ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 735 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 735 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(1)
บทที่ 735 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(1)
ตราบใดที่โลกใบนี้ยังคงหมุนอยู่ คดีนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเธอที่มาดูแลมันเลยด้วยซ้ำ
แต่ หยวนจุนหลินกลับให้ถังหลินเป็นคนโทรหาเธอ ด้วยเหตุนี้ บ่งบอกได้ว่าเป็นเรื่องที่จริงจัง และละเอียดอ่อนอยู่พอสมควร ทำให้เธอไม่สามารถผลักไสมันไปได้
“คดีอะไรคะ?”เวินลั่วฉิงที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก หญิงสาวสงสัยว่านี่จะเป็นข้ออ้างของหยวนจุนหลินด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอไม่อยากที่จะไปเจออีกฝ่ายสักเท่าไหร่
ตอนนี้เธอมีเรื่องที่ต้องทำอยู่มากแล้ว และแน่นอนว่า เหตุผลหลักที่ไม่อยากไปนั้นก็เป็นเพราะคุณชายสามเย่
“มันเป็นคดีที่ยุ่งยากอยู่พอสมควร หยวนจุนหลินเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ พอรู้เรื่องนี้เข้า ก็รีบหาเธอเลยทันที ”ถังหลินเองไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีอะไรที่มันผิดปกติ และฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วก็เหมือนจะรู้รายละเอียดของเหตุการณ์อยู่บ้าง
เวินลั่วฉิงนิ่งงันไป หรือเธอจะคิดมากเกินไป ? หรือมันจะเป็นแค่เรื่องของคดีเท่านั้นจริงๆ ถังหลินก็บอกเองว่ามันยุ่งยากซับซ้อน แสดงว่ามันก็คงจะสำคัญจริงๆ
“ฉิงฉิง เรื่องนี้มันยุ่งยากจริงๆ ถ้าเธอสะดวกก็ไปช่วยเขาดูหน่อย ดูสิว่าพอจะหาเบาะแสอะไรได้บ้าง” ถังหลินไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากเวินลั่วฉิง จึงได้พูดเสริมไป
“ได้ค่ะ”ถังหลินพูดมาขนาดนี้แล้วเวินลั่วฉิงเองก็ยากที่จะปฏิเสธมันไปได้
“อืมดี เดี๋ยวพี่ส่งที่อยู่ไปให้ เธอก็ออกไปเลยแล้วกัน หยวนจุนหลินรอเธออยู่ ”ถังหลินที่กำลังยุ่งอยู่ ไม่ได้พูดอะไรมากมายกับเวินลั่วฉิง พอวางสาย ก็ส่งที่อยู่ให้กับเวินลั่วฉิง จากนั้นก็เงียบหายไป
เวินลั่วฉิงมองที่อยู่ที่ถังหลินส่งมาให้ ก็ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคลับเฮาส์แห่งหนึ่ง หยวนจุนหลินนัดเขาไปคุยเรื่องคดี ที่คลับเฮาส์ ?
แต่ว่า เธอเองก็รับปากถังหลินไปแล้ว และคิดว่าถังหลินคงบอกหยวนจุนหลินไปแล้วเช่นกัน และเธอก็คงจะกลับคำไม่ได้แล้ว อีกอย่าง ถังหลินก็บอกเองว่าเป็นคดีที่ยุ่งยากจริงๆ
เวินลั่วฉิงถอนหายใจเบาๆ เธออยากจะนอนพักสักงีบทำไมมันถึงได้ยากเย็นจัง ?
เวินลั่วฉิงไม่ได้เดินขึ้นบันไดไป เธอหันหลังกลับ กะจะเดินออกไป
“แม่ครับ แม่จะออกไปอีกแล้วเหรอ ? ”ถังจื่อโม่เด็กน้อยที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยปากถามออกไป เพียงแต่ว่า ในขณะนี้เองดวงตาของเด็กน้อยมีความประหลาดใจปรากฏขึ้น
“ครับ แม่มีธุระนิดหน่อย ต้องออกไปแปบหนึ่ง” เวินลั่วฉิงหันมองไปยังลูกชาย แล้วยิ้มออกมา
“ฉิงฉิง เมื่อกี้ได้ยินว่ามีคดีอะไร ใช่คุณหยวนไหม ? ” เฟิ่งเหมียวเหมียวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พอเดาเหตุการณ์ออกอยู่บ้าง
“ค่ะ เขาให้พี่ถังหลินโทรหาหนูแล้วค่ะ พี่ถังหลินบอกว่าเป็นคดีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ให้หนูไปช่วยดูให้หน่อย ”หากสายที่โทรมานี้ไม่ใช่ถังหลินเวินลั่วฉิงไม่มีทางออกไปอย่างแน่นอน
“หรือมันจะเป็นเพราะเรื่องคดีจริงๆอย่างนั้นเหรอ ? ”เฟิ่งเหมียวเหมียวนิ่งคิด หรือว่าที่ผ่านมาเธอเข้าใจผิดมาโดยตลอด ?
