ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 783 นี่เป็นการใส่ร้าย (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 783 นี่เป็นการใส่ร้าย (4)
แน่นอน ผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้อาจส่งนักข่าวที่พูดจาหยาบคายมาก็เป็นได้ ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังคนนี้วางแผนได้แยบยลมาก!!
“นี่คือหัวหน้ากู้ประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่าผมมีความผิดจริงๆหรือ?”ถังหลินที่อยู่ภายในห้องเอ่ยปากพูดเสียที ดวงตาอันเยือกเย็นของเขามองไปยังกู้ฉิ้งหยู่ ทุกความเย็นสามารถทำให้คนถูกแช่จนเป็นน้ำแข็งได้เลย
“หลักฐานชัดเจน คุณยังคิดจะปฏิเสธอีกเหรอ?”กู้ฉิ้งหยู่สบตากับถังหลินร่างกายก็แข็งค้าง ถึงแม้เขากับถังหลินจะมีอายุอานามใกล้เคียงกัน แต่เพียงแค่สายตาของถังหลินจะทำให้เขาสะพรึงกลัวได้แล้ว
พลานุภาพนี้ต่ำกว่าหนึ่งชั้นอย่างเห็นๆ
“หลักฐานชัดเจน?”ถังหลินยกมุมปากเล็กน้อย สายตาอันเยือกเย็นหันไปมองผู้หญิงที่กำลังร้องไห้อยู่บนโซฟา “คุณกง เมื่อคืนผมแตะต้องคุณหรือ?”
บัดนี้นอกจากน้ำเสียงของถังหลินที่เย็นแข็งก็จับความรู้สึกอย่างอื่นไม่ได้เลย
“เมื่อวานคุณทำเรื่องอย่างนั้นกับฉันแล้ว คุณยังคิดจะปฏิเสธอยู่เหรอ?”คุณกงเงยหน้ามองถังหลิน บัดนี้ดวงตาของเธอร้องไห้จนบวมแดงไปหมด ใบหน้าก็บวม มุมปากมีรอยเลือด ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก
เธอสำออยให้คนอื่นสงสารเก่งมาก
“ในเมื่อคุณกงยืนกรานว่าจะหาหลักฐานยังที่เกิดเหตุต่อหน้าทุกคน เช่นนั้นคุณกงก็ลองเล่าเรื่องเมื่อคืนดูสิ เพราะอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบอยู่แล้ว”ถังหลินมองไปยังผู้หญิงคนนั้น แววตาเย็นยะเยือกเจือความเย้ยหยันไว้หลายส่วน
เกิดเรื่องอย่างนี้กับเพศหญิงถือเป็นเรื่องอับอายอย่างยิ่ง ปกติมักจะสืบหาความจริงเงียบๆ แต่ผู้หญิงคนนี้เรียกร้องว่าจะหาหลักฐานต่อหน้าผู้คน ให้เปิดเผยการตรวจสอบ งั้นเขาเรียกร้องอย่างนี้ก็ถือว่าเหมาะสมดี
เวินลั่วฉิงชะงัก ทำไมถังหลินถึงทำอย่างนี้?
