ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 792 ผลที่เขาโกรธคือ ขุดผู้หญิงคนนั้นออกมาด้วยตัวเอง (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 792 ผลที่เขาโกรธคือ ขุดผู้หญิงคนนั้นออกมาด้วยตัวเอง (4)
เย่ซือเฉินมองกู้หวูอย่างเย็นเยียบ วันนี้กู้หวูทำตัวอิสระตามใจชอบเกินไปหรือเปล่า?!กู้หวูกล้าถามอย่างนี้กับเขา?เห็นทีจะคันตูดซะแล้วสิ
ทว่าคุณชายสามเย่ไม่ได้โมโหต่อหน้าเวินลั่วฉิงจริงๆ
คุณชายสามเย่ไม่ได้ตอบ ดวงตากู้หวูกะพริบรัวๆ:“ถึงแม้วิธีการร่วมเพศจะไม่เหมือนกัน แต่ก็เท่ากับเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ ดังนั้นผมรู้สึกว่าผู้ชายก็สามารถช่วยคลายฤทธิ์ยาเช่นนั้นได้เหมือนกัน”
กู้หวูขมวดคิ้วยุ่ง สีหน้าลังเลหลายส่วน:“งั้นเมื่อคืนถังหลินเอากับเจ้าชายใหญ่หรือเจ้าชายน้อย?”
“แค่น”เวินลั่วฉิงสำลักน้ำลายตัวเอง คนนี้ด่วนสรุปรวดเร็วทันใจ คล้ายกับมีเรื่องอย่างนี้จริงๆ!!
“ผมรู้สึกว่ายิ่งคิดก็ยิ่งเป็นไปได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่เขาแตะต้องไม่ใช่กงหยุนในสถานการณ์เช่นนั้น?หากเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เมื่ออยู่ภายใต้ความมืดก็จะให้ความรู้สึกเกือบเหมือนๆกัน มีเพียงคนนั้นเป็นผู้ชาย ถังหลินจึงรู้สึกถึงความต่างได้อย่างชัดเจน เรื่องนี้ถึงจะอธิบายได้สมเหตุสมผล”กู้หวูยิ่งพูดยิ่งเหมือน หากแม้ไม่ใช่เรื่องจริงก็ถูกเขาพูดเหมือนเป็นความจริงทุกประการแล้ว:“เหมือนถังหลินจะไม่เคยมีแฟนสาวมาก่อนเลยสักครั้ง ไม่แน่อาจจะโค้งงอ(เกย์)ก็ได้”
“ที่หมอนิติเวชมีผลตรวจDNA งั้นคิดหาวิธีเอาเส้นผมของเจ้าชายทั้งสองคนไปตรวจหน่อยไหม”ได้ยินกู้หวูพูด เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าลองตรวจดูก็ไม่เสียหาย
เพราะยังไงเสียตอนเกิดเหตุไม่มีใครอื่นอยู่บนชั้นแปดอีกแล้ว
ถ้าเกิดเป็นอย่างที่กู้หวูพูดจริงๆล่ะ?
คุณชายสามเย่หันไปมองเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง หากให้ถังหลินได้ยินคำพูดของเธอ ไม่รู้จะโกรธตายหรือเปล่า?
กล้าสังสัยว่าถังหลินโค้งงอ(เป็นเกย์)?!
“เรื่องนี้ให้ลูกพี่ไปจัดการเถอะ ความสัมพันธ์ของลูกพี่กับเจ้าชายใหญ่แน่นแฟ้นเช่นนี้ แค่เอาเส้นผมถือเป็นเรื่องง่ายมาก”อาจเป็นเพราะกู้หวูแน่ใจในความคิดนี้แล้วจริงๆ:“แต่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าชายใหญ่?หรือเป็นเจ้าชายเล็กน้อยแน่?”
เวินลั่วฉิง:“……”
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายใหญ่หรือเจ้าชายเล็ก สำหรับถังหลินแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลย!
ถังหลินคือพี่ชายของเธอ พี่ชายแท้ๆ แถมยังเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลถังอีกด้วย หากถังหลินโค้งงอ(เป็นเกย์)จริงๆ ตระกูลถังของพวกเขาจะพึ่งใครสืบทอดวงศ์ตระกูลกันล่ะ?
