ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 739 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 739 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(5)
บทที่ 739 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(5)
อย่าว่าแต่โทรกลับเลย แม้แต่ข้อความเย่ซือเฉินก็ไม่ส่งกลับมา
หากไม่เป็นเพราะหลังจากที่เขาส่งรูปถ่ายไปให้กับชายหนุ่มแล้ว เย่ซือเฉินก็โทรมาหาแม่ของเขาทันทีแล้วละก็ เขาคงคิดว่าตัวเขาเองนั้นส่งรูปไปให้ผิดคนเป็นแน่
ปฏิกิริยาของเย่ซือเฉินนั้นยังปกติอยู่ไหม ? สำหรับถังจื่อโม่แล้วนั้นคิดว่ามันผิดปกติเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่า เด็กน้อยถังจื่อโม่รู้ดีว่า เย่ซือเฉินโทรเข้าเบอร์แม่แล้วแม่ไม่รับสาย ยังไงก็ต้องหาวิธีตามหาจนเจอเป็นแน่
งั้น เขาก็จะรออยู่ที่นี่ รอดูละครที่พร้อมจะเริ่มฉายมันแล้วกัน ! !
ในตอนนี้เวินลั่วฉิงเองอ่านแฟ้มคดีจบแล้ว คดีนี้ค่อนข้างซับซ้อน เขาเองก็ไม่สามารถที่จะหาเบาะแสเชื่อมโยงทั้งหมด ได้ในทันที
“ดูจบแล้ว?”หยวนจุนหลินมองมายังเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เธอใช้เวลาดูเอกสารเร็วขนาดนั้นเชียว ?
“ค่ะ ดูจบแล้ว แต่ว่ายังต้องการข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมนะคะ”เวินลั่วฉิงละเอียดรอบคอบในการทำงาน ไม่เคยสะเพร่ามันเลยแม้แต่น้อย
“คุณต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมครับ ? ผมจะได้ให้คนส่งมาให้ ”หยวนจุนหลิน ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว ชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้เธอจากไปในตอนนี้
“ได้ค่ะ”เวินลั่วฉิงนิ่งอึ้งไป แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอบอกข้อมูลที่เธอต้องการเพิ่มเติมออกไป เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จัดการแก้ไขให้เสร็จโดยเร็ว เรื่องนี้ก็จะยิ่งจบได้เร็วขึ้น
หยวนจุนหลินจดบันทึกลงไป ทีละเรื่องอย่างจริงจัง แล้วส่งต่อไปให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ ให้พวกเขาไปหาข้อมูลที่เวินลั่วฉิงต้องการเพิ่มเติมมา
“จื่อโม่ หนูมานี่ได้ยังไง?” เวินลั่วฉิงเพิ่งจะได้มองไปยังถังจื่อโม่ มองดูถังจื่อโม่ที่เล่นซนอยู่กับมือถือ และดูเหมือนเริ่มมีอาการไม่พอใจ และเบื่อขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว
เวินลั่วฉิงคิดว่าถังจื่อโม่ยังเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ปล่อยให้นั่งรอไปแบบนี้ เวินลั่วฉิงเองก็อดสงสารไม่ได้
“คนขับเสี่ยวหลิวส่งผมมาครับ”ถังจื่อโม่กำลังคิดถึงเรื่องของเย่ซือเฉิน เมื่อได้ยินที่เวินลั่วฉิงถาม ก็ตอบกลับไปโดยไม่รู้ตัว
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้คนขับเสี่ยวหลิวพาหนูกลับไปก่อนนะ ธุระของแม่ยังต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย” เป็นเพราะคนขับเสี่ยวหลิวที่พาเขามา เวินลั่วฉิงเองก็ไม่กังวลอะไรมากนัก
“แม่……แม่บุญธรรมครับ ผมอยากจะอยู่ที่นี่ด้วย”ถังจื่อโม่ปฏิเสธทันที เขาเตรียมการวางแผนไว้แล้ว ยังไม่เห็นผลลัพธ์เลย จะกลับไปง่ายๆแบบนี้ได้อย่างไรกัน
“แม่อาจจะยังต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ เป็นเด็กดีนะ กลับไปก่อน”เวินลั่วฉิงไม่อยากให้ถังจื่อโม่นั่งรอเธออยู่แบบนี้ และเธอเองก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าธุระนี้จะเสร็จ
“หรือไม่ ผมให้คนพาเขาไปเดินเล่นรอบๆนี้ก็ได้นะครับ คลับเฮาส์ที่นี่มีที่สนุกให้เล่นอยู่มากมายเลยนะครับ” ดวงตาของหยวนจุนหลินเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเด็กน้อยกับคุณถังนั้นใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นพิเศษ!
