ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 771คุณชายสามเย่สืบเรื่องของลูกได้แล้ว (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 771คุณชายสามเย่สืบเรื่องของลูกได้แล้ว (3)
“ได้เลย ได้เลย งั้นฉันรีบกลับไป ต้องช่วยแม่เลือกดีๆนะ จากนั้นแม่ก็จะทิ้งพ่อเลย” เจ้าเด็กถังจื่อซีปรบมือด้วยความดีใจ ดีใจมากๆ เลย
ขณะนี้ คุณชายสามเย่ที่อยู่บนรถกำลังประชุมวิดีโออยู่จู่ๆ ก็จามติดต่อกันขึ้น
เลขาหลิวอึ้งไปเลย รีบปรับอุณหภูมิของในรถให้สูงขึ้น เลขาหลิวคิดว่าเป็นเพราะเครื่องปรับอากาศแรงเกินไป!!
และการประชุมต่อจากนี้ คุณชายสามเย่ไม่มีอารมณ์หรือความคิดใดๆ เลย ขณะที่ฟังอยู่ จู่ๆ ก็เหม่อลอยขึ้นมา
ถึงแม้ว่าแววตาของคุณชายสามเย่จะจ้องอยู่ที่หน้าจอคอม แต่กลับฟังไม่เข้าเลยแม้แต่อักษรเดียว อักษรเดียวก็ฟังไม่เข้าหูเลย
“ฉันพูดจบแล้ว เย่ นายมีความเห็นอะไรหรือเปล่า?” คนทางนั้นได้รายงานเรียบร้อยแล้ว
คุณชายสามเย่กลับยังคงเหม่อลอยต่อ ไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับเลย
“เย่? คุณฟังอยู่หรือเปล่า?” คนที่อยู่อีกทางหนึ่งในวิดีโอคอลอึ้งไปเลย อดถามกลับไปประโยคหนึ่งไม่ได้
แต่ว่า คุณชายสามเย่ก็ยังคงไม่มีการตอบสนองกลับใดๆ เหมือนเดิม ยังคงเหม่อลอยเหมือนเดิม
อีกทางหนึ่งของวิดีโอคอล ผู้บริหารต่างก็อึ้งไปหมด นี่เกิดอะไรขึ้น
ท่านประธานของพวกเขากลับเหม่อลอยในตอนที่ประชุม?
“สัญญาณขาดไปหรือเปล่า?” คนทางนั้นอดถามออกไม่ได้แล้ว พวกเขาไม่มีทางเชื่อว่าท่านประธานของพวกเขาจะเหม่อลอยในตอนที่ประชุม พวกเขายอมที่จะเชื่อว่าสัญญาณขาดหายไปมากกว่า
“ฉันเห็นท่านประธานอยู่ท่านี้มานานมากแล้ว ไม่ขยับอะไรเลย สัญญาณขาดหายไปแล้วแน่ๆ ค้างแล้ว”
“ใช่ ใช่ สัญญาณขาดหายแน่ๆ ท่านประธานอยู่ข้างนอกด้วย ตอนนี้อยู่บนรถ สัญญาณไม่ดี”
“ใช่บ้าบออะไร เขากะพริบตาแล้วแท้ๆ อีกอย่างทางของเขาก็มีเสียงดังผ่านมาด้วย” ผู้ชายที่ทำการรายงานเมื่อกี้ตะโกนดังขึ้น
ถึงแม้ว่ารถของคุณชายสามเย่จะสามารถกั้นเสียงดีมาก ไม่มีแม้แต่เสียงรบกวนเลย แต่ไม่ว่ายังไงแล้วคุณชายสามเย่ก็อยู่ข้างนอก ก็ยังมีเสียงบางอย่างที่ดังผ่านมา
ทุกคนได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ต่างก็เงียบไปเลย จากนั้นก็ได้ยินเสียงบีบแตรของทางนั้นดังผ่านมา ถึงแม้ว่าเสียงจะไม่ดัง แต่ว่าพวกเขาต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว
ส่วนท่านประธานของพวกเขานั้นยังคงอยู่ในท่าเดิม
เลขาหลิวที่ขับรถอยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากในวิดีโอคอล ก็อดมองไปทางประธานของบ้านตัวเองไม่ได้
เห็นท่าประธานเหม่อลอยอยู่ ไม่ได้ยินคำพูดในวิดีโอคอลเลย เลขาหลิวก็เบ้ปากหนักมาก
“ท่านประธาน การประชุมวิดีโอคอลจบแล้วหรอครับ?” เลขาหลิวคิดไปคิดมา ก็ถามไปด้วยความอ้อมค้อมหนึ่งประโยค
คำพูดนี้ของเลขาหลิวคืออยากจะเตือนคุณชายสามเย่หน่อย ให้คุณชายสามเย่รีบดึงสติกลับมาทันที แล้วทำการประชุมต่อ
เขาคงจะไม่สามารถบอกท่านประธานตรงๆ ได้หรอก การประชุมวิดีโอคอลยังไม่จบจะต้องตั้งใจประชุมถูกไหม?