ในเมื่อผู้หญิงคนนี้แจ้งความจับถังหลิน แถมยังมีคนวางแผนเรื่องนี้ล่วงหน้า ดังนั้นผู้หญิงคนนี้ก็คงเตรียมคำพูดไว้เรียบร้อยแล้ว ถังหลินทำอย่างไร ไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาเลย
ทว่าวิธีการของถังหลิน ณ ตอนนี้ เวินลั่วฉิงมั่นใจว่าถังหลินไม่ได้แตะต้องผู้หญิงคนนี้
ดวงตาเวินลั่วฉิงสว่างวาบ ในเมื่อถังหลินไม่ได้แตะต้องผู้หญิงคนนี้ ถึงคำพูดจะเลิศหรูเพียงใดก็ต้องมีจุดรั่วอยู่ดี
ดังนั้นถังหลินจงใจถามเช่นนี้ คงอยากจับพิรุธของหญิงสาวคนนี้จากการเล่าเรื่องของเธอ
ดังนั้นตอนนี้ถังหลินฝากความหวังทั้งหมดไว้กับผู้หญิงคนนี้ ถังหลินเชื่อใจเธอมากจริงๆ
“ฉัน ฉัน……”คุณกงไม่ได้ประหลาดใจกับการเรียกร้องของถังหลินเลย และไม่มีอารมณ์ที่แปรปรวนมากนัก ดูได้ชัดว่าเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว
นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเล็งกล้องไปยังคุณกง
เวินลั่วฉิงอดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ อันที่จริงบางครั้งถังหลินนั้นจิตใจโหดร้ายมาก เพียงแต่ความละมุนละม่อมภาพนอกของถังหลินปิดบังนิสัยที่แท้จริงของเขาไว้
“คุณกง คุณไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆพูด”กู้ฉิ้งหยู่พูดปลอบโยนหนึ่งประโยคด้วยความเอาใจใส่
“เมื่อคืนฉันถูกสั่งให้นำถังหลินกับแขกต่างชาติไปที่ห้องพัก ซึ่งห้องพักขององค์ชายทั้งสองพระองค์ไปถึงก่อน ฉันเลยเปิดห้องให้ทั้งสองก่อน เมื่อทั้งสองพระองค์เข้าห้องแล้ว จากนั้นฉันก็ช่วยถังหลินเปิดห้องพัก ตอนที่ถังหลินเข้าห้อง ฉันเตรียมจะออกไป แต่จู่ๆถังหลินก็ดึงฉันเข้าห้อง แล้วปิดประตู……”คุณกงหยุดพูด สายตาทั้งคู่ของเธอมองไปยังถังหลินอย่างระมัดระวัง ร่างกายของเธอสั่นเทาคล้ายกับกลัวเป็นอย่างยิ่ง ดูแล้วชวนให้สงสารเหลือเกิน
ทว่าถังหลินไม่ได้ตอบสนองใดๆ ไม่แม้แต่มองเธอแค่แวบเดียว เธอกะพริบตารัวๆ จากนั้นก็เล่าต่อ “จากนั้นถังหลินก็กอดฉันแล้วจูบฉัน ตอนนั้นฉันกลัวมาก ฉันดิ้นอย่างสุดแรง ร้องขอความช่วยเหลือสุดชีวิต ถังหลินเลยตีฉัน ตีฉันจนเจ็บไปหมดทั้งตัว จากนั้นก็ทำ……”หญิงสาวพูดไปพลางร้องไห้ไปพลาง ชวนให้สงสารยิ่งนัก
“เดี๋ยว ความหมายของคุณก็คือขึ้นมาถึงชั้นนี้ปุ๊บ ถังหลินก็ดึงคุณเข้าห้องปั๊บ จากนั้นก็กระทำการชำเราคุณ……”ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็ถามขึ้นมาหนึ่งประโยค
ผู้หญิงคนนี้ได้ยินเสียงของเวินลั่วฉิงก็ชะงัก รีบมองไปยังเวินลั่วฉิง ความกระวนกระวายใจแวบผ่านบนใบหน้า แต่เธอก็สงบนิ่งในทันทีทันใด พลางพยักหน้าช้าๆ “ใช่”
ดวงตาแดงก่ำของคุณกงมองเวินลั่วฉิงด้วยความอยุติธรรมและเจือความสงสัยไว้อย่างแจ่มชัด
นักข่าวทุกคนรีบหันกล้องไปยังเวินลั่วฉิง ต่างคิดว่าเวินลั่วฉิงสังเกตพบอะไรบางอย่าง คิดว่าเวินลั่วจะกล่าวคำที่ระทึกใจออกมา
“อ้อ ฉันแค่ถามดูเฉยๆ คุณกงเล่าต่อเลย”เวินลั่วฉิงกลับยกคิ้วพร้อมกับยักไหล่ ดูท่าทางเธอแล้วเหมือนแค่ถามเฉยๆจริงๆ
แน่นอนเวินลั่วฉิงไม่ได้ถามสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเธอมั่นใจว่าคุณกงกำลังพูดปดมดเท็จอยู่ เธอรู้ว่าถังหลินเป็นคนอย่างไรดี
ถึงแม้ถังหลินต้องการผู้หญิงจริงๆ แต่ก็คงไม่ใจร้อนแบบรอไม่ไหวหรอก
ถังหลินขึ้นมาพร้อมกับองค์ชายทั้งสองพระองค์ จะดึงพนักงานเข้าห้องได้อย่างไร?