ความสัมพันธ์ของแม่บุญธรรมกับลูกบุญธรรมจะสนิทสนมกันได้ขนาดนี้เชียวเหรอ ?
“ไม่เป็นไรค่ะ ให้คนขับรถพาเขากลับไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวคนที่บ้านจะเป็นกังวลเปล่าๆ ” เวินลั่วฉิงเดาว่าที่ถังจื่อโม่ตามมานั้น คนที่บ้านคงไม่มีใครรู้เรื่องเป็นแน่ หากที่บ้านรู้ว่าถังจื่อโม่หายตัวไป เรื่องคงจะวุ่นวายใหญ่โตแน่ๆ
“ก็ได้ครับ งั้นผมจะกลับไปก่อน”ถังจื่อโม่เบะปาก ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว เขาก็คงต้องกลับไปก่อน
ไม่ เขาจะไม่กลับไปในสภาพแบบนี้แน่นอนหากแม่เขาไม่ยอมให้เขาอยู่ต่อ งั้นเขาออกไปรอเย่ซือเฉินด้านนอกก็ได้
เขามีโทรศัพท์ หากที่บ้านหาเขาไม่เจอ ยังไงก็ต้องโทรหาเขาก่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน
“เดี๋ยวแม่ไปส่งที่รถ ”เวินลั่วฉิงไม่ค่อยวางใจเท่าไรนัก เธอรู้จักถังจื่อโม่เป็นอย่างดี หากถังจื่อโม่แอบตามเธอมาได้ขนาดนี้ คงไม่ยินยอมที่จะกลับไปง่ายๆเป็นแน่
ดวงตาของถังจื่อโม่กะพริบปริบๆ ถูกแม่ของเขาอ่านเกมออกจนได้
แม้ว่าถังจื่อโม่จะไม่เต็มใจเท่าไรนักแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของเวินลั่วฉิง
หยวนจุนหลินมองหญิงสาว มุมปากยกยิ้มขึ้น อยากจะเอ่ยพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เก็บมันเอาไว้ก่อนดีกว่า
เวินลั่วฉิงพาถังจื่อโม่ลงไปยังชั้นล่าง เธอไม่ได้พาเด็กน้อยไปหาเสี่ยวหลิว แต่กลับพาไปที่รถของลุงหลี่แทน
“ลุงหลี่ คุณส่งเขากลับไปก่อน”เวินลั่วฉิงเปิดประตูออก แล้วดันให้ถังจื่อโม่ขึ้นไปบนรถ
ให้ลุงหลี่ไปส่งถังจื่อโม่ เธอจะสบายใจมากกว่า
“นายน้อยมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ ?”ลุงหลี่อึ้งไปทันที แต่พอเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ก็พอจะเดาได้
พอถังจื่อโม่ขึ้นรถไปแล้ว เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้เดินจากไปทันที แต่รอให้รถของลุงหลี่แล่นออกไปก่อน เธอถึงได้หันหลัง แล้วกลับไปที่คลับเฮาส์
บนรถ ใบหน้าของถังจื่อโม่หมองลงไปเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่า แม่ของเขาจะให้คนขับเสี่ยวหลิวพาเขากลับไป หากเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังกลับมาได้อีก เพราะการพูดโน้มน้าวเสี่ยวหลิวนั้นยังเป็นเรื่องง่ายอยู่มาก
แต่คนตรงหน้าเขาคือลุงหลี่ถังจื้อโม่รู้สึกยากขึ้นอยู่มาก แต่ว่า เขาไม่ยอมแพ้แน่นอน
ถังจื่อโม่ก้มศีรษะลง เพียงครู่เดียว น้ำตาก็ไหลเป็นทาง แน่นอนว่า เขายังส่งเสียงพูดออกมาด้วย
เมื่อลุงหลี่ได้ยินเสียง ก็หันหลังกลับมามองทันที และพอเห็นคุณชายน้อยก้มหน้า และกำลังร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้น ก็ตกใจขึ้นมาทันที :“คุณชายน้อย เป็นอะไรไปครับ ?”