“ลูกพี่ ท่านจะไปเอาเส้นผมเมื่อไหร่?”กู้หวูรอไม่ไหวอย่างชัดเจน รอดูความคึกคักไม่ไหวแล้ว
กู้หวูเป็นคนดูความคึกคักความสนุกแบบไม่กลัวเรื่องจะใหญ่โตเลย
“ให้ถังหลินสืบเรื่องนี้เอง”เห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องเช่นนี้ เรื่องอย่างนี้ต้องให้ถังหลินเป็นคนทำ
“แต่ถังหลินยังถูกกักตัวอยู่ในสถานีตำรวจนะ”เวินลั่วฉิงหมุนนัยน์ตา ก่อนจะมองเย่ซือเฉินอย่างสงสัย ถังหลินก็อยากสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ถังหลินอยู่ในสถานีตำรวจออกมาไม่ได้
“พรุ่งนี้ก็ออกมาได้แล้ว”คุณชายสามเย่พูหนึ่งประโยคอย่างสบายๆ
เวินลั่วฉิง:“……”
พรุ่งนี้ถังหลินก็ออกมาได้แล้ว?เพราะอะไร?
ด้วยสิทธิอะไร?
ทำไมเย่ซือเฉินถึงกล้าพูดเช่นนี้?
“พรุ่งนี้ถังหลินก็ออกมาได้แล้วหรือ?สถานีตำรวจเป็นของคุณหรือไง?คุณจะให้ถังหลินออกมาเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นหรือ?”บัดนี้เวินลั่วฉิงรู้สึกช็อกจริงๆ จนถึงปานนี้เธอยังคิดหาวิธีให้ถังหลินออกมาไม่ได้เลย
หลังความช็อกของเวินลั่วฉิงผ่านพ้นไป จึงรีบเอ่ยถามอย่างรวดเร็วอีกครั้ง:“ถึงแม้ฉันจะหาข้อสงสัยว่าถังหลินไม่ใช่ผู้ร้ายของเรื่องนี้ได้ แต่ร่างกายของกงหยุนมีเชื้ออสุจิ ซึ่งผ่านหมอนิติเวชพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นจริง ด้วยสถานการณ์เช่นนี้จะปล่อยตัวถังหลินออกมาได้อย่างไร?”
ก่อนหน้านี้ถังหลินบอกให้เธอคิดหาวิธีปล่อยตัวเขาออกจากสถานีตำรวจ ถังหลินบอกว่าจะสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไม่มีทางเป็นอย่างที่เขาพูดได้เลย
ถังหยุนเฉิงไม่กล้าออกหน้าเรื่องนี้ คนในตระกูลถังทั้งหมดก็ไม่กล้าออกหน้าเช่นกัน
หากตระกูลถังออกหน้าประกันตัวถังหลินออกมา ตระกูลกู้ก็จะต้องจับเป็นจุดอ่อนในการโจมตีพวกเขา และหากตระกูลถังประกันตัวถังหลินออกมา ถึงแม้จะหาหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของถังหลินได้ภายหลัง แต่ก็คงยากที่จะให้ผู้คนเชื่อถือ
หยวนจุนหลินก็เคยไปสถานีตำรวจเพื่อวิ่งเต้นให้ถังหลินออกมา แต่ทางตระกูลกู้ยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้ จึงกลายเป็นว่าแม้แต่หยวนจุนหลินก็จนปัญญา
แล้วทำไมเย่ซือเฉินจึงพูดออกมาอย่างนี้?ทำไมเขาถึงมั่นใจว่าพรุ่งนี้ถังหลินก็ออกมาได้แล้ว?
ทว่าเย่ซือเฉินไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย เพราะเป็นเวินลั่วฉิงจึงพูดออกมาเช่นนี้ หากเป็นคนอื่น เขาจะไม่เปิดเผยแม้แต่นิดเดียว
“ลูกพี่ทำอย่างนี้ช่างไร้คุณธรรมจริงๆ ทำให้พวกเราสงสัยแล้วก็ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่สนใจ?”กู้หวูเห็นคุณชายสามเย่ไม่อธิบาย เห็นได้ชัดว่ามีความประหลาดใจเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
ไม่ ประหลาดใจมากๆต่างหาก!!
