ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 759 ถังจื่อซีประกาศอย่างมาดเข้มว่า คนนี้คือพ่อของฉัน (7)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 759 ถังจื่อซีประกาศอย่างมาดเข้มว่า คนนี้คือพ่อของฉัน (7)
คาดว่าแม่ของเธอเจ้าเยว่หรู ปกติก็ชอบพูดคำหยาบอยู่ในบ้านประจำ เมื่อเด็กๆฟังจนคุ้นหู ก็มักจะเรียนตาม
พ่อของหรวนซินซินเจ้าชู้เป็นสันดาน เลี้ยงหญิงจิ้งจอกไว้ด้านนอกไม่น้อย สิ่งที่เจ้าเยว่หรูทำเยอะที่สุดก็คือหญิงจิ้งจอก บางครั้งเธอยังพาซินซิน ไปด้วยกัน……
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เจ้าเยว่หรูถึงขั้นพาหรวนซินซินไปจับชู้ที่โรงแรม ซึ่งเห็นหรวนสิงกับหญิงจิ้งจอกนอนกลิ้งอยู่บนเตียงคาหนังคาเขา
เจ้าเยว่หรูนำหรวนซินซินพุ่งเข้าใส่ จากนั้นก็ดึงผ้าห่มออก ก่อนจะตบตีกับหญิงจิ้งจอกร่างกายล่อนจ้อน
ตอนนั้นหรวนซินซินยังช่วยเจ้าเยว่หรูตบหญิงจิ้งจอกด้วย ส่วนหรวนสิงที่เปลือยกายก็ยืนมองอยู่ด้านข้าง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงไม่น้อย
เหตุการณ์ลักษณะนั้นหรวนซินซินเจอมาเยอะ ฟังก็เยอะ จึงพลอยฝึกคำหยาบที่ใช้ด่าคนได้ ต่างว่ากันว่า เด็กคือกระจกของผู้ใหญ่ คำนี้ไม่ผิดเลยสักนิด
ปกติเจ้าเยว่หรูเป็นคนอย่างไร ลูกของเธอก็จะเป็นเช่นนั้น
หรวนซินซินยิ่งด่ายิ่งเจ็บแสบ หากไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง คงไม่กล้าเชื่อว่าคำเหล่านั้นจะออกจากปากของเด็กอายุเก้าขวบ
สีหน้าเย่ซือเฉินยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
เลขาหลิวก็ยิ่งรู้สึกโกรธ แต่ละคนทนฟังต่อไม่ไหวแล้ว แค่เด็กอมมืออายุเก้าขวบ ทำไมด่าถึงทรวงอย่างนี้
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่เธอด่าคือเด็กที่อายุไม่ถึงห้าขวบ
ด่าคำพูดอย่างนี้กับเด็กอายุไม่ถึงห้าขวบ เป็นใครก็ทนฟังไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เจ้าเยว่หรูไม่มีทีท่าจะขัดขวางหรวนซินซินเลย เจ้าเยว่หรูไม่ได้รู้สึกผิดต่อคำด่าของลูกสาวเธอ ตรงกันข้าม กลับรู้สึกสะใจเป็นพิเศษ
ปีศาจน้อยที่หน้าไม่อายต้องด่าอย่างนี้แหละ ต้องให้พวกเธอรู้ความร้ายกาจของเธอ
เมื่อเทียบกับความโมโหของหรวนซินซินแล้ว เด็กน้อยถังจื่อซีนั้นอารมณ์มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้าของถังจื่อซีไม่ได้เผยความโกรธเลยแม้แต่น้อย
คุณชายสามเย่มองถังจื่อซี พลางยกคิ้วขึ้น เด็กคนนี้ท่าทางสุขุมใจเย็นอย่างนี้เหมือนใครนะ?