“แม่ผม แม่รังเกียจผมใช่ไหมครับ เธอไม่ต้องการผม เธอมาออกเดต เลยรังเกียจผม ไม่อยากให้ผมอยู่คอยขวางเลยต้องรีบส่งผมกลับบ้านไปก่อน”
ถังจื่อโม่รู้ดีว่าเวินลั่วฉิงมาที่คลับเฮาส์นี้เพื่อพูดคุยเรื่องงาน แต่ตอนนี้เขาจำต้องพูดมันไปอย่างนั้น
“คุณชายน้อย ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ คุณหนูใหญ่จะรังเกียจคุณได้ยังไงกันละ……”ลุงหลี่ที่เห็นน้ำตาเศร้าเสียใจของเด็กน้อยถังจื่อโม่ ก็อดที่จะสงสารไม่ได้
“แม่เกลียดผม ไม่อย่างนั้น เธอจะรีบให้ผมกลับบ้านไปทำไม เพราะเธอรังเกียจผม กลัวว่าผมจะขัดขวางการเดทของเธอ” ถังจื่อโม่ที่ยิ่งร้องก็เศร้า และยิ่งร้องก็ยิ่งเสียใจมากขึ้นไป จากนั้นก็สะอึกสะอื้น สร้างความทุกข์ใจให้กับผู้พบเห็นยิ่งนัก
“คุณชายน้อย หยุดร้องไห้เถอะนะครับ” ลุงหลี่ที่เห็นสภาพของถังจื่อโม่ หัวใจก็แทบสลาย เห็นสภาพของเด็กน้อยแล้วก็คงจะเสียใจมาก
“ลุงหลี่ ผมอยากไปหาแม่ พาผมกลับไปนะครับ ”ถังจื่อโม่สะอื้นไห้ในที่สุดก็พูดจุดประสงค์ของตัวเองออกไป
“แต่ คุณหนูใหญ่ให้ผมส่งคุณกลับไปนะครับ ” ลุงหลี่ลังเลเล็กน้อย คำสั่งของคุณหนูใหญ่ เขาไม่ทำตามไม่ได้
“ผมไม่เข้าไปก็ได้ ผมจะรอแม่อยู่ด้านนอก” ถังจื่อโม่เห็นท่าทีลังเลบนใบหน้าของลุงหลี่ ก็พูดเสริมออกไปอีกว่า :“ลุงหลี่ ผมจะรอแม่อยู่กับลุงข้างนอกนี่แหละ ”
“โอ้ งั้นก็เอาตามนั้นแล้วกัน”ลุงหลี่คิดว่าความคิดนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ไม่รบกวนคุณหนูใหญ่ คุณชายน้อยเองก็จะได้ไม่ต้องเศร้าเสียใจอีกด้วย
พอคิดได้อย่างนั้นลุงหลี่ก็เลี้ยวหัวรถกลับไปยังเส้นทางเดิมทันที
เมื่อถังจื่อโม่บรรลุจุดประสงค์แล้ว น้ำตาของเขาก็หยุดไหลทันที น้ำตาของเขาเหมือนกับก๊อกน้ำ บทจะเปิดก็ไหลออกมา และพอปิดก็แห้งเหือดไปเปิดปิดมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ !!
กลับมายังที่คลับเฮ้าส์อีกครั้ง ริมฝีปากของถังจื่อโม่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างชัดเจน ไม่มีอาการเศร้าเสียใจแต่อย่างใดอีก
เขารอเย่ซือเฉินในสภาพแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ! !