ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 781 นี่เป็นการใส่ร้าย (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 781 นี่เป็นการใส่ร้าย (2)
แต่เวินลั่วฉิงคิดว่า แม้นพวกเขาจะวางแผนรัดกุมเพียงใด แต่คงเอาของอย่างนั้นของถังหลินไม่ได้ง่ายๆหรอก?
นอกเสียจากถังหลินจะทำอย่างนั้นจริงๆ ช่าง……
เวินลั่วฉิงมองไปยังเตียงที่ยุ่งเหยิงอีกครั้ง ซึ่งเป็นเตียงที่ถังหลินนอนเมื่อคืน!!
ถังหลินอยู่ในห้องตลอด คนอื่นคงมาทำให้เตียงยุ่งเหยิงอย่างนี้ไม่ได้ เตียงของถังหลินยุ่งขนาดนี้ มีเพียงถังหลินเป็นผู้ทำเท่านั้น
เวินลั่วฉิงนึกความเป็นไปได้นี้ก็รู้สึกตกใจ เธอคิดว่าเรื่องนี้รุนแรงกว่าที่ถังหยุนเฉิงคาดการณ์ไว้
เวินลั่วฉิงรีบชำเลืองมองแพทย์นิติเวชที่กำลังตรวจสอบอยู่ ดวงตาเวินลั่วฉิงเคร่งขรึมอีกครั้ง
และในเวลานี้แพทย์นิติเวชเดินออกมาพร้อมกับถือผลตรวจมาด้วย ซึ่งเพิ่งได้ผลตรวจสดๆร้อนๆ!!
ตอนที่เขาเดินมา มองถังหลินด้วยแววตาเลือนรางยากต่อการเข้าใจ
หัวใจเวินลั่วฉิงถูกบีบอย่างแรง สังหรณ์ใจว่าผลตรวจไม่เป็นผลดีกับถังหลินเอามากๆ……
ดวงตาถังหยุนเฉิงมองไปยังแพทย์นิติเวช พูดให้ถูกต้องก็คือมองผลตรวจในมือหมอ
เวินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างกายถังหยุนเฉิง เธอพบว่ามือของถังหยุนเฉิงกำลังสั่น ถังหยุนเฉิงกำลังเครียดและหวาดกลัว
“หัวหน้ากู้ ผลตรวจออกมาแล้วครับ”หมอนิติเวชเดินไปอยู่ตรงหน้ากู้ฉิ้งหยู่พลันยื่นผลตรวจให้กู้ฉิ้งหยู่
กู้ฉิ้งหยู่เป็นรุ่นหลานของตระกูลกู้ อายุไม่มาก เป็นหัวหน้าตำรวจที่รับผิดชอบทำคดีนี้
เวินลั่วฉิงมองไปยังกู้ฉิ้งหยู่ด้วยตาหรี่ เท่าที่เธอรู้คนตระกูลกู้ไม่ใช่คนทำงานกระตือรือร้น แบบหากไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวจะไม่ตื่นแต่เช้า ดังนั้นคดีนี้ต้องเกี่ยวพันกับตระกูลกู้อย่างแน่นอน
ทว่าช่วงเรื่องตระกูลกู้ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น อย่างคดีครั้งก่อนก็ทำให้ตระกูลกู้ได้รับบทลงโทษหลายคน เรียกได้ว่าเสียหายอย่างหนักกันเลยทีเดียว
สำหรับเรื่องในวันนี้ เกรงว่าคงไม่ใช่ฝีมือตระกูลกู้เพียงฝ่ายเดียว
โรงแรมกั๋วซินใช้มาต้อนรับแขกของประเทศชาติที่มาจากนอกประเทศ ครั้งนี้มีองค์ชายจากประเทศ Dมาร่วมเจรจาหาข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ
เนื่องจากประเทศDกับแปดตระกูลใหญ่ร่วมกันทำธุรกิจมาโดยตลอด ซึ่งธุรกิจส่วนมากที่อยู่ในประเทศ Dจะมีถังหลินเป็นผู้ดูแลเกือบทั้งหมด
ฉะนั้นเมื่อวานถังหลินกับหยวนจุนหลินไปต้อนรับเจ้าชายทั้งสองพระองค์จากประเทศ D