ตอนนี้คุณชายสามเย่ไม่เป็นห่วงว่าเด็กน้อยคนนี้จะโดนรังแก เขากลับรู้สึกว่า ไม่แน่อาจมีช็อตเด็ดให้ดูก็เป็นได้
ดังคาด ถังจื่อซีมองหน้าหรวนซินซิน พลางพูดแบบไม่ช้าไม่เร็ว“เธออิจฉาที่ฉันสวยกว่าเธอ น่ารักกว่าเธอ น่าเอ็นดูกว่าเธอ ยอมรับเถอะ”
อากัปกิริยานี้ ออร่าเช่นนี้ ราศีของราชันหญิงโดยแท้
“ไม่ ฉันไม่ยอมรับ เธอมันอีดอก ขยะ……”หรวนซินซินยิ่งโมโหก็ยิ่งด่าต่อไม่หยุด หากไม่ใช่เธอกลัวเย่ซือเฉิน คาดว่าคงเข้าไปตบหน้าถังจื่อซีแล้ว
เวลาหรวนซินซินด่าคนอื่น เจ้าเยว่หรูก็ไม่เคยว่ากล่าวตักเตือนเธอเลย อีกทั้งยังชมเธอ ดังนั้นหรวนซินซินไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด กลับด่าได้แบบพอใจมาก
แววตาของเย่ซือเฉินในตอนนี้เย็นมาก เย็นมาก แต่เขาเห็นท่าทางของถังจื่อซีจึงอดกลั้นเอาไว้ ไม่ได้พูดอะไร
ถังจื่อซียังคงไม่โกรธ มุมปากของเธอยกขึ้น เผยรอยยิ้มที่สดใสร่าเริง ดูแล้วน่าเอ็นดูมาก
ทุกคนเห็นถังจื่อซียิ้มก็มึนไปหมด เด็กคนนี้ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย ยังคงยิ้มอย่างสดใสเช่นเดิม เธอช่างใจกว้างเหลือเกิน
ผู้ใหญ่ทั่วไปยังไม่ใจกว้างเท่าเธอเลย
หรือเป็นลูกของท่านประธานจริงๆ?
ดวงตาของถังจื่อซีมองไปยังหรวนซินซินอีกครั้ง สายตาของเธอมองจากหัวของหรวนซินซินไปยังปลายตีน พลางขยับมุมปาก จากนั้นพูดทีละคำอย่างช้าๆ“ถึงเธอจะไม่ยอมรับก็เปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้หรอก เธอหนะใบหน้าเหมือนจานดาวเทียม เตี้ยเท่าฟัก หลังค่อม ตูดแบน ขาใหญ่ ดำเหมือนอีกา”
เย่ซือเฉิน“……”
เลขาหลิว“……”
ทุกคน“……”
โอ้โห โอ้ๆ นี่ นี่ นี่มันยอดเยี่ยมไปเลย
เด็ด เด็ด เด็ด คำพูดพวกนี้เด็ดมากจนจุเข้าถึงทรวงอกกันเลย
แต่ทำไมฟังแล้วรู้สึกรื่นหูจัง?
เด็กน้อยไม่พูดคำหยาบสักคำ แต่กลับพรรณนาหรวนซินซินจนไร้ชิ้นดี
คนนี้เป็นลูกใครกันแน่?ทำไมเก่งกาจเพียงนี้?
ทุกคนมองไปยังหรวนซินซิน พบว่าสิ่งที่เด็กน้อยคนนี้พูดล้วนเป็นคนจริง เจ้าเยว่หรูหน้าตาไม่ดีอยู่แล้ว บวกกับหรวนซินซินมีพ่อที่อัปลักษณ์กว่า ส่วนหรวนซินซินนั่นได้รับเชื้อยีนเด่นของทั้งสองมาเต็มๆ ดังนั้นหน้าตาของหรวนซินซินก็ยากจะพูดออกมาให้หมด
แน่นอน คำพูดของเด็กน้อยเว่อร์ไปนิดๆ
อืม เว่อร์นิดหนึ่ง
เวลานี้หรวนซินซินยืนประชันหน้ากับถังจื่อซี มันช่างต่างกับราวฟ้ากับดินจนไม่อาจดูต่อไปได้
และไม่รู้ว่าใครให้ความมั่นใจในตัวเองกับหรวนซินซิน ถึงกล้ามาแย่งความโปรดปรานกับถังจื่อซี
แถมยังแย่งความโปรดปรานจากคุณชายสามเย่อีก?คุณชายสามเย่เหมือนตาบอดหรอกเหรอ?
