ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 705 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (11)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 705 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (11)
บทที่ 705 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (11)
ร่างกายของหลี่หยุนแข็งทื่อไปอย่างเห็นได้ชัดเจน “ทำยังไงดี? งั้นตอนนี้ทำยังไงดี?”
หลี่หยุนกระวนกระวายมาก คนพวกนั้นถูกจับแล้ว จะพูดชื่อพวกเธอออกมาด้วยหรือเปล่า
“แม่ แม่ไม่ต้องกลัว อย่ากระวนกระวาย พวกเขาจับคนพวกนั้นได้แล้ว ตำรวจต้องให้หนูตรวจสอบแน่นอน พอถึงเวลาหนูก็พูดว่าพวกมันไม่ใช่โจร” สำหรับจุดนี้เวินหรวนหรวนคิดไว้ตั้งนานแล้ว ฉะนั้นขณะนี้ถือว่าเธอยังสงบสติอารมณ์อยู่
ขณะนี้ ผู้ชายพวกนั้นเดินมาแล้ว ในตอนที่เดินมาถึงข้างกายของเวินหรวนหรวน แววตาของเขามองไปทางเวินหรวนหรวน “เมื่อกี้แค่แวบเดียวคุณเวินก็มองพวกโจรออกแล้ว จะลองตรวจสองดูอีกไม่กี่คนไหมครับ”
หลังจากหลี่หยุนได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็แอบสุดหายใจลึก จากนั้นก็จับมือของเวินหรวนหรวนแน่น ความหมายนั้นชัดเจนมาก
เวินหรวนหรวนแอบยิ้มในใจ ต้องให้เธอตรวจสอบจริงๆ ด้วย หากเธอพูดว่าไม่ใช่ ก็จะไม่มีคนสงสัยเธอ จะสงสัยแต่ผู้ชายที่พาคนพวกนั้นมา
“แต่ว่า ผมเป็นคนที่จิตใจดีมาโดยตลอด ไม่อยากจะเปิดบาดแผลของคุณเวินอีกรอบ ฉะนั้น ก็ไม่รบกวนคุณเวินมาตรวจสอบแล้ว” เวินหรวนหรวนกำลังแอบได้ใจอยู่ คนพวกนั้นก็เปลี่ยนคำพูดแล้ว
“แน่นอน คนพวกนี้ฉันเป็นคนพามา ฉันก็ได้ตรวจสอบแน่ชัดหมดแล้ว” จากนั้นคนคนนั้นก็พูดเสริมด้วยความมั่นใจอีกหนึ่งประโยค
“นายตรวจสอบยังไง?” เวินหรวนหรวนอึ้งไปเลย ถามกลับอีกหนึ่งประโยคทันที แน่นอนว่า เธอได้อดทนที่จะพูดคำพูดอีกคำที่เธอจะไม่ยอมรับไว้
แน่นอนว่าเธอรู้ ในเวลานี้คำพูดแบบนั้นไม่สามารถพูดได้
“อื้ม ประโยคนี้ของคุณเวินถามได้ดีมาก” ผู้ชายคนนั้นมองไปทางเวินหรวนหรวน ค่อยๆ พยักหน้า อ่อนโยนและมีมารยาท
ผู้คนฟังประโยคนี้ของเขาแล้ว ต่างก็มีความสงสัยเพิ่มขึ้น
“ทุกคนยังจำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับคุณเวินที่ถูกแพร่กระจายในเน็ตเมื่อตอนเช้านี้กันได้อยู่ใช่ไหม?” ผู้ชายยืนตัวตรง ค่อยๆ เปิดปากพูด พอพูดถึงจุดนี้ เขามองไปทางเวินหรวนหรวน “คุณเวิน ขอโทษครับ ผมรู้ว่าคลิปวิดีโอนั้นสร้างบาดแผลให้กับคุณ แต่ในเมื่อคุณยืนหยัดที่จำถาม ผมก็คงจะต้องตอบคุณเวินที่นี่แล้ว”
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสีหน้าของเวินหรวนหรวนเปลี่ยนไปเลย เธอกัดฟันแน่น ดวงตาแดงกระหน่ำไปหมด แต่ว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เธอไม่สามารถไม่อดทนได้
ผู้ชายคนนั้นเห็นเวินหรวนหรวนไม่พูดอะไร จึงพูดต่ออีกว่า “ตอนนั้น ถึงแม้ว่าผู้ชายในคลิปวิดีโอจะสวมใส่หน้ากาก แต่ว่าบนตัวของพวกเขาไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ฉะนั้นจุดเอกลักษณ์ต่างๆ บนร่างกายต่างก็ถูกเผยแพร่ออกมา พวกเราได้ตรวจสอบตามคลิปวิดีโอแล้ว แน่นอนว่า หากหัวหน้าสำนักงานกู้ไม่เชื่อ หรือว่าคุณเวินมีข้อสงสัยอะไร พวกเราก็สามารถตรวจสอบให้แน่ชัดต่อหน้าทุกคนได้ คดีความต้องการ ทุกคนต่างก็อยากรู้ความจริง ผมไม่คัดค้านอยู่แล้วครับ”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของผู้ชายคนนั้นแล้ว ผู้หญิงที่อยู่ในนั้นต่างก็อดหน้าแดงกันไม่ได้หมด จะตรวจสอบให้แน่ใจชัดเจนต่อหน้าทุกคนแสดงว่าจะ…..
“เอกลักษณ์บนร่างกายนั้นสำคัญเหมือนใบหน้า ผมคิดว่าหัวหน้าสำนักงานกู้เองก็น่าจะเข้าใจเหตุผลนี้นะครับ?” ผู้ชายคนนั้นมองไปทางกู้เจิ้งยี่ ยิ้มที่มุมปาก เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม
“คุณเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับคดีนี้?” ขณะนี้ในใจของกู้เจิ้งยี่ไม่พอใจมาก เมื่อกี้เขา ‘จัดการ’ เรียบร้อยแล้วแท้ๆ คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ จะมีเรื่องแบบนี้แทรกเข้ามาได้
คำถามนี้ของกู้เจิ้งยี่ถือว่ามีพื้นฐานอยู่ ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องตำรวจจับกุมนักโทษ คนปกติที่เข้ามาแทรก ต่างก็ไม่ได้มีอำนาจอะไร
กู้เจิ้งยี่รู้สึกว่าคนคนนี้เหมือนเป็นคนกลุ่มอิทธิพลมืด หากเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาสามารถไม่ยอมรับเรื่องพวกนี้ได้ ไม่แน่ยังสามารถจับคนคนนี้ได้อีกด้วย
“หัวหน้าทีมคดีพิเศษไป่หลี่หยูหมิง ในจิงเฉิงนี่คือ ใบรับรองของผม” ไป่หลี่หยูหมิงจึงจะเดินตรงไป แล้วหยิบใบรับรองของตัวเองออกมา
กู้เจิ้งยี่ได้ยินคำว่าทีมคดีพิเศษแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน แล้วหลังจากที่ได้ยินชื่อของไป่หลี่หยูหมิง สีหน้าก็แย่ลงทันที เขาเห็นไป่หลี่หยูหมิงหยิบใบรับรองออกมา ก็ยื่นมือออกไปทันที อยากจะนำมาดู แต่ว่าเห็นไป่หลี่หยูหมิงแค่นำออกมาโบกสักพัก ก็เก็บเข้าไปแล้ว
กู้เจิ้งยี่สูดหายใจลึก อดทนกัดฟัน แต่กลับไม่กล้าทำอะไรมั่วๆ หากคนนี้คือไป่หลี่หยูหมิงจริงๆ งั้นเขาเป็นโทษไม่ไหวจริงๆ
ไป่หลี่หยูหมิงไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้าของทีมคดีพิเศษ สถานะและเบื้องหลังของเขาก็ยิ่งน่าตกไปใหญ่
“จากตอนนี้เป็นต้นไป คดีนี้จะมีฉันมารับมือต่อ พวกเราจะสืบหาความจริง แล้วหาคนร้ายออกมา” ไป่หลี่หยูหมิงเก็บใบรับรอง จากนั้นก็ค่อยๆ พูดเสริมอีกหนึ่งประโยค
คำพูดนี้พูดให้กู้เจิ้งยี่ฟัง ยิ่งไปกว่านั้นคือพูดว่าเวินหรวนหรวนและหลี่หยุนฟัง
“แต่ว่า คดีนี้ฉันเป็นคนดูแลในตอนนี้อยู่แท้ๆ แล้วพวกเราก็มีการคืบหน้าของการดำเนินคดีแล้วด้วย….” กู้เจิ้งยี่ไม่พอใจ เขาได้วางแผนเรื่องทั้งหมดไว้แล้ว ก้าวแรกของแผนการก็ราบรื่นมาก เขาไม่พอใจที่ถูกทำร้ายไปแบบนี้
“หัวหน้าสำนักงานกู้อย่ารีบร้อย ในไม่ช้าคุณก็จะได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการ” ไป่หลี่หยูหมิงตัดคำพูดของเขา
กู้เจิ้งยี่ในขณะนี้ทั้งโมโหทั้งตกใจ เขารีบมองไปทางเวินหรวนหรวน ให้แววตากับเวินหรวนหรวน
“นี่พวกนายอยากจะปกปิดความผิดของเวินลั่วฉิง? ฉันไม่เชื่อพวกเธอ ไม่เชื่อพวกเธอ คนพวกนั้นต่างก็ไม่ใช่โจรที่แท้จริง พวกนายมาช่วยเวินลั่วฉิงกันชัดๆ อยากจะมาใส่ร้ายพวกเรากันชัดๆ” เวินหรวนหรวนเข้าใจความหมายของกู้เจิ้งยี่ จากนั้นก็ตะโกนไปทางไป่หลี่หยูหมิง
“คุณเวินพูดแบบนี้หมายความว่าอะไรครับ?” ไป่หลี่หยูหมิงมองไปทางเวินหรวนหรวน ตั้งใจถามไปหนึ่งประโยค
“นายพาคนมามากมายขนาดนี้ ก็เพราะว่าอยากใช้คนมากมายพวกนี้มาปฏิเสธข้อมูลที่โจรเมื่อกี้ให้มา แต่ว่าคนพวกนี้ไม่ใช่โจรอยู่แล้ว เมื่อกี้นายบอกว่าเอกลักษณ์บนร่างกายอะไรพวกเราต่างก็ไม่เห็น อีกอย่างพวกนั้นก็สามารถสร้างขึ้นมาปลอมๆ ได้ หากนายแค่หาคนที่มีรูปร่างเหมือนคนพวกนั้นมา ทุกคนต่างก็ไม่รู้ แต่ว่าโจรตัวจริงฉันต่างก็รู้จัก คนพวกนี้ไม่ใช่โจรจริงๆ อยู่แล้ว” เวินหรวนหรวนในขณะนี้รับรู้ถึงความหมายของกู้เจิ้งยี่แล้ว แน่นอนว่าเธอก็เพราะว่าหลี่หยุน ยิ่งไปกว่านั้นคือเพื่อตัวเธอเอง
“ใช่หรอ? คุณเวินไม่รู้ถึงเอกลักษณ์บนตัวของผู้ชายพวกนั้นหรอ? ผมนึกว่าคุณเวินจะรู้ดีที่สุดซะอีก” ไป่หลี่หยูหมิงเบ้ปาก บนใบหน้ามีความประชดเพิ่มขึ้น
เขาเคยเห็นคนที่ลืมตาพูดคำบอด กุเรื่องขึ้นมาเอง แต่ยังไม่เคยเห็นคนที่ไม่เอาหน้าขนาดนี้มาก่อนเลย
คนที่คุณชายสามเย่จับด้วยตัวเองจะมีผิด? ให้ตายเถอะ
“นาย นายดูถูกฉัน ดูก็รู้ว่าเป็นพวกเดียวกับเวินลั่วฉิง? ดูก็รู้ว่ามาช่วยเวินลั่วฉิงชัดๆ” เวินหรวนหรวนได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ก็คิดว่าตัวเองจะจับจุดอ่อนของเขาได้ เสียงก็สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ดูเหมือนว่า คุณเวินอยากจะสอบปากคำต่อหน้าผู้คน สืบหาความจริง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็ทำตามความต้องการของคุณเวินละกัน” ไป่หลี่หยูหมิงมองไปทางเวินหรวนหรวน เผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปาก