ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 704 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (10)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 704 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (10)
บทที่ 704 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (10)
“ผมพูดแล้ว จะสามารถลดโทษได้หรอครับ?” ผู้ชายคนนั้นได้ยินคำพูดของกู้เทียนยี่แล้ว รีบมองไปทางเขา บนใบหน้ามีความหวังเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ใช่ ขอแค่นายบอกความจริง ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ พอถึงเวลาเราจะจัดการตามสถานการณ์เอง” แววตาของกู้เทียนยี่ในขณะนี้จริงจังมาก ทำให้ผู้คนยากที่จะสงสัยเลย
“ได้ ผมพูดครับ ผมยอมรับผิด ผมจะพูดออกมา” วินาทีต่อ ท่าทีของผู้ชายคนนั้นก็เปลี่ยนไปเลย
“ได้ งั้นนายพูดสิว่าใครเป็นคนให้เงินนาย” กู้เทียนยี่รีบตามกลับไปอีกหนึ่งประโยค
“ผมก็ไม่รู้ชื่อของเขาครับ เธอโทรมาติดต่อกับผม” ผู้ชายคนนั้นมองไปทางกู้เทียนยี่หนึ่งที ลังเลไปสักพัก จึงจะเริ่มพูดออกมา แต่ว่า เนื้อหาที่เขาพูดออกมาในตอนนี้ฟังแล้วไม่ได้มีประโยชน์มากนัก
นี่ก็เป็นสิ่งที่ตระกูลกู้จัดการไว้แล้ว ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หากให้ ‘โจร’ คนนี้พูดออกมาตรงๆ ว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนให้เงินเขา จะยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยเข้าไปใหญ่ เรื่องแบบนี้ห้ามรีบ ต้องมาทีละก้าวๆ จึงจะได้
การจัดการเรื่องแบบนี้ ตระกูลกู้มีประสบการณ์มากที่สุดแล้ว
“เธอเคยโทรหานายกี่ครั้ง นายมีเบอร์โทรศัพท์ของเธอไหม? มีประวัติการโทรไหม?” กู้เทียนยี่ทำสีหน้าเข้ม รีบถามคำถามติดต่อกัน
“เธอเคยโทรหาผมทั้งหมดสี่ครั้งครับ ผมมีเบอร์โทรศัพท์ของเธอ และมีประวัติการโทรครับ” ในครั้งนี้ผู้ชายคนนั้นตอบได้เร็วมาก
“ให้ฉันดูหน่อย ฉันขอดูเบอร์โทรศัพท์หน่อย” เวินหรวนหรวนมองไปทางผู้ชายคนนั้น ตะโกนพูดด้วยความกระวนกระวาย ไม่พูดไม่ได้เลยว่า ขณะนี้เวินหรวนหรวนแสดงได้เหมือนมาก
“โทรศัพท์ของผมถูกตำรวจเอาไปแล้วครับ” ผู้ชายคนนั้นมองไปทางตำรวจคนหนึ่ง
“เอาโทรศัพท์ให้เขา ให้เขาหาเบอร์โทรศัพท์นั้นออกมา” กู้เทียนยี่ออกคำสั่งแล้ว ที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้ไม่เป็นไปตามขั้นตอนเลย แต่ว่าหัวหน้าสำนักงานกู้ออกคำสั่งแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร
แน่นอนว่าตำรวจก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ยื่นไปยังข้างหน้าของผู้ชายคนนั้น ถึงแม้ว่ามือของผู้ชายคนนั้นยังถูกล็อกไว้อยู่ แต่กลับไม่เป็นอุปสรรคต่อการที่เขาจะเปิดโทรศัพท์ เขาเปิดเครื่อง แล้วหาเบอร์โทรศัพท์หนึ่งในนั้นออกมา ยื่นไปยังข้างหน้าของเวินหรวนหรวน
เวินหรวนหรวนมองแค่แวบเดียว ก็กัดฟันพูดด้วยความเกลียดว่า “เบอร์โทรศัพท์นี้เป็นของเวินลั่วฉิง เป็นของเวินลั่วฉิง คือเวินลั่วฉิงนั่นแหละ คือเวินลั่วฉิงนั่นแหละที่จ้างโจรมาลักพาตัวฉัน”
“เอาโทรศัพท์มาหน่อย” กู้เทียนยี่ก็เปิดปากพูดได้ทันเวลาพอดี
ได้นำโทรศัพท์มายังข้างหน้าของกู้เทียนยี่ด้วยความระมัดระวัง
กู้เทียนยี่รับโทรศัพท์มา ทำท่าเหมือนเปิดดู จากนั้นก็ยื่นไปยังตำรวจที่อยู่ข้างกายของเขา พูดด้วยเสียงเข้มว่า “นายเป็นคนสอบปากคำเวินลั่วฉิง เบอร์โทรศัพท์นี้ใช่ของเวินลั่วฉิงหรือเปล่า?”