เห้อถงถงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักอยากจะปรบมือดังๆ เพราะจื่อซีสุดที่รักของเธอยอดเยี่ยมไปเลย
คิดว่าลูกสาวของเวินลั่วฉิงกับคุณชายสามเย่จะรังแกได้ง่ายๆอย่างนั้นเหรอ?
ถังจื่อซีกลับไม่รู้สึกตกตะลึง ความสามารถในการทะเลาะวิวาทของน้องสาวผ่านการฝึกฝนจากคุณลุงมู่หรง ขนาดเขายังไม่กล้าไม่ยั่วโมโหเธอเลย
ต่อมาคุณลุงมู่หรงก็ยอมแพ้ไม่กล้าหาเรื่องน้องสาวอีก
ใครยุคนนั้นตาย
“แม่ แม่ เธอด่าหนู เธอรังแกหนู”หรวนซินซินเก้าขวบแล้ว รู้ว่าสิ่งไหนสวยสิ่งไหนอัปลักษณ์แล้ว เมื่อถูกถังจื่อซีต่อว่าเช่นนี้ก็รู้สึกโกรธเคือง แต่เธอรู้ว่าเธอด่าสู้ถังจื่อซีไม่ได้ จึงให้คุณแม่ช่วย
ถังจื่อซีเบะปากเล็กด้วยใบหน้าเอือมระอา โตขนาดนี้แล้ว โต้เถียงแพ้ถึงขั้นให้คุณแม่ช่วย
ตอนเธอเถียงคุณลงมู่หรงไม่ชนะ เธอยังไม่ไปหาคุณแม่เลย เธอใช้ความสามารถของตัวเองล้วนๆ สุดท้ายก็นำชนะมาได้
บัดนี้ผู้ล้อมดูก็ทนรับการกระทำของหรวนซินซินไม่ได้อีกต่อไป แต่ถึงอย่างไรหรวนซินซินก็เป็นเด็กอายุเก้าขวบ ทุกคนจึงพูดอะไรไม่ได้
ทุกคนรู้สึกว่าสถานการณ์อย่างนี้ เจ้าเยว่หรูผู้เป็นมารดาควรสั่งสอนหรวนซินซินเสียบ้าง
เพราะหรวนซินซินด่าถังจื่อซีก่อน และคำพูดของหรวนซินซินด่าได้แรงมาก แต่ถังจื่อซีกลับพูดแบบอ้อมค้อมเยอะมาก ไม่ได้มีคำหยาบปนอยู่เลย
“เธอ เด็กอย่างนี้ไม่การอบรมเสียการจริง แม่ของเธอสอนให้ด่าคนอื่นอย่างนี้เหรอ?”แต่สิ่งที่ทำให้คาดไม่ถึงก็คือเจ้าเยว่หรูไม่เพียงแต่ไม่ติเตียนหรวนซินซิน กลับตะคอกใส่ถังจื่อซี
เจ้าเยว่หรูจ้องถังจื่อซีตาเขม็ง เผยแววตาโหดเหี้ยมออกมา เธอเกลียดคนที่ว่าลูกสาวเธอขี้เหร่มากที่สุด และยัยเด็กคนนี้ก็มาด่าลูกสาวเธออย่างนี้ ช่างชิงชังเหลือเกิน
ทุกคน“……”
ด่าคน?
เมื่อกี้หรวนซินซินด่าแบบฟังไม่ได้ แต่เธอก็ไม่สน ตอนนี้เด็กน้อยไม่พูดคำหยาบเลยสักคำ แค่พูดตามความจริงเท่านั้น
เธอยังมีหน้ามาบอกว่าเด็กน้อยคนนี้ไร้การอบรมสั่งสอนหรอกเหรอ?ลูกสาวของเธอต่างหากที่ไร้การอบรมบ่มเพาะ?
มีผู้ปกครองอย่างนี้ด้วยเหรอ?มิน่าล่ะถึงสอนลูกกลายเป็นคนอย่างนี้…