การประชุมพึ่งเริ่มขึ้น แน่นอนว่าคงไม่จบง่ายขนาดนั้น ขอแค่คุณชายสามเย่ดึงสติกลับมาได้ ก็จะรู้แล้ว
“อ่อ อ่อ” คุณชายสามเย่ได้ยินเสียงของเลขาหลิวแล้ว ก็ค่อยๆ ดึงสติกลับมา แล้วตอบกลับไปสองคำ
จากนั้น จากนั้น……
จากนั้นเลขาหลิวก็เห็นท่านประธานบ้านเขาพับคอมลงทันทีเลย
เลขาหลิว “…….”
ให้ตายเถอะ!!
เขา เขาทำอะไรไปเนี่ย? เขาทำอะไรลงไปกันเนี่ย?
ทำไมเขาถึงต้องทำว่าการประชุมจบลงหรือยัง ทำไมถึงต้องพูดคำว่าตบคำนี้?
ตอนนี้เขาอยากจะเก็บกลับมา ยังทันอยู่ไหม?
แต่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ไม่ทันแล้ว
เพราะว่าท่านประธานของเขาปิดคอมลงแล้ว
เมื่อกี้ท่านประธานไม่เห็นเลยหรอว่าทางนั้นมีผู้คนมากมายขนาดนั้นมองเขาอยู่ รอเขาอยู่ ถึงขั้นกำลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่?
คนที่อยู่อีกทางหนึ่งของวิดีโอคอลต่างก็อึ้งกันไปหมด!!
นี่เกิดอะไรขึ้น?!
การประชุมวิดีโอคอลพึ่งเริ่มขึ้น ทำไมถึงจบลงแล้วล่ะ? เรื่องหลักที่สำคัญยังพูดไม่ถึงเลย
เมื่อกี้ทางนั้น พวกเขาเห็นชัดๆ เลยว่าท่านประธานขยับแล้ว แสดงว่าสัญญาณไม่ได้หายขาดอะไร และไม่ได้ค้าง
แต่ว่าทำไมท่านประธานถึงปิดไปแบบนี้ล่ะ? หรือว่าท่านประธานคิดว่าจบลงแล้ว?!
ขอถามหน่อย เมื่อกี้ท่านประธานเหม่อลอยไปถึงฟ้าชั้นไหนแล้ว?
การประชุมวิดีโอคอลนี้สำคัญมาก ท่านประธานเห็นเป็นเรื่องเล่นๆแบบนี้หรอ?
เห็นเป็นเรื่องเล่นๆ แบบนี้เลย
นี่ยังเป็นท่านประธานที่เก่งกล้าอยู่หรือเปล่า?
“ท่านประธาน แผนการที่ประชุมเมื่อกี้ในวิดีโอคอลต่างก็ผ่านหรือยังครับ?” เลขาหลิวรู้ถึงความสำคัญในการประชุมวิดีโอคอลในเมื่อกี้ เลขาหลิวก็รู้ดีว่าการประชุมนั้นยังไม่จบ ฉะนั้นก็เลยอยากจะเข้ามาช่วยหน่อย
เลขาหลิวรู้สึกว่า การเตือนแบบนี้ของเขาน่าจะชัดเจนมากพอเลย ท่านประธานบ้านเขาน่าจะรู้แล้ว
“อื้ม? อืม” คุณชายสามเย่ตอบกลับด้วยเสียงเบาไปประโยคหนึ่ง ราวกับว่ามีความสงสัยเล็กน้อย แต่ว่าคำสุดท้ายกลับมีน้ำเสียงที่แน่ชัด
คำพูดประโยคนี้ของเขาชัดเจนมากๆแล้ว แสดงว่าผ่านแล้ว
เลขาหลิว “……”
ท่านประธานพูดโกหกแบบนี้หน้าไม่แดงเลยหรอ?