ตำรวจคนนั้นดูไปหนึ่งที จากนั้นก็พยักหน้า “ใช่ครับ”
“อืม” กู้เทียนยี่ตอบกลับไปคำหนึ่งด้วยเสียงที่เข้ม จากนั้นก็เปิดโทรศัพท์อีกครั้ง “สำหรับประวัติการโทรของเบอร์โทรศัพท์นี้มีสี่ครั้ง วันมะรืนหนึ่งครั้ง เมื่อวานสามครั้ง ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้โกหก”
ขณะนี้กู้เทียนยี่เหมือนว่าได้เปิดเผยคดีความกับผู้คนแล้ว ส่วนคำพูดในขณะนี้กู้เทียนยี่ ก็เท่ากับว่ายืนยันถึงความผิดของเวินลั่วฉิงแล้ว
“ตอนนี้มีหลักฐานที่ชัดเจน เวินลั่วฉิงจะหาข้ออ้างยังไงก็ไม่มีประโยชน์แล้ว” เวินหรวนหรวนกัดฟันตะโกนออกมาด้วยความเกลียด แน่นอนว่า ความเกลียดที่เวินหรวนหรวนมีต่อเวินลั่วฉิงนั้นเป็นความจริง แต่ว่า เวินหรวนหรวนในใจของเธอขณะนี้มีความสะใจซะมากกว่า
ตอนนี้ได้เปิดโปง ‘หลักฐาน’ ต่อหน้าผู้คนแล้ว ต่อมาใครก็ไม่สามารถช่วยเวินลั่วฉิงได้แล้ว
ถ้าหากยังมีคนอยากช่วยเวินลั่วฉิงพลิกคดีความอีก เธอก็สามารถพูดได้เลยว่านั่นเป็นของปลอม
ถึงแม้ว่าคุณชายห้าฉิงจะจำโจรคนอื่นๆ เจอเธอก็ไม่กลัว เอเป็นผู้ถูกกระทำ พอถึงเวลาเธอสามารถพูดได้ว่าคนพวกนั้นต่างก็ไม่โจร
ฉะนั้น ใครก็ไม่สามารถช่วยเวินลั่วฉิงได้แล้ว ครั้งนี้เวินลั่วฉิงตายแน่ๆ
เวินหรวนหรวนยิ่งคิดก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ
แน่นอนว่าคนที่ดีใจในตอนนี้ยังมีกู้เทียนยี่
วันนี้เขาตั้งใจแสดงละครนี้ต่อหน้านักข่าวมากมายขณะนี้ เวินหรวนหรวนก็ได้บอกเขาไว้ก่อนแล้ว
มีการยืนยันของเวินหรวนหรวน และหลักฐานของทางตำรวจ คดีนี้ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว
ความผิดของเวินลั่วฉิงสำเร็จ มีหลักฐานแน่ชัด งั้นโทษของคุณชายห้าฉิงที่ปกปิดความผิดก็สำเร็จแล้ว
เรื่อง ก็จัดการเรียบร้อยต่อหน้าผู้คนในตอนนี้แล้ว
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเวินลั่วฉิงจริงๆ ที่ไปจ้างพวกโจร ก่อนหน้านี้ฉันไม่เชื่อมาตลอด ไม่ว่ายังไงแล้วก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำไมจิตใจถึงโหดเหี้ยมแบบนี้?”
