ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 694 คุณชายสามเย่รู้เรื่องแล้ว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 694 คุณชายสามเย่รู้เรื่องแล้ว (2)
บทที่ 694 คุณชายสามเย่รู้เรื่องแล้ว (2)
ท่านย่าถังก็พยักนห้า ท่านย่าถังคิดว่าเขายังทำอะไรได้อีก?ลูกก็มีแล้ว หลายวันก่อนยังล่อพาตัวฉิงฉิงออกไป ไปหนึ่งคืนเต็ม ๆ ฉิงฉิงถึงจะกลับมา ท่านยังกลัวเย่ซือเฉินทำอะไรอีก?
สิ่งที่ทำได้และสิ่งที่ทำไม่ได้ เย่ซือเฉินก็เคยทำมาหมดแล้วไม่ใช่เหรอ!!
เย่ซือเฉินได้ยินคนแก่ทั้งสามคนรับปาก จากนั้นก็มองไปยังเวินลั่วฉิง พลางพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ฉิงฉิง วันนี้พวกเราไปจดทะเบียนสมรสกัน”
ได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉิน คนชราทั้งสามท่านก็ถึงกับอึ้ง
พวกเขาไม่อยากให้เย่ซือเฉินเห็นถังจื่อโม่ ดังนั้นจึงตัดสินใจคล้อยตามเขา พวกท่านคิดว่าเย่ซือเฉินอารมณ์ดีดั่งใจหมายแล้ว คงไม่ให้ความสนใจเรื่องอื่นอีก
อีกอย่าง พวกท่านรู้สึกว่าเย่ซือเฉินดีใจและพอใจแล้ว คงต้องกลับไปเป็นแน่ คงไม่อยู่ที่บ้านตระกูลถังตลอด
ทั้งสามท่านได้ปรึกษากันไว้แล้ว สรุปใจความหลักก็คือคล้อยตามเย่ซือเฉิน แต่พวกท่านทั้งสามคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะโลภ ได้คืบจะศอก ถึงขั้นไปจดทะเบียนสมรสกันเลย?
สถานการณ์อย่างนี้ เขาคิดจะไปจดทะเบียนสมรส?กล้าคิดจังเลย?!
ไอ้เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ ท่านปู่ถังแอบด่าอยู่ในใจ ท่านปู่ถังรู้ว่าครึ่งหนึ่งเย่ซือเฉินกำลังพูดหยั่งเชิงพวกท่านอยู่ ส่วนอีกครึ่งที่เหลือเดาว่าอยากทำอย่างนั้นจริงๆ
มุมปากคุณปู่เวินกระตุก อืม อันนี้คือวิธีการของคุณชายสามเย่ เมื่อลงมือก็จะโดนจุดสำคัญ
“เย่ซือเฉิน ไอ้เด็กบ้า นายคิดจะไปจดทะเบียนสมรสง่ายๆกับฉิงฉิงอย่างนี้เลเหรอ นายกล้าคิดจังนะ”ท่านย่าถังไม่ได้คิดไกลเหมือนพวกคุณปู่เวิน ได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉินก็อดกลั้นไม่อยู่ ไอ้เด็กบ้าคนนี้คิดสวยงามเกินไปแล้ว งานแต่งงานนั้นเรื่องใหญ่ ยังไม่ได้สู่ขอก็จะไปจดทะเบียนสมรส?
เวินลั่วฉิงเม้มปาก สถานการณ์อย่างนี้ เธอตัดสินใจไม่พูดดีกว่า
สงครามดุเดือดเช่นนี้ เธอไม่อยากเป็นทหารพลีชีพในศึกครานี้
แต่ยกแรงผู้ใหญ่ทั้งสามท่านแพ้ คุณชายสามเย่ชนะอย่างชัดเจน
เห็นเวินลั่วฉิงไม่พูด ดวงตาท่านย่าถึงเปล่งประกาย“เรื่องนี้ ฉิงฉิงไม่ตกลง”
เวินลั่วฉิงก้มหน้างุด ไม่พูดไม่จา เวลานี้คนไหนพูด คนนั้นโง่
คุณชายสามเย่เข้าใกล้หูของเธอ พลางกระซิบหลายประโยค
สีหน้าเวินลั่วฉิงเปลี่ยนทันควัน พลางหันหน้าไปมองเขา จากนั้นก็หันหน้าไปมองทั้งสามท่าน ชั่วขณะนั้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนมาก
“เย่ซือเฉิน มีอะไรพูดเปิดเผยไม่ได้?นายอย่ามาเล่นลูกไม้นท่านย่าถังไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินพูดอะไรกับเวินลั่วฉิง แต่ดูจากสีหะ”น้าของเวินลั่วฉิงแล้ว คิดว่าถูกเวินลั่วฉิงชักจูงสำเร็จแล้ว ดังนั้นไม่รอให้เวินลั่วฉิงเอ่ยปากพูด ท่านย่าถังก็รีบพูดโดยเร็ว
“เย่ซือเฉิน ทำอย่างนี้ไม่ถูกหลักประเพณี”ครั้งนี้ท่านปู่ถังก็เอ่ยปากพูดด้วย
คุณปู่เวินไม่ได้พูด แต่อารมณ์บนใบหน้าชัดเจนมาก
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ ดังคาด คุณชายสามเย่ร้ายกาจที่สุด อำมหิตที่สุด
อันที่จริงเมื่อกี้เย่ซือเฉินกระซิบเล่าเรื่องในอดีตของท่านปู่ถังให้ฟังเท่านั้น ซึ่งเรื่องนั้นทำให้เธอตกตะลึงมาก แต่เห็นได้ชัดว่าผู้ใหญ่ทั้งสามท่านเข้าใจผิดคิดว่าเธอถูกเย่ซือเฉินโน้มน้าวสำเร็จแล้ว
ไม่ชมไม่ได้ว่า วิธีนี้ของเย่ซือเฉินเด็ดมาก
“เมื่อกี้ผมเล่าเรื่องในอดีตของท่านปู่ถังให้ฉิงฉิงฟัง ทำไมถึงไม่ถูกต้องล่ะครับ?”มุมปากเย่ซือเฉินยกขึ้นด้วยรอยยิ้มบานสะพรั่งเต็มหน้า
คนชราทั้งสามท่านต่างชะงัก รู้ตัวว่าหลงกลเย่ซือเฉินเข้าแล้ว
แต่ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ เวินลั่วฉิงที่ปกติไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด แต่เมื่อได้ยินเสียงกระซิบของเย่ซือเฉินแล้ว สีหน้าพลันเปลี่ยนไป เป็นใครก็ต้องเข้าใจผิดกันทั้งนั้นแหละ?
