ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 690 พ่อลูกเจอหน้ากันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 690 พ่อลูกเจอหน้ากันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ (1)
บทที่ 690 พ่อลูกเจอหน้ากันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ (1)
เวินลั่วฉิงเพิ่งออกจากสถานีตำรวจ ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าเธอ เวินลั่วฉิงจำได้ว่าเป็นรถของคุณชายสามเย่
เมื่อปรับกระจกรถลง ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติของคุณชายสามเย่ก็เผยออกมา อืม ดูดีมาก เซ็กซี่มาก มีเสน่ห์มาก!
คนดูไม่อยากละสายตาได้เลย!ก้าวเท้าไม่ออก!
แต่เวลานี้สีหน้าคุณชายสามเย่ไม่สู้ดีนัก มันมืดครึ้มมาก ดูแล้วน่ากลัวนิดๆ ดวงตาของเขาที่มองเธอเจือความโกรธและความเกลียดไว้หลายส่วน
“ขึ้นรถ”คุณชายสามเย่เอ่ยปากพูดกะทันหัน น้ำเสียงให้ความรู้สึกกัดฟันพูด
เวินลั่วฉิงยกคิ้วขึ้น ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เอื้อมมือไปเปิดประตูรถ
“ด้านหน้า”คุณชายสามเย่เห็นเธอจะไปเปิดประตูรถด้านหลัง ดวงตาทั้งคู่พลันหรี่ขึ้น
มุมปากเวินลั่วฉิงอดกระตุกไม่ได้ เมื่อกี้เธอเห็นสีหน้าคุณชายสามเย่ไม่สู้ดีนัก ดูท่าทางแล้วน่ากลัวมาก ดังนั้นเธออยากไปนั่งด้านหลัง
หลบได้ก็หลบ!!
คาดไม่ถึงว่ากลับถูกคุณชายสามเย่มองทะลุปรุโปร่งเสียแล้ว
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ เวลานี้คุณชายสามเย่อารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด เวินลั่วฉิงรู้ว่าเพราะอะไร ดังนั้นเธอไม่กล้ายุโมโหเขา ไปนั่งด้านหน้าอย่างเชื่อฟัง
เวินลั่วฉิงนั่งเสร็จ คุณชายสามเย่ก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่ถังหลินขับรถมา เขาก็เห็นแต่ท้ายรถของคุณชายสามเย่แล้ว
มุมปากถังหลินยกโค้งขึ้น เรื่องสองผัวเมีย เขาไม่เข้าไปยุ่งอยู่แล้ว
คุณชายสามเย่ขับรถออกมาไม่นานก็หาที่จอด
เห็นได้ชัดว่ารีบคิดบัญชีกับเธอโดยไม่อยากรอสักวินาทีเดียว
คุณชายสามเย่จอดรถเสร็จ ดวงตาทั้งคู่ก็จ้องมองเธอตรงๆ ความโกรธในแววตา ยิ่งทำให้คนรู้สึกถึงภัยอันตรายที่น่าหวาดกลัว
เขามองเธอโดยไม่พูดไม่จา
เวินลั่วฉิงเห็นเขาไม่พูดอยู่อย่างนั้น เธอจึงมองเขาด้วยรอยยิ้มที่สวยงามมาก อ่อนโยนมาก
เห็นรอยยิ้มของเธอ คุณชายสามเย่เกือบเก็บสีหน้าเคร่งขรึมไม่อยู่ แต่นึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เขาก็แอบถอนหายใจ ผู้หญิงคนนี้ใช้เพียงรอยยิ้มก็คิดจะจัดการปัญหาทั้งหมดหรอกเหรอ?!
“คุณไม่มีอะไรจะพูด?”คุณชายสามเย่ทำหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงก็เย็นยะเยือก เรื่องนี้จะปล่อยผ่านง่ายๆอย่างนี้ไม่ได้
“คุณหมายถึงด้านไหน?”ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบรัวๆ จงใจถาม อันที่จริงเธอรู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธ
เย่ซือเฉินโกรธเพราะเธอเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่ขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่แม้กระทั่งจะบอกเขาสักคำ
“เวิน ลั่ว ฉิง”คุณชายสามเย่เรียกชื่อเธอทีละคำช้าๆ ดวงตาที่กำลังหรี่อยู่มีอันตรายเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วนอย่างชัดเจน คาดไม่ถึงว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังไม่รู้ว่าผิดตรงไหน?
เธอเกิดเรื่องก็ไม่บอกเขา มิหนำซ้ำเขายังรู้จากปากของคนอื่นอีก
และเมื่อเธอเกิดเรื่องก็ขอให้ถังหลินช่วย ขอให้ฉิงถิงช่วย แต่ไม่เคยขอให้เขาช่วย
ในใจของเธอ เขามีความสำคัญบ้างไหม?!
หรือตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนนี้ เธอนึกไม่ถึงว่ายังมีคนอย่างเขาอยู่หนึ่งคน?
“เมื่อคืนเกิดเรื่องขึ้น ทำไมไม่โทรหาผม?ทำไมไม่บอกผม?”ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เริ่มถามหาความผิดของอีกฝ่ายขึ้นมา
“ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่……”เวินลั่วฉิงอยากบอกว่าตัวเองยังดีๆอยู่ ไม่ได้เกิดเรื่องอะไร แต่สายตาที่เย็นเยียบของคุณชายสามเย่ที่ไม่หยุดหย่อน ทำให้เธอพูดต่อไปไม่ออก ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบา สุดท้ายก็ไม่ได้ยิน
“เกิดเรื่องแล้วให้ถังหลินช่วย ให้ฉิงถิงช่วย คุณหาคนนอกช่วย แต่ไม่ให้ผมช่วย”เวลานี้คุณชายสามเย่โกรธจัด แน่นอน เขายิ่งเป็นห่วง ยิ่งกลัว เขาหวังว่าจะสามารถปกป้องเธอได้ทุกเมื่อ แต่ผู้หญิงคนนี้ต้องให้สิทธิและอำนาจกับเขาก่อน
“ถังหลินเป็นพี่ชายฉัน”เวินลั่วฉิงกะพริบตาอธิบายเสียงต่ำ ถังหลินเป็นพี่ชายเธอ เป็นคนในครอบครัว ไม่ใช่คนนอก
“คุณชายห้าฉิงก็มีหน้าที่ต้อง……”
“ดังนั้น ผมเป็นคนนั้น?มีเพียงผมที่เป็นคนนอก?”คุณชายสามเย่หรี่ตาขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงมีความกัดฟันกรอดหลายส่วน
ถังหลินเป็นพี่ชายเธอ ไม่ใช่คนนอก ดังนั้นเขาต่างหากที่เป็นคนนอก ดังนั้นเธอไม่เคยคิดให้เขาช่วยเหลือ?
เวินลั่วฉิงมองเขา ดวงตาพลันกะพริบปริบๆ เขาพูดอย่างนี้ ทำให้เธอพูดต่อไม่เป็นเลย และไม่กล้าพูดต่อจากเขาด้วย
เวินลั่วฉิงไม่พูด คุณชายสามเย่ยิ่งโกรธ รู้สึกหดหู่ใจ ความรักในใจเธอ ถังหลินถึงจะเป็นคนในครอบครัว ส่วนเขาเป็นคนนอกจริงๆ?
“ได้ยินว่าคุณให้ถังหลินหาบอดี้การ์ดสองคน”ขณะที่คุณชายสามเย่พูด น้ำเสียงมีความเย็นยะเยือก ยิ่งมีรสเปรี้ยวของความหึงจนเกือบหมักได้ที่แล้ว
เรื่องหาบอดี้การ์ดยังให้ถังหลินทำ แต่ไม่ใช่เขา ทำไม?
“หา?ออ”เวินลั่วฉิงคาดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะเอ่ยถึงเรื่องนี้ เขาเปลี่ยนช่องไวมาก ทำให้เธอตามไม่ทัน ทว่าเขารู้แม้กระทั่งให้ถังหลินหาบอดี้การ์ดให้ เกรงว่าเขาคงรู้ทุกอย่างหมดเปลือกแล้ว
“เวินลั่วฉิง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไปหาแต่ถังหลิน แล้วผมเป็นอะไร?สำหรับคุณแล้วผมเป็นอะไร?”ปกติคุณชายสามเย่มักจะมีสติไม่วู่วาม ไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว
เวินลั่วฉิงกำลังคิดคำถามที่ว่าสำหรับเธอแล้วเขาเป็นอะไร?
เธอรู้สึกว่าคำถามนี้ซับซ้อน ยากจะพรรณนาในเวลาอันสั้น
คุณชายสามเย่เห็นเธอกำลังครุ่นคิดอยู่ ไม่ได้ตอบคำถาม จึงถอนหายใจแรงๆหนึ่งครั้ง เธอจำเป็นต้องคิดคำตอบนี้นานขนาดนี้เลยเหรอ?
“สำหรับคุณแล้ว ผมเป็นส่วนเกิน?”คุณชายสามเย่รู้สึกว่าตัวเองอกใกล้แตกตายแล้ว ในใจของเธอเขาเป็นส่วนเกินใช่หรือไม่?ดังนั้นเธอเจอปัญหาก็ไม่เคยนึกถึงเขา
“บางครั้งก็ไม่ใช่”เวินลั่วฉิงมองเขา ดวงตากะพริบรัวๆ ก่อนจะตั้งใจคิด จากนั้นก็ลั่นประโยคนี้ออกมา
ความโกรธของคุณชายสามเย่อัดแน่นอยู่กลางอก ชนิดที่ขึ้นไม่ได้ ลงก็ไม่ได้ เธอบอกว่าบางครั้งก็ไม่ใช่ ความหมายก็คือบางครั้งเขาเป็นส่วนเกินจริงๆ สำหรับเธอ เขาเป็นส่วนเกิน?
ทำไมเขาถึงอยากบีบคอเธอให้ตายไปซะเลย เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เกิดมาเพื่อทำให้เขาโกรธ
บัดนี้คุณชายสามเย่ใช้สติทั้งหมดที่เขามี เพื่อไม่ให้ตนเอื้อมมือไปยังคอของเธอ
เวินลั่วฉิงมองเขา เห็นสีหน้าอยากบีบเธอให้ตายแทบแย่ เธอก็แอบยิ้มในใจ จากนั้นก็ค่อยๆพูดว่า “เพราะคุณคือหนึ่งเดียว ไม่อาจแทนที่ได้”
“ตอนนี้มาพูดดีด้วย สายไปแล้ว อีกอย่างการเปลี่ยนคำพูดของคุณมันไม่สมจริงเลย”คุณชายสามเย่คิดว่าเธอเห็นเขาโกรธ ถึงรู้ตัวว่าพูดผิดไปแล้ว ดังนั้นเธอเลยแก้ตัว ซึ่งยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้น
คุณชายสามเย่ตัดสินใจ ไม่ว่าตอนนี้เธอจะพูดอย่างไร เขาก็ไม่เชื่อ ไม่ให้อภัยเธอ!!
ปวดหัวกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ!