ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 707 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (13)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 707 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (13)
บทที่ 707 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (13)
เขาจะต้องช่วยคุณชายสามเย่ทำการแสดงนี้ให้ดี
“เซียวเจิ้ง นายออกมาพูดสักสองสามคำสิ” ไป่หลี่หยูหมิงเรียกลอยๆ ไปหนึ่งประโยค
หลังจากนั้นระยะห่างข้างหลังที่ไม่ไกลกับเขามากนัก ก็มีผู้ชายที่รูปร่างผมเดินผ่านมา “สวัสดีครับทุกคน ผมคือเซียวเจิ้ง”
ก่อนหน้านี้ ทุกคนต่างก็ไม่ได้สังเกตเห็นเขา แต่ว่าตอนนี้พอเห็นแววตาของเขาแล้ว ทุกคนต่างก็อึ้งไปเลย แววตาคู่นั้นราวกับว่าสามารถมองทุกอย่างออกทันที ทำให้ความสกปรกทุกทุกอย่างไม่สามารถซ่อนเร้นได้
ผู้อาวุโสที่อายุประมาณหกสิบกว่าปี แววตานั้นกลับยังคงเฉียบคม
“เขาคือเซียวเจิ้ง! เขาคือเซียวเจิ้งจริงๆ ด้วย! พระเจ้า คิดไม่ถึงเลยว่าฉันมีชีวิตถึงตอนนี้จะได้พบเจอกับเซียวเจิ้ง” มีนักข่าวคนหนึ่งตื้นตันจนพูดไม่ชัดแล้ว
“คือเซียวเจิ้งจริงด้วยๆ ด้วย!” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคนที่รู้จักเซียวเจิ้งไม่ได้มีแค่เพียงคนเดียว นักข่าวท่านอื่นๆ ต่างก็มองออก
แต่ว่าทุกคนต่างก็มีความยากที่จะเชื่อ
เซียวเจิ้งนั้นมีตัวตนดั่งเทวดาคนหนึ่ง ไม่เพียงแต่ทักษะที่เขามีมากกว่าผู้คนอื่นๆ ในด้านคอมพิวเตอร์ อำนาจในด้านต่างๆ ยิ่งไม่มีที่น่าสงสัยเลย
ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นสมาชิกหลักของกลุ่มที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก รับผิดชอบปัญหาด้านทักษะคอมพิวเตอร์เป็นพิเศษ
แต่ว่า หลังจากที่เขาถอยออกมาแล้ว ก็บำเหน็จบำนาญอยู่ที่บ้านมาโดยตลอด มีผู้คนใหญ่คนโตมากมายไปเชิญเขาโดยเฉพาะ แต่ว่าต่างก็ถูกปฏิเสธอยู่
คนคนนี้ไม่เห็นแก่เงิน ไม่เห็นแก่อำนาจ และไม่เห็นแก่ความรู้สึก ไม่หลงใหลในกามคุณ คนนอกต่างก็พูดว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีความปรารถนาใดๆ ขอถามหน่อยว่าคุณจะดึงดูดคนที่ไม่มีความปรารถนาใดๆ อย่างไร?
ฉะนั้น ตลอดหลายปีมานี้จึงไม่มีใครที่สามารถเชิญเขาออกมาได้เลย
วันนี้เขากลับมาถึงสถานที่นี้ด้วยตัวเอง?
ใครกันที่มีความสามารถนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถเชิญเขามาได้?
คือใคร? คือใคร? คือใครที่มีความสามารถมากมายขนาดนี้?
“คลิปวิดีโอในกล้องวงจรปิดฉันเป็นคนกู้คืนกลับมาเอง ฉันสามารถรับรองความจริงได้” สีหน้าของเซียวเจิ้งเงียบสงบ ทำเหมือนว่าไม่ได้เห็นถึงความตื้นตันของนักข่าวพวกนั้น เสียงของเขาไม่ได้สูง ถึงขั้นมีความแหบเล็กน้อย แต่ว่าคำพูดที่พูดออกมาทีละคำนั้น กลับมีเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนไร้ซึ่งความสงสัย
ด้านทักษะคอมพิวเตอร์นี้ คำพูดของเซียวเจิ้งนั้นมีอำนาจ ไม่มีคนสามารถสงสัยได้
“นายมิสิทธิ์อะไรมารับรอง? พวกนายเป็นพวกเดียวกันชัดๆ พวกนายต่างก็เป็นคนโกหก ต่างก็โกหกกันหมด” เวินหรวนหรวนไม่ได้รู้จักเซียวเจิ้ง แต่ว่าท่าทีที่นักข่าวมีต่อเซียวเจิ้งเมื่อกี้กลับทำให้เธอแล้ว เวินหรวนหรวนอยากจะเป็นคนควบคุมก่อน
เซียวเจิ้งไม่ได้มองเธอเลย ความเงียบสงบบนใบหน้าไม่ได้มีคลื่นใดๆ เลย หลังจากคำพูดที่เขาพูดจบแล้ว ก็หันหลัง แล้วจากไป
จากไปแบบนั้นเลย!!
