ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 713 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 713 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (3)
บทที่ 713 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (3)
แน่นอน สิ่งที่เวินลั่วฉิงกังวลที่สุดก็คือ หลังจดทะเบียนสมรสกับเย่ซือเฉินแล้ว จะกลับไปอธิบายยังไงให้ลูกทั้งสองคนฟัง
เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา ดวงตากะพริบ เธอฟ้าด้านนอกเริ่มมืดแล้ว เวลานี้พนักงานสำนักทะเบียนคงเลิกงานกันแล้ว
“ตอนนี้พนักงานสำนักทะเบียนเลิกงานแล้ว”ตอนที่เวินลั่วฉิงพูดคำนี้ แอบโล่งอกเล็กน้อย
คุณชายสามเย่เป็นผู้ฉลาดเพียงใด ตอนนี้เขาเข้าใจความคิดของเธอดี ดังนั้นจึงมองวัตถุประสงค์ของเธอออก มุมปากของเขาค่อยๆยกขึ้น “ไม่เป็นไร พวกเขาเลิกงานก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการจดทะเบียนสมรสของพวกเรา”
เวินลั่วฉิงเบิกตากว้าง จ้องมองเขาตรงๆ มุมปากอดกระตุกไม่ได้ ก็ได้ เหมือนอะไรๆจะไม่ยากเกินความสามารถคุณชายสามเย่เลย
ข้าราชการสำนักทะเบียนเลิกงานยังขวางการจดทะเบียนสมรสของเขาไม่ได้ เช่นนั้นทำอย่างไรจึงจะขวางเขาสำเร็จ?
ร่างกายเวินลั่วฉิงเข้าไปแนบชิดเขา ด้วยความสูงเวลาเธอนั่ง ใบหน้าเธอเข้าแนบชิดคอเขาพอดี ใบหน้าของเธอแนบชิดคอเขาเบาๆ เธอจงใจพ่นลมหายใจ ทำให้ลมหายใจอุ่นๆกระจายไปตามผิวกายของเขา
ร่างกายคุณชายสามเย่แข็งตึงอีกครั้ง เขามองลงมายังเธอแล้วเห็นเนินอกของเธอพอดี เห็นเธอจงใจยั่วยวน ดวงตาของเขาก็มืดมนหลายส่วน
ผู้หญิงคนนี้กำลังอ่อยเขาอยู่ เห็นได้ชัดว่า……
“นั่งดีๆ”วินาทีต่อมา เย่ซือเฉินก็ดึงตัวเธอให้ตรง ทำลายการกระตุ้นอารมณ์ของเธอทิ้ง
คุณชายสามเย่ตัดสินใจแล้ว เวลานี้เขาขอไม่รับการยั่วยวนใดๆทั้งสิ้น วันนี้เขาต้องทำการใหญ่ให้ได้เสียก่อน
เวินลั่วฉิงชะงัก ตอนที่มองไปยังเขา ดวงตามีความประหลาดใจหลายส่วน เธอเสนอตัวล่อใจถึงขั้นนี้แล้ว แต่ดันล้มเหลวซะงั้น?
ปกติคุณชายสามเย่คลั่งไคล้จนไม่อยากทน ตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะเป็นฝ่ายรุกสักครั้งหนึ่ง แต่เขากลับให้เธอนั่งดีๆ?
เย่ซือเฉิน คุณไปไกลๆเลย!!
การยั่วยวนล้มเหลว เวินลั่วฉิงเลยคิดหาวิธีอื่น หาวิธีอื่นที่ทำให้เย่ซือเฉินเปลี่ยนแปลงความคิดได้
แต่พอนึกไปนึกมา เวินลั่วฉิงก็สรรหาวิธีดีๆไม่ได้เลย เพราะเวินลั่วฉิงรู้ดีว่า สิ่งที่เย่ซือเฉินตัดสินใจแล้วก็ยากต่อการเปลี่ยนแปลง
“เย่ซือเฉิน พวกเราไปจดทะเบียนสมรสกันอย่างนี้ไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า”สุดท้ายเวินลั่วฉิงก็ตัดสินใจพูดตรงๆ แต่เธอพูดอ้อมๆอยู่บ้าง
“เมื่อกี้คุณเป็นคนบอกเอง ผมอยากทำยังไงก็ได้ ทำไม?คุณจะกลับคำแล้วเหรอ?”คุณชายสามเย่มองหน้าเธอ ดวงตาทั้งคู่หรี่ขึ้นมีกลิ่นอายอันตรายหลายส่วน
เวินลั่วฉิงเม้มปาก ใช่ เธอพูดว่าเขาอยากทำอะไรก็ทำ แต่เธอไม่ได้หมายถึงอย่างนี้ เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
“ฉันไปจดทะเบียนสมรสกับคุณอย่างนี้ กลับบ้านจะอธิบายกับคนในบ้านยังไง”เวินลั่วฉิงถอนหายใจเบาๆ เวลานี้คนในบ้านที่เธอพูดถึงคือเด็กรักทั้งสองคน
อันนี้คือสิ่งที่เธอกังวลที่สุดในตอนนี้
“เมื่อกี้ตอนอยู่บ้านตระกูลถัง ท่านย่าถังรับปากแล้วนี่”ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น จ้องมองเธอตรงๆ และโต้แย้งเหตุผลของเธอทันที
บัดนี้เหตุผลนี้ไม่เป็นผลต่อเขา
“แต่ยังมีสองคนไม่เห็นด้วย”เวินลั่วฉิงเบะปาก ยังมีสองคนยังไม่เห็นด้วย และสองคนที่คือประเด็นสำคัญที่สุด
หากลูกรักทั้งสองคนเห็นด้วย อันที่จริงเธอก็ไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก
“ถ้าผมจำไม่ผิด ตอนนั้นพวกท่านไม่ได้ต่อต้าน แสดงว่าพวกเขาเห็นด้วยนั่นแหละ”เย่ซือเฉินคิดว่าเธอกำลังพูดถึงท่านปู่ถังกับคุณปู่เวินอยู่
เวินลั่วฉิง“……”
“พวกท่านไม่ใช่ประเด็นสำคัญ”เวินลั่วฉิงครุ่นคิดดูแล้วจึงเอ่ยปากพูด อันที่จริงตอนนี้ผู้ใหญ่ในบ้านทั้งหลายไม่ได้เห็นต่างอะไร
ดังนั้นตอนนี้พวกท่านไม่ใช่ปัญหา
“ห่ะ?”คุณชายสามเย่ขมวดคิ้ว ใบหน้ามีความสงสัยหลายส่วน พวกท่านไม่ใช่ประเด็นสำคัญ?แล้วอะไรคือประเด็นสำคัญล่ะ?