ขอถามหน่อยว่าอะไรบ้างที่ผ่านแล้ว?
พึ่งเริ่มเมื่อกี้แท้ๆ อะไรก็ยังไม่ได้พูด คุณก็ปิดแล้ว
คำพูดของเขาชัดเจนขนาดนี้แล้ว ท่าประธานกลับยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ กลับยังมองไม่เห็นถึงปัญหา
ตอนแรก เรื่องนี้สำคัญมากๆ และหนักมากๆ ตามหลักแล้วท่านประธานควรจะไปด้วยตัวเอง แต่ว่าท่านประธานเพื่อคุณผู้หญิง ไม่อยากไป บอกว่าจะจัดการด้วยการประชุมวิดีโอคอล
ในเมื่อจะจัดการด้วยการประชุมวิดีโอคอล ท่านประธานครับ คุณก็จัดการอย่างตั้งใจสิครับ นี่พึ่งเริ่มต้น ท่านก็บอกว่าจบแล้ว นี่นับเป็นเรื่องอะไรเนี่ย?
รู้ว่าบ้านของท่านนั้นมีธุรกิจใหญ่มากมาย ไม่กลัวล้มละลาย แต่ท่านก็ไม่สามารถเอาแต่ใจแบบนี้?
เลขาหลิวอยากจะถามท่านประธานของตัวเองมากๆ แผนการอะไรบ้างที่ผ่านแล้ว?
เลขาหลิวรู้ว่าท่านประธานของบ้านตัวเองต้องตอบไม่ออกแน่ๆ
แต่ว่าเลขาหลิวคิดไปคิดมา สุดท้ายก็ไม่กล้าถามออกมา
และในขณะนี้ โทรศัพท์ของคุณชายสามเย่ก็ดังขึ้น คุณชายสามเย่มองไปหนึ่งที จากนั้นก็รับ
“แย่ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณถึงปิดวิดีโอคอลไป?” เสียงของทางนั้นมีความกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดเจน ทางนี้ก็มีเรื่องมากมายที่ไฟรนตูดแล้ว รอให้เขาจัดการอยู่
“จบแล้วไม่ใช่หรอ?” คุณชายสามเย่ยังดึงสติกลับมาได้ไม่หมดเลย คำพูดนี้ก็พูดออกจากปากแบบนี้เลย
เลขาหลิว “……”
ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ หากเป็นไปได้ เขาไม่อยากยอมรับเลยว่านี่เป็นท่านประธานของบ้านเขา
“จบอะไร? พึ่งเริ่มแท้ๆ? ยังไม่ได้เริ่มคุยอะไรกันเลย ทำไมถึงจบแล้วล่ะ? ทำไมถึงจบแล้ว” ผู้ชายที่อยู่อีกทางหนึ่งของวิดีโออึ้งไปเลย จากนั้นเสียงตะโกนก็ดังผ่านมา
เมิ่งหยวนคือคนรับผิดชอบในทางนั้น และก็เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ปกติแล้วเขาก็มีความกลัวคุณชายสามเย่มาก แต่ว่าครั้งนี้ เขากระวนกระวายจนงงไปแล้ว
ดวงตาของคุณชายสามเย่กะพริบขึ้น อาจจะเพราะว่าคำนึงถึงปัญหาเมื่อกี้แล้ว จากนั้นเขาก็ตอบกลับอย่างมีมารยาทว่า “ยังไม่จบก็ยังไม่จบ ตะโกนอะไรกัน? ไม่มีกาลเทศะเลย”
เลขาหลิว “……”
มีวินาทีหนึ่ง เลขารู้สึกได้ถึงว่าตัวเองเกือบจะโยนพวงมาลัยทิ้งออกไปแล้ว
ให้ตายเถอะ นี่คือท่านประธานบ้านเขาจริงๆ หรอ? คือท่านประธานบ้านเขาจริงๆ หรอ?