ซึ่งระหว่างที่เข้าพบเมื่อวานไม่มีคนของตระกูลกู้เลย
จากตารางที่ตั้งไว้ วันนี้ถังหลินยังต้องไปดูงานเป็นเพื่อนเจ้าชายทั้งสองพระองค์ ดังนั้นเมื่อคืนถังหลินจึงเข้าพักที่โรงแรมพร้อมกับแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านนี้
ฉะนั้นคนทั่วไปไม่อาจวางแผนการร้ายเช่นนี้ได้เลย
“คุณแจ้งผลตรวจออกมาเลย”กู้ฉิ้งหยู่ไม่ได้รับ แต่ให้แพทย์นิติเวชบอกผลออกมา ซึ่งตอนนี้มีนักข่าวหลายคนอยู่ด้วย หากแพทย์นิติเวชพูดออกมาก็เท่ากับเป็นการประกาศให้โลกรู้แล้วล่ะ
ถังหยุนเฉิงเผยความกลุ้มใจออกมาทางสายตาทันที แต่กู้ฉิ้งหยู่ไม่ได้ดูผลตรวจ ดังนั้นกู้ฉิ้งหยู่ก็ไม่มีทางรู้ผลตรวจอย่างแน่นอน
ทว่าถังหยุนเฉิงก็อดสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้งไม่ได้ ดวงตาทั้งคู่ของเขาจับจ้องอยู่ที่ตัวแพทย์นิติเวช
แพทย์นิติเวชมองถังหลินแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยปากพูดว่า“ผลตรวจปรากฏว่าของเหลวที่นำมาจากตัวผู้เสียหายกับของตกค้างบนเตียงเป็นของคนเดียวกันครับ”
เวินลั่วฉิงตกใจเล็กน้อย มองเตียงในห้องอีกครั้ง กลางเตียงมีรอยคราบทิ้งไว้ เมื่อกี้หมอนิติเวชคงจากเก็นตัวอย่างจากจุดนี้ไปตรวจสอบ
ซึ่งกลางเตียงต้องเป็นจุดที่ถังหลินนอนแน่ๆ
ปกติถังหลินเป็นคนระวังตัวสูง คนนอกไม่มีทางวางของอย่างนั้นไว้ใต้ร่างกายเขาเด็ดขาด
อีกทั้งจากร่องรอยที่ทิ้งไว้ มันไม่ได้เพิ่งมี แต่มีมาได้หลายชั่วโมงแล้ว
“ตกลงเป็นของถังหลินหรือเปล่า?”กู้ฉิ้งหยู่ตาลุกวาว รีบถามหนึ่งประโยค
ถังหลินก้มหน้าโดยไม่พูดไม่ขยับมาตลอด ใบหน้าไม่ได้เผยอารมณ์ใดๆทั้งนั้น
หมอนิติเวชมองหน้าถังหลินแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดเสียงเคร่งขรึม“ใช่ครับ”
ดูออกว่าหมอนิติเวชก็ไม่อยากประกาศผลเช่นนี้ออกมา แต่ผลตรวจก็คือเช่นนี้ เขาปิดบังไม่ได้
ถังหยุนเฉิงได้ยินคำพูดของหมอนิติเวช ร่างกายพลันแข็งค้าง จากนั้นก็โซเซเล็กน้อย
เขาเป็นคนเชิญหมอนิติเวชคนนี้มา ตอนที่เขามาถึงยังไม่มีหมอนิติเวชมา ผู้หญิงคนนี้เรียกร้องหาหลักฐานยังที่เกิดเหตุทันที เขาจึงประสานงานให้หมอนิติเวชมา
เพราะเขารู้ว่าหมอนิติเวชคนนี้เป็นคนเที่ยงตรง ไม่มีทางทำของปลอมออกมาเด็ดขาด
เพราะเชื่อถือหมอนิติเวชได้ ถังหยุนเฉิงจึงคิดว่ายังพอมีหวังบ้าง ขอเพียงคราบอสุจิบนกายผู้หญิงไม่ใช่ของถังหลิน ผู้หญิงคนนี้ก็เท่ากับเป็นการปองร้าย
ทว่าเขาคาดไม่ถึงเลยสักนิดว่าผลจะเป็นเช่นนี้
ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?ทำไมเป็นแบบนี้?