เขามาแล้วก็เพื่อที่จะพูดประโยคนี้ประโยคเดียว?
แต่ว่า พลังของประโยคนี้กลับไม่สามารถละเลยได้ง่ายๆ
“คนโกหก เขาเป็นคนโกหก พวกเธอดูสิเขารู้สึกผิดแล้ว จะหนีไปแล้ว” หลี่หยุนเห็นเซียวเจิ้งจากไปแบบนี้ ก็รีบตะโกนดังขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าอยากจะกระตุ้นถึงอารมณ์ของทุกคน
“คำพูดของเซียวเจิ้ง ฉันเชื่อ” นักข่าวที่มองออกถึงเซียวเจิ้งในแวบแรกมองไปทางหลี่หยุนหนึ่งที เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าบนใบหน้ามีความไม่พอใจอยู่
“ฉันก็เชื่อ เชื่อในทักษะด้านคอมพิวเตอร์ของเขา เชื่อในความเป็นมนุษยธรรมของเขา ยิ่งเชื่อในอำนาจของเขา” นักข่าวอีกคนหนึ่งก็ออกความเห็นตาม
“ฉันก็เชื่อ!!”
“เชื่อเหมือนกัน!!”
นักข่าวที่อยู่ในนั้นต่างก็ออกความเห็นกันหมด เพราะว่าพวกเขาต่างก็เคยได้ยินเรื่องราวของเซียวเจิ้งมาก่อน พวกเขาต่างก็คิดว่าเซียวเจิ้งไม่มีทางโกหก
เซียวเจิ้งไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ และไม่จำเป็นที่จะต้องโกหก
ฉะนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะพูดเพียงคำเดียวก็จากไป ถึงแม้ว่าเวินหรวนหรวนอยากจะปฏิเสธยังไง อำนาจก็คืออำนาจ ไม่มีใครสามารถสงสัยได้ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้
“พวกเธอห้ามเชื่อเขา ห้ามให้เขามาหลอก พวกเธอต่างก็ถูกเขาหลอกแล้ว พวกเขาเป็น คนหลอกลวง ต่างก็เป็นคนหลอกลวง” หลี่หยุนได้ยินคำพูดของนักข่าวแล้วก็กระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดเจน ตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณหญิงเวิน พวกเรามีความสามารถในการแบ่งแยกค่ะ” มีนักข่าวได้ยินหลี่หยุนตะโกนพูดว่าพวกเขาโดนหลอกแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าไม่พอใจ
“พวกเขาคือคนโกหกจริงๆ พวกเขาต่างก็เป็นคนหลอกลวงทั้งหมด พวกเขารวมตัวกันมาหลอกเรา หลักฐานของพวกเขาต่างก็เป็นของปลอม…..” หลี่หยุนยิ่งกระวนกระวายไปใหญ่ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าน้ำเสียงสูงขึ้นเยอะมาก ราวกับว่าเธอปรับเสียงให้สูงขึ้นคนอื่นๆ ก็จะเชื่อเธอแล้ว
“คุณเวิน คุณยังไม่ได้ดูคลิปที่ถูกกู้คืนมาเลย ทำไมคุณถึงแน่ใจเลยล่ะว่าเป็นของปลอม” นักข่าวคนหนึ่งอดไม่ได้ถามมาประโยคหนึ่ง
หลี่หยุนถูกอัดจนพูดอะไรไม่ออกเลย
“ใช่แล้ว พวกคุณยังไม่เห็นคลิปวิดีโอเลย ทำไมถึงยืนหยัดเลยล่ะว่าวิดีโอเป็นของปลอม? พวกคุณบอกว่าเวินลั่วฉิงให้พวกโจรมาลักพาตัวเวินหรวนหรวน พวกคุณพูดว่าคลิปกล้องวงจรปิดในบ้านของตระกูลเวินถูกเวินลั่วฉิงลบทิ้ง ในเมื่อเวินลั่วฉิงเป็นคนลบทิ้ง งั้นก็ต้องไม่เป็นประโยชน์ต่อเวินลั่วฉิง แล้วมีประโยชน์ต่อพวกคุณ ดังนั้น ตามหลักแล้วนี่ควรจะเป็นสิ่งที่ช่วยพวกคุณไม่ใช่หรอ? ทำไมพวกคุณถึงกลัวล่ะ?”