หลังผ่านการลองใจเมื่อสักครู่นี้ เย่ซือเฉินมั่นใจว่าทั้งสามท่านมีแผนการร้ายแน่ๆ เพื่อแผนการนี้ ตอนแรกพวกท่านคล้อยตามเขาทุกอย่าง
คุณชายสามเย่รู้สึกว่าพวกท่านอยากปิดบังอะไรบางอย่าง!!
เพียงแต่พวกท่านอยากปิดบังเรื่องใดกัน?มีเรื่องอะไรที่ทำให้พวกท่านพยายามสุดแรงเพื่อไปปิดบังกันนะ?
แน่นอน คุณชายสามเย่ก็ทายออกว่า ตอนแรกพวกท่านคล้อยตามเขาทุกเรื่อง คงอยากให้เขากลับไปโดยเร็ว ดังนั้น คุณชายสามเย่ตัดสินใจไม่ไปไหน
เขาจะอยู่ตรงเพื่อดูให้แน่ชัด
เย่ซือเฉินยกกาน้ำชาขึ้นรินให้เวินลั่วฉิงกับตัวเอง จากนั้นก็ยกขึ้นมาจิบ เริ่มลิ้นรสอย่างช้าๆขึ้นมา
ดูจากท่าทางของเขาแล้วคือคิดจะค่อยๆลิ้นลอง ค่อยๆเพลิดเพลินไปกับการจิบชา และไม่รู้ว่าจะจิบชาถึงตอนไหน
คนชราทั้งสามท่านเห็นคุณชายสามเย่ก็ชะงักอีกครั้ง ไอ้เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์หนักมาก
จื่อซีกับจื่อโม่คงใกล้จะตื่นกันแล้ว เด็กทั้งสองคนไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขาตื่นขึ้นมาแล้วลงมาชั้นล่าง……
ถ้างั้นก็จะเผยพิรุธจนหมดเปลือกเลยนะ จื่อโม่ของพวกเขายังเตรียมแผนการไว้มากมาย
“ได้ พวกนายไปจดทะเบียนสมรสเถอะ รีบไปเร็วๆเลย?”ท่านย่าถังเห็นเย่ซือเฉินอยู่ต่อนานๆก็บ่นแล้วเอ่ยปากไล่คน
ท่านปู่ถังกับคุณปู่เวินก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร
มุมปากเวินลั่วฉิงกระตุก เพื่อเหลนของพวกท่าน พวกท่านถึงกลับขายเธอ ตกลงหเย่ซือเฉินพาเธอไปจดทะเบียนสมรสกันง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ?
พวกท่านแน่มาก!!
เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของท่านย่าถังก็ยิ่งสงสัย พลางขมวดคิ้วแน่น กวาดสายตามองผู้ใหญ่ทั้งสามท่านอย่างรวดเร็ว เขาสามารถพูดเต็มปากร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าพวกท่านมีแผนการร้าย
แต่เมื่อสักครู่ท่านย่าถังบอกว่าตกลงให้เขาพาเวินลั่วฉิงไปจดทะเบียนสมรสกันแล้ว โอกาสอย่างนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ เขาไม่อยากเสียโอกาสทองนี้ไป
ไม่ว่าพวกท่านจะมีแผนการร้ายอะไร วันหลังเขามีโอกาสมากมาย เพื่อให้ตัวเองล่วงรู้ แต่ถ้าวันนี้พลาดโอกาสจดทะเบียนสมรสไปก็ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่
ฉะนั้นเย่ซือเฉินตัดสินใจไปจดทะเบียนสมรสก่อน ซึ่งอันนี้ถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
ตอนที่เย่ซือเฉินเตรียมจะลุกขึ้น มือถือของเขาก็ดังขึ้นกะทันหัน
เย่ซือเฉินมองเบอร์ในโทรศัพท์ จากนั้นก็รับสาย
“พี่สามอยู่กับพี่สะใภ้สามไหม”เมื่อรับสาย เสียงของคุณชายห้าฉิงก็ส่งมา เขารู้เรื่องที่เย่ซือเฉินมารับเวินลั่วฉิง ดังนั้นจึงได้โทรหาเย่ซือเฉินโดยตรง
“อืม ทำไมเหรอ?”เย่ซือเฉินได้ยินเสียงของเขาไม่สู้ดีนัก พลางขมวดคิ้วมองหน้าเวินลั่วฉิง
“เวินหรวนหรวนฟื้นแล้ว พวกเขาต่อติดพวกเรามาเอง บอกว่าจะให้ปากคำ คนของพวกเราไปถึง เวินหรวนหรวนก็แจ้งความพี่สะใภ้สาม บอกว่าพี่สะใภ้สามให้โจรจับตัวเธอไป”ตอนที่คุณชายห้าฉิงพูด น้ำเสียงมีความโกรธแค้นอย่างชัดเจน