“หากเป็นเพราะเรื่องคดีจริงๆ งั้นหนูก็รีบไปเถอะ ให้ลุงหลี่ไปส่งแล้วกัน” เฟิ่งเหมียวเหมียวเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปยังใบหน้าของเวินลั่วฉิง แล้วพูดเสริมไปอีกคำว่า :“สองสามวันมานี้หนูเองก็แทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยอย่าขับรถไปเองเลยนะ ”
ประโยคนี้สื่อความหมายมากมายนัก
เวินลั่วฉิง:“……”
การที่เธอพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นอาการมันชัดเจนขนาดนั้นเชียว ?
อันที่จริงแล้ว เมื่อคืนหลังจากที่คุณชายสามเย่หยุดกิจกรรมลงแล้ว เธอก็ได้นอนหลับสบายดี
แต่ไม่ว่ายังไง เรื่องแบบนี้ เวินลั่วฉิงก็เห็นว่ามันไม่น่าที่จะอธิบายอะไรเท่าไรนัก
ถังจื่อโม่ฟังที่เฟิ่งเหมียวเหมียวพูด ก็กะพริบตาปริบๆ เขารู้สึกว่า การคาดคะเนก่อนหน้านั้นของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นถูกแล้ว
หยวนจุนหลินอยากเจอแม่ของเขาไม่ใช่เพราะอยากจะคุยเรื่องคดีอะไรนั้นหรอก
โอ๊ย นี่มันข่าวใหญ่แล้ว มีคนอยากจะตีท้ายครัวของเย่ซือเฉิน ?
ยิ่งไปกว่านั้น คู่แข่งคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเสียด้วย ! !
เขาควรจะต้องช่วยเย่ซือเฉินแล้วไหม !!
มองดูเวินลั่วฉิงเดินออกไป ดวงตาของถังจื่อโม่ก็เป็นประกายเล็กน้อย เขาคิดว่าเรื่องนี้ เขาต้องลงมือเองเสียแล้ว
ไม่ควรปล่อยให้แม่เขาโดนแย่งไปแบบนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่พอใจในตัวเย่ซือเฉินอยู่ก็ตาม แต่น้องสาวของเขาก็พอใจพ่อคนนี้อยู่มาก
แน่นอนว่า เขาคิดว่าบททดสอบของเย่ซือเฉินน่าจะเริ่มต้นขึ้นได้แล้ว นี่ก็ถือบททดสอบด่านแรกเลยก็แล้วกัน
“คุณย่าครับ ผมนัดกับเสี่ยวหมิงจื่อไว้ว่าจะไปเล่นที่บ้านกับเขาวันนี้ ใกล้ได้เวลาแล้ว……”ถังจื่อโม่มองไปยังเฟิ่งเหมียวเหมียว ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่น่ารักและไร้เดียงสา
“ห๊า?งั้นเหรอ?แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ ?เดี๋ยวย่าไปส่งแล้วกัน”เฟิ่งเหมียวเหมียวรักและเอ็นดูหลานทั้งสองมาก คำขอของหลานทั้งสองนั้นจะเชื่อและฟังไม่เคยขัดใจเลยสักครั้ง
เสี่ยวหมิงจื่อเป็นหลานชายของท่านปู่หลี่ ถังจื่อโม่เพิ่งไปที่ตระกูลหลี่มาเมื่อวานนี้ เลยทำให้เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ได้สงสัยอะไร
“ไม่ต้องครับ ผมให้คนขับรถไปส่งผมก็ได้ คุณย่า ผมจะสายแล้ว ผมไปก่อนนะครับ”ถังจื่อโม่มีแผนของตัวเอง ให้เฟิ่งเหมียวเหมียวไปส่งไม่ได้เด็ดขาด พอพูดเสร็จก็เตรียมจะออกบ้านไปทันที
“เดี๋ยวย่าไปส่ง ย่าจะไปตระกูลหลี่ไปเยี่ยมคุณย่าหลี่ด้วย”เฟิ่งเหมียวเหมียวหันกลับไปหยิบกุญแจ แล้วเดินไปอุ้มถังจื่อซี :“หลานรักเราไปกัน ย่าจะพาหนูไปเที่ยวนะ ”