เขารู้ว่าลูกพี่เก่งกาจมาโดยตลอด แต่เรื่องนี้มันยากมาก ยากมากจริงๆ
“ไป กลับบ้าน”คุณชายสามเย่ไม่แม้แต่จะมองกู้หวูสักแวบเดียว เขาโอบกอดเวินลั่วฉิงแล้วพากันเดินออกไป
“เห้อ เห้อ เรื่องมันเป็นยังไง?ไปดื้อๆอย่างนี้เลยหรือ?”กู้หวูเห็นลูกพี่คิดจะไป พลางกระตุกมุมปากเล็กน้อย:“ลูกพี่ ผมอุตส่าห์เดินทางมาแต่ไกล แต่คุณกลับทำอย่างนี้กับผมนี่นะ”
คุณชายสามเย่ไม่สนใจเขา พาเวินลั่วฉิงออกไปโดยตรง
เพราะคดีของถังหลินจำเป็นต้องสืบในหลายๆแง่มุม ก่อนหน้านี้เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินปรึกษากันแล้วว่า ต่างฝ่ายต่างใช้ข้อมูลของตัวเองไปสืบหาความจริง หลังมีความคืบหน้าเมื่อไหร่ค่อยมาเล่าสู่กันฟังอีกที
อย่างนี้ผลลัพธ์จะเร็วขึ้นกว่าเดิม!
หลังเวินลั่วฉิงออกมาก็ได้รับสายจากตระกูลถัง จึงกลับไปดู ส่วนเย่ซือเฉินก็กลับเข้าไปในบริษัท
เย่ซือเฉินเพิ่งเข้ามายังห้องทำงานส่วนตัว เลขาหลิวก็เดินมาอย่างเร่งรีบ
“ท่านประธานครับ ผมสืบได้อีกเรื่องหนึ่งแล้วครับ”บัดนี้สีหน้าเลขาหลิวหนักอึ้งหลายส่วน ระหว่างพูดมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย
“เรื่องอะไร?”เพราะคดีของถังหลิน เย่ซือเฉินใช้กำลังพลไปสืบเรื่องของถังหลินไม่น้อย ดังนั้นเรื่องของเจ้าหญิงน้อยจึงมอบหมายให้เลขาหลิวไปสืบเสมอมา
เลขาหลิวแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก พลางมองเย่ซือเฉินอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เอ่ยปากพูดอีกครั้ง:“ผมสืบเจอว่าหกปีก่อนคุณนายเคยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลครับ”
“เรื่องเป็นยังไง?”สีหน้าเย่ซือเฉินเคร่งขรึมเล็กน้อย จิตใจก็กลัดกลุ้มตามไปด้วย เรื่องที่เธอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล?มีรายละเอียดว่าอย่างไร?
“หกปีก่อนคุณนายเคยได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล อันนี้คือข้อมูลที่คุณนายเข้าพักในโรงพยาบาลครับ”เลขาหลิวค่อยๆเดินเข้าไปด้านหน้า จากนั้นก็ยื่นเอกสารให้เย่ซือเฉิน
ร่างกายเย่ซือเฉินหดแน่น เขาเหมือนจะทายเรื่องได้พอสมควรแล้ว เพียงแต่หกปีก่อน?
เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ยังคงเอื้อมมือรับมา สายตาของเขาจดจ่ออยู่ที่เอกสารข้อมูลในมือ
ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์มาก มีรายละเอียดเวลาที่เวินลั่วฉิงเข้าโรงพยาบาล มีรายละเอียดรักษาอาการของเวินลั่วฉิง มีข้อมูลแพทย์ผู้ทำการรักษาตัวเวินลั่วฉิง และยังมีข้อมูลผ่าตัดของเวินลั่วฉิงอีกด้วย
คนนอกไม่มีทางเอาข้อมูลอย่างนี้ได้เด็ดขาด!!