“อันที่จริงพวกเราอยากจดทะเบียนสมรส คุณจำเป็นต้องผ่านหนึ่งด่านก่อน”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ คิดว่าเธอไม่บอกเย่ซือเฉินแต่เธอใบ้ให้เย่ซือเฉินฟังหน่อยคงได้อยู่มั้ง?
“ด่านไหน?”คุณชายสามเย่ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม เขารู้สึกว่าด่านที่เขาควรจะผ่านก็ผ่านมาแล้ว ระหว่างพวกเขายังมีอุปสรรคอะไรอีก
“คุณต้องผ่านการทดสอบจากคนสองคนก่อน สองคนนี้พอใจก็ไม่เป็นปัญหา”เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าพูดได้กระจ่างเพียงพอแล้ว แต่เพราะถังจื่อโม่กำชับหนักกำชับหนา เธอจึงปกปิดสถานะของเด็กทั้งสองคนไว้
“บททดสอบของคนสองคน?”คิ้วคุณชายสามเย่ยกขึ้น ตาหรี่กะพริบเบาๆ
“อืม บททดสอบจากสองคน”เวินลั่วฉิงมองหน้าเขาอย่างตั้งใจ พลางพยักหน้า อันที่จริงเป็นบททดสอบของเด็กน้อยถังจื่อโม่คนเดียว เด็กน้อยถังจื่อซีแค่ร่วมแจมด้วยเท่านั้น
“สองคนไหน?”คุณชายสามเย่มองท่าทางจริงจังของเธอ น้ำเสียงมีความหยอกล้อหลายส่วน
เวินลั่วฉิงตั้งใจคิดดูดีๆแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆพูดว่า“สองคนนี้สำคัญต่อฉันมาก และสำคัญต่อคุณมากเช่นกัน”
คำพูดของเธอถือได้ว่าชัดเจนมากแล้ว เย่ซือเฉินฉลาดอย่างนั้น เก่งกาจอย่างนั้น คงทายได้อยู่แหละ?น่าจะได้แหละ?
เวินลั่วฉิงมองหน้าเขาด้วยดวงตาเป็นประกายวิบวับ ถ้าคุณชายสามเย่ทายได้เอง……
หากคุณชายสามเย่ทายถูกเอง เรื่องนี้คงง่ายขึ้นเยอะมาก?
เย่ซือเฉินมองหน้าเธอ มองอยู่อย่างนั้น คิ้วยังคงขมวดแน่นๆ มุมปากเขาเม้มขึ้น จากนั้นพูดกะทันหันว่า “เวินลั่วฉิง คุณจงใจหาข้ออ้างหรือเปล่า ไม่อยากไปจดทะเบียนสมรสกับเขาใช่หรือไม่?”
สำคัญสำหรับเธอ สำคัญสำหรับเขาด้วย?!
สองคนประเภทนี้ เขาคิดไม่ออกจริงๆ
ถังหลิน?!ถังหลินสำคัญกับเธอและสำคัญกับเขา แต่ถังหลินไม่มีทางออกบททดสอบเขาเด็ดขาด
พวกท่านปู่ถังก็อนุญาตแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นทดสอบอีก
ดังนั้น ขาคิดคนอย่างนั้นไม่ออก แถมยังมีตั้งสองคน?
เขารู้สึกว่าเป็นข้ออ้างของเธอ
เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา พลางกะพริบตารัวๆ จากนั้นก็ถอนหายใจ เธอรู้สึกว่าบางครั้งคุณชายสามเย่ฉลาดจนน่ากลัว แต่บางครั้งก็โง่จนต้องถอนหายใจ……
บางครั้งเธอไม่พูดอะไรเลย เขาก็เดาได้ แต่ตอนนี้เธอพูดชัดแจ้งขนาดนี้แล้ว ทำไมเขายังทายไม่ได้อีก?
เขาไม่เพียงแต่เดาไม่ออก อีกทั้งยังสงสัยเธอ สงสัยเธอว่าจงใจหาข้ออ้าง
“ฉิงฉิง คุณอย่าพยายามเปล่าๆอีกเลย……”คุณชายสามเย่โอบเอวเธอแน่นขึ้น เขาเอียงกายเข้าใกล้เธอ จากนั้นก็จูบตรงหน้าผากเธอเบาๆ
“เย่ซือเฉิน คุณเคยคิดมาก่อนไหมว่า คุณอาจจะมี……”เวินลั่วฉิงหดหู่ใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกน่าขันบ้าง เธอกะพริบตาปริบๆ เตรียมเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
เธอกำลังคิดว่าหรือจะบอกเขาไปเลย?ดูท่าทางเขาแล้วคงทายไม่ถูก!!