ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 728 การยั่วยวนจากปีศาจ
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 728 การยั่วยวนจากปีศาจ
บทที่ 728 การยั่วยวนจากปีศาจ
เด็กน้อยถังจื่อโม่เป็นคนไวต่อความรู้สึก เขากลัวเย่ซือเฉินไม่ชอบเขา ไม่ชอบน้องสาวเขา
เฟิ่งเหมียวเหมียวฟังเข้าใจเสียที จึงอดกระตุกมุมปากไม่ได้ เมื่อกี้ทำให้เธอตกใจหมดเลย เธอคิดว่าเย่ซือเฉินตาบอดจริงๆเสียอีก
“ได้ งั้นแม่ไม่รักษาแล้ว รอลูกไปรักษาแล้วกัน แม่รู้ว่าลูกรักษาหายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตาหรือใจของเขา”เวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของเด็กน้อยถังจื่อโม่ ดังนั้นเรื่องพ่อลูกก็ให้พ่อลูกเคลียร์กันเอง
ส่วนเธอไปหาเย่ซือเฉินมีเรื่องที่สำคัญกว่า ใช่ มีเรื่องสำคัญกว่า
ถังจื่อโม่เบะปากไม่ได้พูดอะไร
เวินลั่วฉิงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก
“พี่ชาย หม่ามี้ไม่ใช่พูดว่าให้พี่ชายรักษาอาการของพ่อหรอกเหรอ?ทำไมแม่ยังไปอีกล่ะ?”หลังเวินลั่วฉิงออกไป เด็กน้อยถังจื่อซีได้สติกลับมา ปากเล็กก็ยกขึ้นมา
ดังนั้น นั่นเป็นเพียงข้ออ้างของคุณแม่ ยัยซื่อบื่ออย่างเธอหลงกล แต่เด็กน้อยถังจื่อโม่ไม่ได้พูดออกมา
“พี่ชาย ฉันรู้สึกว่าตอนนี้แม่รักพ่อมากกว่าพวกเราเสียอีก”ดวงตาคู่ฉลาดของถังจื่อซีหมุนไปมา จากนั้นก็พูดประโยคนี้ออกมากะทันหัน
ริมฝีปากถังจื่อโม่ขยับ อยากอธิบายหรือเธออยากช่วยแม่โต้แย้ง แต่เขาพบว่าไม่มีอะไรให้โต้แย้งได้เลย
เพราะในใจเขาก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน
แม่ของพวกเขาเมื่อคืนไม่ได้พักผ่อนเลย กลับถึงบ้านบอกว่าจะพักผ่อนแล้ว ‘ไล่’พวกเขาลงมา ผลสุดท้าย ตอนนี้แม่ไปหาเย่ซือเฉิน?
เขายังพูดอะไรได้อีก?
“แดดดี้รักหม่ามี้มากกว่าพวกเรา ตอนนี้หม่ามี้ก็รักแดดดี้มากขึ้น?”เด็กน้อยถังจื่อซีเสริมขึ้นมาช้าๆอีกหนึ่งประโยค
เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินถังจื่อซีพูดก็ชะงัก เตรียมอ้าปากพูด
“อืม พวกเขารักกันก็สมควรแล้ว”แต่เธอไม่ทันพูด เด็กน้อยถังจื่อโม่ก็ลั่นประโยคนี้ออกมา
ถึงเขาจะมีเรื่องไม่พอใจเย่ซือเฉินเยอะแยะ แต่สำหรับพ่อแม่รักใคร่กลมเกลียวถือเป็นเรื่องปกติ
ตอนแรกเวินลั่วฉิงอยากเรียกลุงหลี่ให้ไปส่ง แต่เธอนึกได้ว่าเธอไปหาเย่ซือเฉินตอนนี้ ไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่ ดังนั้นเธอเอากุญแจกับลุงหลี่แล้วขับรถไปเอง
ไม่มีคำติกับเทคนิคขับรถของเวินลั่วฉิงเลย เธอใช้ความเร็วสูงสุดไปถึงบ้านเย่ซือเฉิน แน่นอน ครั้งนี้เธอไม่ได้ฝ่าไฟแดงและไม่ได้ขับเกินความเร็วที่กำหนด
เวินลั่วฉิงรู้รหัสประตูบ้านจึงเปิดเข้าไป แล้วตรงขึ้นไปชั้นบนเลย จากนั้นก็ไปที่ห้องนอนของเย่ซือเฉิน
แต่ห้องนอนของเย่ซือเฉินไม่มีคนอยู่
เวินลั่วฉิงชะงัก ตามหลักแล้ว เวลานี้เย่ซือเฉินน่าจะถึงบ้านแล้วนี่
หรือเขาไม่กลับบ้าน ไปที่บริษัท?
เวินลั่วฉิงชะงัก รู้สึกตัวเองใจร้อนเกินไป
ตอนแรกอยากให้เซอร์ไพรส์กับเย่ซือเฉิน คิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะไม่อยู่บ้าน
เวินลั่วฉิงถอนหายใจเบาๆหนึ่งเฮือก จากนั้นก็ออกจากห้องนอนหลัก ตอนแรกเธออยากลงไปเลย แต่ตอนที่เธอเดินผ่านห้องนอนเก่าของเธอ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว
ดวงตาเวินลั่วฉิงประกายวาววับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เปิดประตูห้องเข้าไป
ในห้องไม่มีคนเช่นกัน แต่ตรงห้องอาบน้ำมีเสียงน้ำไหลแว่วมา
เย่ซือเฉินเพิ่งกลับถึงบ้านไม่นาน เขากำลังอาบน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำ
เวินลั่วฉิงอดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ เย่ซือเฉินไม่นอนที่ห้องนอนใหญ่ แต่มานอนห้องที่เธอเคยนอน?