“คำโบราณพูดไว้ดี พิษที่ร้ายที่สุดคือจิตใจของผู้หญิง น่าจะพูดถึงคนแบบเวินลั่วฉิงแหละ”
“ใช่แล้ว นี่ก็โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ไม่ว่ายังไงเวินหรวนหรวนก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ”
“ไม่มีความเป็นคน แม้แต่สัตว์ก็สู้ไม่ได้”
หลังจากได้ยินคำพูดที่พูดคุยของทุกคนแล้ว เวินหรวนหรวนก็ยิ่งได้ใจไปใหญ่ ครั้งนี้ เธอจะต้องให้เวินลั่วฉิงตาย จะต้องให้เวินลั่วฉิงตายด้วยความอับเฉา
เธอต้องการที่จะสร้างความคิดเห็นต่างๆ ต่อ พอถึงเวลา ทางตำรวจจะต้องจัดการเงินลั่วฉิงแน่นอน
เวินหรวนหรวนยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ เธอในตอนนี้ต้องควบคุมอดทนไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา
“พอแล้ว พาโจรนายนี้เข้าไปข้างในก่อน ต่อมาก็ไปสอบปากคำเวินลั่วฉิง จนกระทั่งเธอจะยอมรับ…..” คำพูดนี้ของกู้เทียนยี่สามารถพูดได้เลยว่าโดยพื้นฐานคือแน่ชัดในความผิดของเวินลั่วฉิงแล้ว
กู้เจิ้งยี่หันหลังไป ริมฝีปากอดโค้งขึ้นไม่ได้ จากนั้นก็เดินตรงไปทางสถานีตำรวจ
“แต่ว่าคำพูดหนึ่งของโจร สามารถเชื่อได้หรอ? สู้ลองฟังคำพูดของโจรคนอื่นๆ ดูดีไหม?” แต่ว่า และในขณะนี้ ก็มีเสียงหนึ่งดังผ่านขึ้นมากะทันหัน
หลังจากที่ผู้คนได้ยินเสียงแล้ว ต่างก็มองไปทางนั้น แล้วก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินมา ทุกคนต่างก็ไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น
ข้างหลังของผู้ชาย มีชายชุดดำลากผู้ชายอีกสิบกว่าคนอยู่ ท่าทีดูน่ากลัวมาก
ในตอนที่เวินหรวนหรวนมองเห็นผู้ชายไม่กี่คนที่ถูกลาก สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อกี้เวินหรวนหรวนไม่ได้พูดโกหกเลย นั่นก็คือตอนนั้นเธอมองเห็นหน้าตาของโจร เพราะว่าคนพวกนั้นคิดอยากจะทรมานให้เธอตายตั้งแต่แรก ฉะนั้นจึงไม่ได้ป้องกันอะไร
ระยะห่างมีความไกลเล็กน้อย แต่ว่าเวินหรวนหรวนก็มองออกว่าเป็นโจรพวกนั้น
ร่างกายของเวินหรวนหรวนสั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอกลัว เธอกลัวจริงๆ ขณะนี้มองเห็นคนพวกนั้น เธอก็อดกลัวไม่ได้
อีกอย่าง เวินหรวนหรวนเข้าใจดี จับทุกคนได้แล้ว ต่อมาสิ่งที่จะพูดออกก็อาจจะเป็น…..
เวินหรวนหรวนรู้ดีที่สุด โจรพวกนี้ต่างก็รู้ว่าคนที่ออกเงินจ้างพวกเขามาคือหลี่หยุน เมื่อคืนตอนที่เพิ่งเริ่ม พวกเขาก็พูดแล้ว
“หรวนหรวน ทำไมร่างกายของหนูสั่นขนาดนี้? เป็นอะไรหรอ?” หลี่หยุนขับมือของเวินหรวนหรวน รับรู้ได้ถึงการสั่นของเวินหรวนหรวน ขณะนี้ในใจของเธอก็กลัวมากๆ เพราะเธอเดาออกแล้วว่าคือสถานการณ์อะไร
“แม่ คือคนพวกนั้น คือพวกมัน” เวินหรวนหรวนมองไปทางหลี่หยุน ก้มหัวแล้วตอบกลับไปคำหนึ่ง
ร่างกายของหลี่หยุนแข็งทื่อไปอย่างเห็นได้ชัดเจน “ทำยังไงดี? งั้นตอนนี้ทำยังไงดี?”