เขารู้จักลูกชายของตนดี ไม่มีทางทำเรื่องอย่างนี้เด็ดขาด
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงช่วงที่ต้อนรับแขกระดับประเทศเลย
เช่นนั้นมันผิดพลาดตรงจุดใดกันแน่?
เวินลั่วฉิงก็ตกใจไปหมด เธอรู้ดีว่าผลตรวจเช่นนี้เป็นผลร้ายต่อถังหลินอย่างมหันต์
เท่ากับว่าเกือบเป็นหลักฐานที่มัดตัวถังหลินว่ามีความผิดได้แล้ว
เวินลั่วฉิงมองไปยังถังหลิน เธอเห็นถังหลินยังคงนั่งอยู่โดยที่ไม่พูดไม่ขยับกาย ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์ใดๆ
ไม่แม้กระทั่งความตกใจเลยสักนิด
ถังหลินได้ยินผลเช่นนี้กลับไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมาย ไม่รู้สึกตกใจเลยสักนิด?
ทำไม?ทำไมถังหลินไม่ประหลาดใจเลยสักนิด?
หรือถังหลินรู้อยู่แล้วว่าผลตรวจต้องเป็นเช่นนี้?
แล้วเขารู้ได้อย่างไร?
เรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่?เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ผมสืบเบาะแสได้แล้วครับ”บังเอิญกับเวลานี้ บอดี้การ์ดเดินมากระซิบข้างกายถังหยุนเฉิง
บอดี้การ์ดเห็นเวินลั่วฉิงก็อึ้ง หยุดการกระทำไปชั่วขณะ สีหน้าเผยความลังเลหลายส่วน
“พูดมาเลย”ถังหยุนเฉิงมองเขาแวบหนึ่ง พลางสั่งการเสียงกลัดกลุ้ม
บอดี้การ์ดมองหน้าเวินลั่วฉิงอีกครั้ง จากนั้นก็รีบรายงานว่า“ตอนแรกจองห้องนี้ให้แก่คุณชายสามเย่ครับ แต่เมื่อคนคุณชายสามเย่ไม่ได้มา”
ได้ยินคำนี้เวินลั่วฉิงก็ตะลึงงัน หมายความว่าอย่างไร?
แผนร้ายนี้เตรียมไว้เพื่อโจมตีเย่ซือเฉิน?หรือว่า……
เพราะเย่ซือเฉินไม่ได้มา ถังหลินมาพักแทน ดังนั้นถังหลินจึงถูกใส่ร้ายแทนเย่ซือเฉิน?
เช่นนั้นเป้าหมายเดิมของพวกเขาคือเย่ซือเฉินหรอกเหรอ?
“ความหมายของคุณคือตอนแรกพวกเขาจะจู่โจมเย่ซือเฉิน เพราะพี่ใหญ่นอนห้องของเย่ซือเฉิน ดังนั้นจึงถูก……”เวินลั่วฉิงได้ยินคำรายงานนี้จนรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เลยถามออกมาหนึ่งประโยค
“ไม่ แผนการเดิมที่พวกเขาอยากปองร้ายก็คือถังหลินกับเย่ซือเฉินทั้งสองคน”ถังหยุนเฉิงมองเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง ซึ่งแววตามีความเย็นที่เคร่งขรึมไว้หลายส่วน ถึงแม้เมื่อวานถังหลินไม่ได้นอนห้องนี้ แต่ก็ต้องเกิดเหตุการณ์เดียวกันแน่ๆ
โชคดีที่เย่ซือเฉินไม่ได้มา หากเย่ซือเฉินมาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เวินลั่วฉิงรู้สึกอึ้ง พลางกะพริบตารัวๆ ถังหยุนเฉิงพูดถูกต้องที่สุด!!
ดังนั้น…