คุณชายสามเย่คิดถึงเธอมากเกินเหตุหรือเปล่า?
มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เธอปิดประตูห้อง จากนั้นก็เดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ
เดินไปถึงนอกประตูห้องอาบน้ำแล้ว เธอก็เคาะประตูห้องอาบน้ำ
“ใคร?”ในห้องอาบน้ำ เสียงน้ำไหลหยุดลง เย่ซือเฉินส่งเสียงทุ้มต่ำออกมา
เห็นได้ชัดว่าเสียงเคาะประตูนี้เกิดขึ้นกะทันหันมาก ทำให้คุณชายสามเย่ตอบสนองไม่ทัน
“คุณเย่ต้องการบริการพิเศษไหมคะ?”เวินลั่วฉิงจงใจปรับเสียงแล้วถามหนึ่งประโยค เสียงนั้นออดอ้อนฟังแล้วยั่วเย้ามาก
แน่นอน ตอนที่พูด รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเพิ่มขึ้นหลายส่วนอย่างชัดเจน
เธอคิดว่าทำอย่างนี้ในเวลานี้ จะทำให้คุณชายสามเย่ตกใจกลัวหรือเปล่า?
จากนั้น วินาทีต่อมา ประตูห้องก็เปิดออกกะทันหัน
ดวงตาเวินลั่วฉิงมองอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เย่ซือเฉินสวมใส่ชุดอาบน้ำ แต่บริเวณอกแกร่งยังมีหยดน้ำอยู่
เห็นได้ชัดว่ารีบเกินไป ไม่ทันเช็ดให้แห้ง
เย่ซือเฉินมองหน้าเธอ มองตรงๆอย่างไม่กะพริบตา ไม่ขยับเขยื้อน และไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ตอบสนองใดๆ อาจเป็นตอนนี้เขาไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
ทำไมเธออยู่ที่นี่?
เธอไม่ใช่กลับบ้านนอนแล้วเหรอ?
ก่อนหน้านี้เธอสรรหาวิธีไล่เขากลับมา ทำไมมา……
ยามนี้เย่ซือเฉินรู้สึกว่าตัวเองปรากฏตัวอยู่ในภาพหลอน แค่ไม่นอนหนึ่งคืนก็ถึงกลับเกิดภาพหลอนเชียวหรือ?
“ได้ยินว่ามีบริการพิเศษ คุณชายสามเย่ตอบสนองอย่างนี้ใจร้อนเกินไปหรือเปล่า”เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา พลางเบะปาก เขาจำเป็นต้องใจร้อนขนาดนี้ไหม?
เมื่อกี้เธอใช้เสียงปลอม เขาฟังเสียงเธอออกแล้วหรือเปล่า?
ได้ยินคำพูดของเธอ ดวงตาเย่ซือเฉินกะพริบแล้วกะพริบอีก แต่ยังคงไม่ขยับ ยังคงมองเธออยู่อย่างนั้น
ถึงแม้เธอจงใจเปลี่ยนเสียง แต่เขาก็ทายออกว่าเป็นเธอในเวลาสั้นๆแล้ว เพราะคนที่เข้ามาในบ้านเขาได้มีไม่กี่คน
“คุณเย่ต้องการบริการหรือไม่ ไม่ต้องการฉันไปล่ะ?”เวินลั่วฉิงเห็นเขาอึ้งไม่ขยับอยู่อย่างนั้น มุมปากอดยกขึ้นไม่ได้
เธออุตส่าห์มาเองแล้ว เขากำลังตอบสนองอย่างไรอยู่?
เวินลั่วฉิงทำท่าหันหลังจะไป
ในที่สุดเย่ซือเฉินก็ได้สติ รีบเอื้อมมือไปดึงเธอไว้ ใช้แรงหน่อยก็ดึงเธอมาอยู่ในอ้อมกอดสำเร็จ
มาแล้วยังคิดจะไปอีก?
ไม่ใช่บอกมีบริการพิเศษหรอกเหรอ?
อืม เขาจะดูสิว่าเธอมีบริการพิเศษแบบไหน?
“พูดมาสิว่ามีบริการพิเศษอะไร?”เย่ซือเฉินกัดที่ริมฝีปากเธอ จากนั้นก็เงยหน้ามองเธอ หางคิ้วของเขายกขึ้น
อืม ดีเยี่ยม
“คุณเย่ต้องการบริการอะไร?”เวินลั่วฉิงมองเขาด้วยดวงตาสว่างไสวอย่างเย้ายวน รอยยิ้มละมุนละไม ระหว่างที่พูด มือของเธอยื่นไปที่หน้าอกของเขา แล้วแตะที่หยดน้ำทีละหยด
ดวงตาเย่ซือเฉินมืดลงหลายครั้ง เขาจ้องมือที่อยู่ตรงหน้าอกของเขา นิ้วมือเรียวยาวของเธอ คล้ายกับนำพาไฟมา ทุกการสัมผัสทำให้ผิวของเขาเกิดไฟลุกโชน
“สาวน้อย คุณกำลังจุดไฟอยู่นะ”ยามนี้เสียงของเย่ซือเฉินก็แหบหลายส่วนอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่ใช่เธอมากะทันหันจนทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน เขาคงจะเอาเธออย่างหื่นกระหายแต่แรกแล้ว
“คุณเย่ งั้นมานวดกันก่อนไหม?”เวินลั่วฉิงรู้ว่าตัวเองกำลังจุดไฟอยู่ เธอก็จงใจทำอย่างนี้อยู่แล้ว เห็นผลตรวจดีเอ็นเอแล้ว เธอรู้สึกอยากทำตามใจอย่างอิสระสักครั้ง
ไม่เช่นนั้น เธอมาหาเขาที่บ้านทำไม?