ถังจื่อโม่ตะลึงงัน จากนั้นก็ขยิบตาไปให้น้องสาว
โดยปกติแล้ว ถังจื่อซีชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านมาก พอได้ยินว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวจะพาออกไปข้างนอก ก็ดีใจขึ้นมาทันที แต่เมื่อเห็นพี่ชายขยิบตามาแบบนี้
ถังจื่อซีขยิบตาปริบๆ และกะพริบมันอีกครั้ง ในที่สุดก็เข้าใจความหมายของพี่ชาย จากนั้นเธอก็กอดเฟิ่งเหมียวเหมียว แล้วพูดอย่างออดอ้อนไปว่า :“คุณย่าค่ะ หนูไม่อยากออกไปเที่ยวข้างนอก หนูอยากเล่นของเล่นอยู่ที่บ้าน ของเล่นที่ซื้อมาเมื่อวานหนูยังไม่ได้เล่นเลยนะคะ คุณย่าขา อยู่เล่นของเล่นกับหนูที่บ้านได้ไหมคะ ?”
เด็กน้อยถังจื่อซีในเวลาแบบนี้ก็ฉลาดนัก และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเธอเข้าใจความหมายของพี่ชาย
“งั้น?”เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกย้อนแย้งขึ้นมา วันนี้ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังมีธุระออกไปข้างนอก เพราะฉะนั้นจึงเหลือเธอเพียงคนเดียวที่อยู่บ้านกับหลานทั้งสอง ตอนนี้หลานรักทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน และเธอก็แยกตัวไม่ได้
นี่ก็เป็นปัญหาอีกหนึ่งปัญหาเช่นกัน
“คุณย่า อยู่เป็นเพื่อนน้องที่บ้านเถอะครับ ผมให้คนขับรถไปส่ง” ถังจื่อโม่แอบส่งสัญญาณมือไปให้น้องสาวเพื่อจะบอกกับเธอว่าเธอเก่งมาก ไม่รอให้เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ตอบกลับมา เด็กน้อยก็วิ่งออกจากบ้านไปทันที
ตระกูลถังมีคนขับรถโดยเฉพาะ แต่วันนี้ขับรถไปส่งท่านปู่ถังกับท่านย่าถังแล้ว และเมื่อกี้ก็ขับไปส่งเวินลั่วฉิง เพราะฉะนั้นจึงเหลือเพียงคนขับรถที่อายุน้อยที่สุดนั้นก็คือ เสี่ยวหลิว
คนขับรถเสี่ยวหลิวไม่ใช่คนของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลแต่เป็นคนที่ถังหลินพามาจากข้างนอก เพียงเพราะ—ทักษะการขับรถที่ดี
ในความคิดของถังจื่อโม่ก็ต้องการให้เป็นเขาคนนี้ที่เป็นคนขับรถให้ในตอนนี้ เพราะคนคนนี้ดูจะคุยง่ายที่สุดแล้ว และคงไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครต่อใครในบ้าน หากเขาให้คนเก่าแก่ที่อยู่มานานเป็นคนขับไปส่ง พวกเขาเหล่านั้นคงไม่ยินยอมทำตามเป็นแน่
“เร็วครับ ไปส่งผม”ถังจื่อโม่หาคนขับรถที่ชื่อเสี่ยวหลิวเจอแล้ว ก็รีบดึงมือให้เดินตามไป
“คุณชายน้อย จะไปไหนครับ?” คนขับเสี่ยวหลิวนิ่งอึ้งไปอยู่ตระกูลถังนอกจากถังหลินแล้ว น้อยคนนักที่จะเรียกใช้เขา คนส่วนใหญ่กลัวที่จะต้องนั่งรถไปกับเขา เพราะเขาขับรถเร็ว