แต่พนักงานคนนี้ขึ้นมาพร้อมกับถังหลินจริงๆ ภาพในกล้องวงจรปิดแสดงว่าชัดเจนมาก
ตามหลักแล้ว พนักงานเปิดห้องให้แขกเสร็จก็ควรลงไป แต่พนักงานคนนี้ไม่ได้ลงไปชั้นล่าง
เธอไม่ลงไปก็ผิดปกติแล้ว ดังนั้นเธอจึงพูดเช่นนี้
คำโกหกก็คือคำโกหก ต้องมีวันถูกเปิดโปงแน่ๆ เวินลั่วฉิงถามเช่นนี้ก็เพื่อให้ทุกคนจดจำสิ่งนี้มากขึ้น หลังหาหลักฐานเจอแล้วค่อยตบหน้ากลับไปแรงๆอีกที
แน่นอน เวินลั่วฉิงรู้ว่าหลักฐานที่ว่านั้นหายากมาก
“ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบสวนคดีอยู่ นึกว่าจะถามส่งเดชได้หรือไง?”กู้ฉิ้งหยู่จำเวินลั่วฉิงได้ เขาจ้องเขม็งเธออย่างโหดร้าย
หางคิ้วเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย ยิ้มอย่างไร้เสียง“ตำรวจสอบสวนคดี?หัวหน้ากู้แน่ใจนะว่าตำรวจกำลังสอบสวนคดีอยู่?นี่ไม่ใช่ถังหลินถามคุณกงหรอกหรือ ตำรวจอย่างพวกคุณไม่แม้แต่จดบันทึกคำให้การ คุณมาบอกฉันว่าตำรวจทำคดีอยู่?คุณคิดว่านักข่าวที่อยู่ในนี้ตาบอดกันหมดแล้วหรือ?”
“ดังนั้นฉันของถามหัวหน้ากู้หน่อยนะว่านี่คือการตรวจสอบคดี?หรือเป็นการแสดงละครกันแน่?”เวินลั่วฉิงกำลังกลุ้มใจเรื่องไม่มีที่ระบายพอดี คาดไม่ถึงว่ากู้ฉิ้งหยู่จะเสนอหน้ามาให้เธอถึงที่
อืม ดีจัง ช่างรู้ความเสียจริง!!
“การกระทำของหัวหน้ากู้ คือเมื่อกี้ประกาศกำหนดโทษให้ถังหลินต่อหน้าทุกคน หัวหน้ากู้ ขอร้องล่ะ ถึงจะแสดงละครก็ตั้งใจหน่อย มีคนมากมายดูอยู่นะ สืบคดีไม่ตั้งใจอย่างนี้ ตัดสินโทษแบบกระตือรือร้นอย่างนี้ ทำอย่างนี้จะดีจริงๆหรือ?”เวินลั่วฉิงรู้ว่านักข่าวที่ขึ้นมาชั้นแปดได้ต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ ต้องมีสมอง และไม่ใช่ถูกผู้บงการเบื้องหลังจัดส่งมาทั้งหมด
นักข่าวได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง สีหน้าพลันเผยการครุ่นคิดหลายส่วน
เดิมทีการหาหลักฐานต่อหน้าผู้คน การตรวจสอบต่อหน้าผู้คนก็ถือเป็นเรื่องผิดปกติอยู่แล้ว ตอนนี้ผู้เสียหายให้ปากคำ แต่ตำรวจกลับไม่จดบันทึกเลย?!