“นักข่าวหลิว พูดไม่ผิด ตามหลักที่พวกคุณพูดแล้ว คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดถูกกู้คืนน่าจะเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณ ตามหลักแล้วพวกคุณควรจะดีใจไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงต้องกลัวล่ะ? ทำไมถึงต้องจัดขวาง?”
นักข่าวแต่ละคนต่างก็เริ่มสงสัยอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพวกเขาเริ่มสงสัยเวินหรวนหรวนและหลี่หยุนแล้ว
“คุณไป่หลี่ ขอถามหน่อยค่ะว่าคลิปวิดีโอที่พวกคุณกู้คือมาคือวิดีโออะไรกันแน่?” มีนักข่าวคนหนึ่งถามไปทางไป่หลี่หยูหมิงโดยตรงเลย
ไป่หลี่หยูหมิงยืนดูการแสดงมาโดยตลอด บันเทิงขนาดนี้ เขาเริ่มติดใจ ลืมเรื่องหลักไปเลย
พอนักข่าวถามแบบนี้ สีหน้าของเขาก็ดูจริงจังมากขึ้น กระแอมคอ พูดด้วยเสียงเข้มว่า “คุณเวินบอกว่าเมื่อคืนเวินลั่วฉิงหลอกให้คุณออกไป คุณแม่ของคุณเวินคุณหลี่ได้ส่งคลิปวิดีโอที่คุณเวินและเวินลั่วฉิงออกจากบ้านของตระกูลเวินพร้อมกันให้กับทางตำรวจ แต่ว่าคุณเวินส่งมาเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แล้วพวกเราก็ได้กู้คืนวิดีโอที่สมบูรณ์แล้ว”
เวินหรวนหรวนได้ยินคำพูดของไป่หลี่หยูหมิงแล้ว ทั้งตัวของเธอก็แข็งทื่อไปเลย เธอรู้ดีที่สุดว่าเมื่อคืนเกินอะไรขึ้นกันแน่
หลี่หยุนเองก็ตกใจจนขาอ่อนไปหมด ร่างกายสั่นไปหมด
“คุณตำรวจไป่หลี่ คลิปวิดีโอที่สมบูรณ์คือยังไงคะ?” นักข่าวได้ยินว่ามีคลิปวิดีโอที่สมบูรณ์ แววตาของแต่ละคนต่างก็ประกายแสงออกมากันหมด
หากแค่กู้คืนเพียงแค่วิดีโอของกล้องวงจรผิด แน่นอนว่ามีประโยชน์ แต่ว่าความโน้มน้าวใจไม่สูง หากในคลิปนี้มีวิดีโอที่หลี่หยุนส่งมอบมา แน่นอนว่าผลจะดีกว่า
“นำคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดโพสต์ลงบนทางเว็บไซต์ของทางตำรวจ” ไป่หลี่หยูหมิงไม่ได้ตอบคำถามของนักข่าว แต่ว่าฟันไปออกคำสั่งคนที่อยู่ข้างกายเขาไปหนึ่งประโยค
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า การกระทำแบบนี้ของไป่หลี่หยูหมิงดูระมัดระวังกว่ากู้เจิ้งยี่ในเมื่อกี้สิบเท่า ร้อยเท่า
เขาไม่ได้เอาคลิปวิดีโอให้นักข่าวดู แต่ว่าโพสต์เผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตโดยตรงเลย
เว็บไซต์ของทางตำรวจมีอำนาจที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถตั้งข้อสงสัยได้ ในเวลาเดียวก็ถือเป็นการแสดงตัวของไป่หลี่หยูหมิง――เผยแพร่ ยุติธรรม ไม่มีการปกปิด ไม่มีการกลัวใดๆ
ทั้งหมดนี้ สามารถหยุดยั้งความสงสัยของทุกคนได้