ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 693 คุณชายสามเย่รู้เรื่องแล้ว (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 693 คุณชายสามเย่รู้เรื่องแล้ว (1)
บทที่ 693 คุณชายสามเย่รู้เรื่องแล้ว (1)
“ดี ดี ความคิดนี้ดี”ท่านย่าถังรีบตกลง
“อันนี้ผมต้องร่วมแจมหน่อยแล้ว”คุณปู่ถังก็ลุกขึ้นตาม
เมื่อสักครู่เฟิ่งเหมียวเหมียวพาเด็กๆทั้งสองคนไปชั้นบน ซึ่งสามคนที่เหลือในห้องโถง บัดนี้ได้ย้ายออกไปอยู่นอกบ้านหมดแล้ว
คนชราทั้งสามท่านเดินมาถึงลานบ้าน เย่ซือเฉินก็เดินเข้ามาถึงที่นั่นเหมือนกัน ซึ่งเวินลั่วฉิงขวางเขา แต่ขวางไม่สำเร็จ
“ยัยเด็กคนนี้ ยอดเยี่ยมจริงๆ คุณว่าสำหรับเธอลูกชายสำคัญกว่า หรือผู้ชายสำคัญกว่า?”ท่านย่าถังเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ อดหัวเราะไม่ได้
ฉิงฉิงขวางเย่ซือเฉินไม่ได้เชียวเหรอ?ท่านไม่เชื่อหรอก บอกเรื่องนี้ให้ใคร ใครก็ไม่เชื่อ
ใช่ ด้วยความสามารถของคุณชายสามเย่ เวินลั่วฉิงอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่เย่ซือเฉินต้องให้เกียรติฉิงฉิง ต้องฟังคำพูดของฉิงฉิงอย่างแน่นอน
หากฉิงฉิงยืนกรานชนิดที่ไม่ให้เจรจาต่อรอง เย่ซือเฉินจะเข้ามาได้ไหม?
ท่านปู่ถังกับคุณปู่เวินได้ยินท่านพูดก็อดยิ้มไม่ได้ อันที่จริงพวกท่านอยากเห็นเวินลั่วฉิงมีความสุขที่สุด ดังนั้น เหตุการณ์อย่างนี้พวกท่านยินดีมองเป็นอย่างยิ่ง
คนแก่ทั้งสามท่านเดินไปถึงศาลาในลานบ้านอย่างเชื่องช้า เมื่อนั่งลง พ่อบ้านพลันชงชามาเสิร์ฟ
บัดนี้เวินลั่วฉิงเข้ามาในลานบ้านแล้ว จึงเห็นภาพตรงหน้าแล้ว ดวงตาเธอกะพริบเร็วๆ ท่านทั้งสามคนออกมาเวลานี้ และมีเพียงพวกท่านสามคน ความหมายนี้ชัดเจนมากเลย
คนชราทั้งสามท่านต่างออกมากันหมดแล้ว เวินลั่วฉิงจึงไม่จำเป็นต้อง‘ขวาง’เย่ซือเฉินอีก
เย่ซือเฉินเห็นคนชราทั้งสามท่านก็รีบเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว
ก่อนเขามาก็รู้แล้วว่า เวินลั่วฉิงรับคุณปู่เวินมาที่บ้านตระกูลถัง ดังนั้น เขาเห็นคุณปู่เวินก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไร
เย่ซือเฉินเดินไปด้านหน้า เวินลั่วฉิงก็ต้องตามอยู่แล้ว เย่ซือเฉินเดินไปไม่กี่ก้าวก็หยุดกะทันหัน
เวินลั่วฉิงแปลกใจเล็กน้อย แล้วมองตามสายตาของเขา จากนั้นก็พบรถสีชมพูของเด็กน้อยถังจื่อซี——เป็นรถแบตเตอรี่เด็ก
เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินเห็นรถคันนั้นแล้ว ซึ่งคุณชายสามเย่รู้สึกถึงความผิดปกติที่บ้านตระกูลถังมีรถอย่างนี้
“ทำไมมีรถเด็กเล่นล่ะ?”เย่ซือเฉินหันไปมองเวินลั่วฉิง ใบหน้ามีความสงสัยหลายส่วน ตระกูลถังมีเด็กเล็กเหรอ?
“ฉิงฉิง ทำไมยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ร้อนเหรอ?มาเร็ว”เพียงแต่เวินลั่วฉิงยังไม่ได้ตอบ เสียงท่านย่าถังก็แว่วเข้ามา ซึ่งท่านย่าถังก็รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางนี้แล้ว
“ค่ะ มาแล้วค่ะ”เวินลั่วฉิงเข้าใจความคิดของท่านย่าถัง รีบตอบรับทันควัน
ถึงแม้เย่ซือเฉินสงสัย แต่ไม่ได้ถามต่อ เพราะเขามาที่นี่ยังมีเรื่องสำคัญกว่าให้ทำ
เย่ซือเฉินเดินมาถึงศาลา พลางมองหน้าคนแก่ทั้งสามท่าน เพิ่งอยากจะปริปากพูด
“ซือเฉิน นั่งสิ”เพียงแต่ท่านปู่ถังกลับเอ่ยปากพูดกะทันหัน น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนและเป็นธรรม่ชาติหลายส่วน อีกทั้งฟังแล้วยังรู้สึกเป็นกันเองมาก
เย่ซือเฉินขมวดคิ้ว ท่าทีของท่านปู่ถังขณะนี้ ทำให้เขาที่เตรียมสคริปการพูดล่วงหน้าไม่รู้ควรพูดอย่างไรดี
เขามาวันนี้ เพื่อมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ จากนั้นแสดงความหนักแน่นต่อฉิงฉิงให้พวกท่านทราบ
ทว่าท่าทีของท่านปู่ถัง ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอีก
หลายวันก่อนคนตระกูลถังยังไม่ยอมให้เขาเข้าบ้าน ตอนนี้เปลี่ยนท่าทีเร็วเกินไปหรือเปล่า
“ยืนอยู่ทำไม?รีบนั่งสิ”ท่านย่าถังเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง คำพูดนี้ไม่ได้เอ่ยนาม แต่เป็นการเรียกให้เย่ซือเฉินนั่งลงอย่างเห็นได้ชัด
ดวงตาเย่ซือเฉินกะพริบรัวๆ เขารู้ว่ายังสะสางเรื่องตระกูลกู่ไม่ได้ ซึ่งท่านปู่ถังไม่แสดงกิริยาต่อว่าออกมาก็นับว่าปกติอยู่ แต่ท่านย่าถังก็มีท่าทีดีด้วยเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกสงสัยจริงๆ
คุณชายสามเย่รู้สึกว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นแน่ อีกทั้งปัญหานี้ยังไม่ใช่เรื่องเล็กอีกด้วย!!
“พวกหนูยื้อยุดไปมาตั้งนานไม่เหนื่อยเหรอ”คุณปู่เวินรินชา จากนั้นมองเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง พลางเสริมหนึ่งประโยคอย่างเชื่องช้า
คำพูดนี้มีเลศนัยอย่างเห็นได้ชัด
เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปาก เรื่องความรักพวกท่านมองทะลุปรุโปร่งหมดสิ้นแล้ว
ก็ได้ เธอยอมรับว่า เมื่อไม่ได้พยายามสุดความสามารถในการขวางเย่ซือเฉินไม่ให้เข้ามา
เธออยู่กึ่งกลางทำตัวไม่ถูกจริงๆ เฮ้อ เป็นคนช่างลำบากแท้!!
เวินลั่วฉิงเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ เย่ซือเฉินก็ไปนั่งตามเธอ
“เรื่องผมกับฉิงฉิง ผม……”เย่ซือเฉินนั่งลง พลางตัดสินใจอธิบาย
“สำหรับเรื่องนายกับฉิงฉิง พวกเราไม่เข้าไปยุ่ง ขอเพียงฉิงฉิงเต็มใจก็พอ”เพียงแต่คุณชายสามเย่ไม่ทันพูดจบ ท่านปู่ถังก็พูดก่อน
และแสดงท่าทีอย่างมาโดยตรง
ท่าทีของท่านปู่ถังถือว่าดีมากแล้ว ดีจนทำให้เย่ซือเฉินอึ้งทึ่ง
“อืม ตาเฒ่าพูดถูก พวกเราไม่ห้าม และห้ามไม่ไหว”ท่านย่าถังรีบพูดต่อหนึ่งประโยค
“อืม ฉันเห็นด้วยกับพวกเขา”คุณปู่เวินพูดคล้อยตาม
เย่ซือเฉินมองหน้าพวกท่านสามคน รู้สึกว่าทั้งสามท่านต้องมีแผนการร้ายอะไรอยู่แน่ๆ ขณะที่มองพวกเขา เขาคิดถึงคำที่ว่า เฒ่าสรพัดพิษ
แต่พวกท่านมีแผนการร้ายอะไร?ท่าทีของพวกท่านตอนนี้คือสิ่งที่เขาอยากได้ที่สุด และเกินความคาดหมายของเขาอีกด้วย
ก่อนมาเขาเตรียมคำมาโน้มน้าวพวกท่านมากมาย แต่ตอนนี้เขายังไม่ทันพูดอะไร เรื่องราวก็ราบรื่นเพียงนี้?
ทำให้เขาไม่กล้าเชื่อ วินาทีนี้คุณชายสามเย่รู้สึกว่าวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตก
“อย่างนี้แสดงว่าพวกท่านไม่คัดค้านเรื่องผมกับฉิงฉิงแล้ว”ดวงตาคุณชายสามเย่เปล่งประกาย มุมปากยกโค้งขึ้น จากนั้นก็จงใจถามอย่างนี้หนึ่งประโยค
อันที่จริงคนแก่ทั้งสามท่านพูดกระจ่างมากพอแล้ว
“อืม พวกเราบอกแล้วว่าไม่เข้าไปยุ่ง”ท่านย่าถังพยักหน้า จากนั้นมองเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง “ขอเพียงฉิงฉิงเต็มใจ”
ดวงตาท่านปู่ถังกลับหรี่ขึ้นเล็กน้อย ไอ้เด็กคนนี้คิดจะเล่นไม้ไหม?
ท่านปู่ถังรู้สึกว่า เวลานี้เย่ซือเฉินถามอย่างนี้ มีเจตนาไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่
คุณปู่เวินมองหน้าท่านปู่ถัง ท่านก็รับรู้ได้อย่างเห็นได้ชัด
“ความหมายของพวกท่านคือขอเพียงฉิงฉิงเต็มใจ พวกเราทำอะไร พวกท่านก็ไม่คัดค้านใช่ไหมครับ?”เย่ซือเฉินมองคนแก่ทั้งสามท่านทีละคน พร้อมกับถามขึ้นมาอีกครั้ง
“อืม”ท่านปู่ถังรับรู้ได้ว่าเย่ซือเฉินมีเป้าหมายไม่ธรรมดา แต่เมื่อสักครู่เขาพูดออกไปแล้ว คงเก็บกลับมาไม่ได้ อีกทั้งยังอยากรู้ว่าเย่ซือเฉินคิดจะทำอะไรกันแน่?
“ใช่”คุณปู่เวินเห็นท่านปู่ถังรับปากแล้ว ท่านจึงแสดงท่าทีด้วย