะเชื่อและรู้สึกเจ็บปวดมากที่สุด
เย่โป๋เหวินจับมือถือไว้แน่น จ้องมองรูปถ่ายในมือถือแบบไม่กะพริบ แล้วนั่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่ขยับกายเลย
ในโรงพยาบาล
มีตำรวจหญิงคนหนึ่งตามเวินหรวนหรวนไปที่โรงพยาบาล และทางตำรวจก็ได้ประสานให้หลี่หยุนกับเวินจีหยันไปที่โรงพยาบาลเรียบร้อย
“พวกเขาบอกว่าช่วยหรวนหรวนออกมาได้แล้ว”ตอนที่หลี่หยุนวางสาย อารมณ์บนใบหน้าซับซ้อนมาก
“ใคร?ใครช่วยหรวนหรวนออกมา?ใครโทรมา?”ดวงตาเวินจีหยันกะพริบชัดเจน พลางถามอย่างร้อนรน
“พวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นตำรวจ เป็นตำรวจ……”ตอนที่หลี่หยุนพูด น้ำเสียงมีความสั่นเทาหลายส่วน
“คุณบอกว่าตำรวจช่วยตัวหรวนหรวนออกมา?งั้นคนพวกนั้นล่ะ?ถูกจับแล้วใช่ไหม?”เวินจีหยันหน้าเปลี่ยนสี โดยมีทั้งความเครียดและความกลัว
“พวกเขาไมได้พูด พวกเขาพูดแต่เพียงว่าส่งหรวนหรวนไปที่โรงพยาบาลแล้ว ให้พวกเราไปที่โรงพยาบาล”เวลานี้หลี่หยุนก็รู้สึกกลัว ทำเรื่องอย่างนั้นไว้ เธอก็ต้องกลัวตำรวจด้วยสัญชาตญาณอยู่แล้ว
“พวกเขารู้อะไรแล้วหรือเปล่า?หลอกพวกเราไปเพื่อจับตัวพวกเราหรือเปล่า?”บัดนี้เวินจีหยันตกใจจนอกสั่นขวัญหายไปหมด
“เป็นไปไม่ได้ ถ้าพวกเขารู้จริงๆ ต้องมาจับตัวพวกเราแล้ว ดังนั้นพวกเขายังไม่รู้อะไรแน่ๆ”สมองของหลี่หยุนนับว่ายังมีสติอยู่“ตอนนี้พวกเราไปที่โรงพยาบาล พอไปถึงก็จะรู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง และตอนนี้หรวนหรวนก็อยู่ในโรงพยาบาล พวกเราต้องไปดูหรวนหรวน”
“ได้ งั้นไปที่โรงพยาบาลกัน”เวินจีหยันได้สติกลับคืนมา จึงพยักหน้าด้วยจิตใต้สำนึก
ทั้งสองคนไปถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เมื่อหาห้องคนไข้ของเวินหรวนหรวนเจอ ซึ่งเวินหรวนหรวนยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ด้านในและบังเอิญกับคุณหมอเดินออกมาจากห้องคนไข้พอดี
“คุณหมอค่ะ ลูกสาวฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”หลี่หยุนมองเวินหรวนหรวนที่ไม่กระดุกกระดิกผ่านประตูช่องที่ปิดไม่สนิท พลางรีบถามคุณหมออย่างร้อนใจ
“ตอนนี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิตครับ แต่อาการสาหัสมาก”คุณหมอมองหน้าหลี่หยุนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ช่วงล่างได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรง อนาคตคงมีบุตรไม่ได้แล้ว……”
หลี่หยุนได้ยินคำพูดของคุณหมอ ร่างกายก็โอนเอนไปมา อันที่จริงเขาคาดเดาเหตุการณ์เช่นนี้ได้แล้ว เพราะเดิมทีเป็นแผนการที่เธอวางไว้เพื่อกระทำกับเวินลั่วฉิง
แต่ตอนนี้ได้ยินคุณหมอบอกว่าเวินหรวนหรวนตั้งท้องไม่ได้ เธอก็ยังคงถูกโจมตีอยู่ดี
“ยังมีอีก ตอนนั้นเธอถูกมัดเป็นเวลานาน ตอนถูกมัดยังโดนทำร้ายอย่างอื่นด้วย ดังนั้นสองขาของเธอก็ไม่อาจเดินต่อไปได้”คุณหมอรู้สึกทนพูดออกมาไม่ได้ แต่อาการของคนไข้ลักษณะนี้ จำเป็นต้องบอกให้คนในบ้านทราบ
หลี่หยุนรู้สึกว่าด้านหน้ามืดไปหมด จนเกือบล้มไปที่พื้น
ตอนแรกเธอคิดว่ามีลูกไม่ได้คือผลกระทบที่หนักที่สุดแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่า……
หากวันหลังหรวนหรวนเดินไม่ได้ ต้องนอนอยู่บนเตียงอย่างเดียว แล้วยังมีประโยชน์อะไร?
“เห้อ ถูกมัดไว้นาน หากหาตัวเจอเร็วหน่อย อาจจะก่อนตอนนี้หนึ่งชั่วโมง หรือไม่ก็ครึ่งชั่วโมงจะมีโอกาสเดินได้อยู่”คุณหมอถอนหายใจเบาๆ และอดส่ายหัวไม่ได้
หากก่อนหน้านี้หลี่หยุนบอกเบอร์จริงให้เวินลั่วฉิง อาจจะรักษาเวลาได้บ้าง ขาของเวินหรวนหรวนก็คงไม่พิการ
หลังคุณหมอเดินจากไป หลี่หยุนพลันถอนหายใจแรงๆหนึ่งเฮือก จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินเข้าห้องคนไข้ เพราะเหตุการณ์ของเวินหรวนหรวนพิเศษมาก ดังนั้นทางตำรวจจึงจัดห้องเดี่ยวให้เธอ